การปรับเปลี่ยนที่สำคัญด้านหนึ่งคืองานด้านมวลชน ซึ่งที่ผ่านมาไม่เป็นขบวน ทำให้ภาพลักษณ์ของคนเสื้อแดงเสียหายหลายครั้ง จึงมีการแบ่งหน้าที่ในการควบ คุมดูแลคนเสื้อแดงออกเป็น 8 โซน
ภาคอีสาน ที่เปรียบเสมือนเมืองหลวง ของคนเสื้อแดงนั้น อยู่ในความดูแลของ นาย นิสิต สินธุไพร นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ นายขวัญชัย ไพรพนา และ นายสุทิน คลังแสง
ปรับมวลชนทั้งระบบ มุ่งหวังให้เสื้อแดงรุกอย่างเป็นเอกภาพ มีรายละเอียดอย่างไร นายนิสิต มีคำชี้แจง
ที่มาของการปรับโครงสร้างเสื้อแดง
การประชุมสัมมนา ปรึกษา หารือกันหลายรอบ ในที่สุดมีข้อสรุปตกผลึกว่า ต้องยกระดับองค์กรนำซึ่งเป็นส่วนกลาง โดยเฉพาะนปช.แดงทั้งแผ่นดิน ต้องมีการบริหารจัดการแบบรวมหมู่องค์กรแนวร่วม และองค์กรที่มีส่วนร่วมต้องมีส่วนในการจะร่วมกันตัดสินใจ
โดยมอบหมายให้นายวีระ มุสิกพงศ์ เป็นประธานนปช.แดงทั้งแผ่นดิน นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ เป็นโฆษก และนายมานิตย์ จิตต์จันทร์กลับ เป็นที่ปรึกษา พร้อมคณะกรรมการประสานงานร่วมชุดหนึ่ง เป็นองค์กรนำในการเคลื่อนไหวต่างๆ ต่อไปการเคลื่อนไหวทุกครั้งจะผ่านมติองค์กรร่วมเหล่านี้
หลังจากยกระดับองค์กรนำในการเคลื่อนไหวแล้ว ได้วางแผนและนโยบายตลอดจนกิจกรรมคือ ต้องการยกระดับแกนนำต่างจังหวัดเพื่อให้ชัดเจนเรื่องของเป้าหมาย นโยบายและกิจกรรม แผนงานให้สอดคล้องต้องกัน โดยจัดอบรมสัมมนาแกนนำต่างจังหวัด
โครงการสำคัญคือโรงเรียนนปช.แดงทั้งแผ่นดิน หลัก สูตรการเรียนการสอนยกร่างโดยคณะกรรมการ ประกอบด้วย นายจรัล ดิษฐาอภิชัย น.พ.เหวง โตจิราการ และภรรยาคือคุณธิดา นายชินวัฒน์ หาบุญพาด นายวิสา คัญทัพ และผม
การอบรมสัมมนาจะใช้สถานที่ที่ประหยัดที่สุด วัด สำนักสงฆ์ หรือโรงแรม ใช้งบประมาณต่อหัวไม่เกิน 200 บาท จัดอบรมรุ่นละ 250 คน 2 วัน 1 คืน แบ่งเป็น 2 ระยะคือ การอบรมสัมมนาแกนนำระดับจังหวัดทั่วทุกภาค และอบรมสัมมนาระดับอำเภอทั่วประเทศ จะสร้าง แกนนำวิทยากรหลัก 30-40 คนเพื่อดำเนินโครงการนี้
รุ่นแรกที่อบรมสัมมนาจะเริ่มวันที่ 8-9 ส.ค. คาดว่าจะเป็นที่จ.ขอนแก่น สถานที่อยู่ระหว่างการประสานงาน รุ่นต่อไปจะจัดทุกวันเสาร์-อาทิตย์ ต่อเนื่องไปประมาณ 5 รุ่น จะวนอยู่ในภาคอีสานก่อน
เนื้อหาของหลักสูตรคร่าวๆ วันแรกของการอบรมจะพูดถึงนโยบายหลักของนปช.แดงทั้งแผ่นดิน ว่าคืออะไร ตลอดจนวิธีคิดและวิธีทำงานของนปช. รวมไปถึงการจัดตั้งองค์กรและขยายองค์กร รวมไปถึงการประสานงานไปยังองค์กรต่างๆ ทั่วประเทศ
วันที่สองจะแบ่งกลุ่ม ศึกษาเรื่องการจัดทำแผนงาน กิจกรรมของแต่ละองค์กร ทั้งองค์กรระดับภาค ระดับจังหวัด ในการเสริมสร้างให้องค์กรนปช.มีความเข้มแข็ง มีเป้าหมายการเคลื่อนไหวที่ชัดเจน
แล้วเป้าหมายที่ชัดเจนคืออะไร
ภายหลังการยื่นถวายฎีกาให้พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ตั้งแต่วันที่ 31 ก.ค.เป็นต้นไป กิจกรรมที่นปช.แดงทั้งแผ่นดิน จะทำอยู่ภายใต้นโยบายหลัก 6 ข้อคือ 1.ไปสู่จุดมุ่งหมายทางการเมือง คือระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข 2.ต่อสู้ระบอบอมาตยาธิปไตยที่เป็นอุปสรรคในการพัฒนาการเมือง เศรษฐกิจและสังคม
3.เคลื่อนไหวตามแนวทางสันติวิธี 4.ชี้ให้ประชาชนเห็นว่าการแก้ปัญหาเศรษฐกิจ ต้องมาจากการเมืองที่อำนาจอธิปไตยต้องเป็นของประชาชนเท่านั้น 5.ต่อสู้เพื่อให้ประเทศชาติเป็นนิติรัฐ มีนิติธรรมอย่างแท้จริง ไม่เลือกปฏิบัติ ไม่สองมาตรฐาน 6.ยกเลิกรัฐธรรมนูญปี 2550 นำฉบับ 2540 มาปรับปรุงแก้ไข
ตอนนี้สมาชิกที่มีบัตรนปช. แต่ละจังหวัดรวมแล้วไม่ต่ำกว่า 3 ล้านคน ผมเชื่อว่าหากมีการทำบัตรนปช.แดงทั้งแผ่นดิน จะมีสมาชิกไม่ต่ำกว่า 10 ล้านคน จะเป็นองค์กรประชาธิปไตยที่ฝังรากลึกให้สังคม และเป็นสถาบันใน การรักษาประชาธิปไตยและต่อต้านเผด็จการในระยะยาว ต้องล้มอมาตยาธิปไตยและสร้างประชาธิปไตย
ภารกิจต่อไปของผู้ผ่านการฝึกอบรม
คาดว่าหลังการจัดอบรมสัมมนาระดับภูมิภาคและจังหวัด ต่อไปจะมีการจัดทำ"บัตรแดงทั้งแผ่นดิน" เพื่อจัดระบบสมาชิกแดงทั้งแผ่นดินในการจัดกิจกรรมต่อไป รูปแบบบัตรมอบให้ นายจตุพร พรหมพันธุ์ นายอริส มันต์ พงศ์เรืองรอง และนายสุภรณ์ ไปดำเนินการ
คิดกันไว้ฉากหลังของบัตรจะเป็นพื้นสีแดงที่เต็มไปด้วยคนเสื้อแดงมาร่วมชุมนุมกันอยู่ ชื่อสมาชิกผู้ถือบัตร มีเลขบัตร รหัส และจังหวัดที่สังกัด มีลายเซ็นนายวีระ เป็นผู้ออกบัตรให้
แจกฟรี ไม่เสียค่าใช้จ่าย และไม่เกี่ยวข้องกับพรรคการ เมืองคือ ไม่ใช่บัตรที่แสดงถึงความเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทย และไม่ได้ทำบัตรนี้ให้พ.ต.ท.ทักษิณแต่อย่างใด
การจัดทำบัตรนปช.แดงทั้งแผ่นดินอาจทำให้เกิดวิกฤตครั้งใหม่
การเมืองในระบอบประชาธิปไตยสนับสนุนให้มีกลุ่มประชาธิปไตยเกิดขึ้น การแตกต่างทางความคิดไม่ใช่ความ แตกแยก ขณะนี้เห็นชัดเจนว่ากลุ่มเสื้อแดงกับเสื้อเหลือง เพียงแตกแยกทางความคิด
พ.ต.ท.ทักษิณรับรู้การเคลื่อนไหวด้วย
การเคลื่อนไหวครั้งนี้เป็นเรื่องขององค์กรเครือข่ายนปช. พ.ต.ท.ทักษิณไม่ได้รับรู้ด้วย เป็นเพียงส่วนหนึ่งของขบวนการ ครอบครัวของพ.ต.ท.ทักษิณก็ไม่ได้มาเกี่ยวข้องหรือหนุนหลัง
ได้พบพ.ต.ท.ทักษิณล่าสุดเมื่อไหร่
กลางเดือนมิ.ย. ที่ดูไบ แต่ไม่ได้คุยเรื่องนี้ ไปไถ่ ถามสารทุกข์สุกดิบ เพราะ พ.ต.ท.ทักษิณเป็นห่วงบ้านเมืองประชาธิปไตย และเศรษฐกิจ
พ.ต.ท.ทักษิณ ขอ ให้นปช.ทบทวนการล่ารายชื่อยื่นถวายฎีกาหรือไม่
การถวายฎีกา พ.ต.ท. ทักษิณบอกว่าเป็นเรื่องธรรมชาติ เป็นเรื่องของประชาชน ไม่ได้พูดอะไรมาก เรื่องนี้เป็นมติของนปช.ที่เดินหน้าไปแล้ว
แกนนำนปช.ทั้งนายวีระ มุสิกพงศ์ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ และนายจตุพร พรหมพันธุ์ รวมถึงตัวคุณนิสิต ถูกมองว่าเคลื่อนไหวเพื่อหลอกเอาเงินจาก พ.ต.ท.ทักษิณ เพราะรู้ดีว่าผลสัมฤทธิ์ของการเคลื่อนไหวยากจะเกิดขึ้น
ผมไม่หลอกพ.ต.ท.ทักษิณแน่ และไม่เชื่อว่าทั้ง 3 คนจะหลอกเช่นกัน ดูจากกิจกรรมที่จัดขึ้น หากไปแสวงหาประโยชน์ส่วนตัวคงไม่สามารถนำและพาองค์กรคนเสื้อแดงขับเคลื่อนไปทั้งแผ่นดินได้ และมวลชนคนเสื้อแดงไม่ใช่คนโง่ที่จะมาขับเคลื่อนเพื่อผลประโยชน์ให้คนใดคนหนึ่ง
การเคลื่อนไหวของนปช. ถูกผูกโยงว่าพ.ต.ท.ทักษิณ ให้การสนับสนุนด้านเงินทุนต่างๆ มานานแล้ว แต่จากเหตุการณ์ 20 วัน ตั้งแต่วันที่ 26 มี.ค.-14 เม.ย. เห็นชัดเจนว่าประชาชนมาร่วมเคลื่อนไหวจำนวนมาก มีการบริจาคเงินจากผู้มีจิตศรัทธาจำนวนมาก ทำให้มีเงินทุนรองรับในการเคลื่อนไหว
วันนี้เลยจุด หรือสถานการณ์ที่จะถูกกล่าวหาว่าพ.ต.ท. ทักษิณสนับสนุนแล้ว เพราะประชาชนร่วมกันขับเคลื่อน อย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน โดยเฉพาะมีการจัดเลี้ยงโต๊ะจีนเพื่อชุมนุมขับไล่รัฐบาล ชาวบ้านออกเงินเอง กินเอง ออกค่ารถ ค่าเสื้อ เป็นปรากฏการณ์ที่อธิบายความได้ทุกเรื่องที่ถูกกล่าวหา มากัน 3-4 แสนคน คงไปจ้างมายากมาก
การเคลื่อนไหวขณะนี้เกิดขึ้นทุกภูมิภาค เดือนหนึ่งจัด 40-50 งาน ประชาชนคนเสื้อแดงจัดเอง
เป้าหมายสูงสุดของการเคลื่อนไหว
เป้าหมายเฉพาะหน้าต้องล้มรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ให้ได้ เพราะเป็นผลผลิตของระบอบอมาตยาธิปไตย โดยมติของนปช.แดงทั้งแผ่นดิน ต้องทำให้นายกฯ ยุบสภา เพราะจะให้ลาออกคงเป็นไปได้ยาก
ส่วนระยะยาวเราต้องการโค่นล้มระบอบอมาตยาธิปไตย และสถาปนาระบอบประชาธิปไตยอย่างแท้จริงให้เกิดขึ้นในสังคมไทย ความยุติธรรมต้องไม่มีสองมาตร ฐาน
เป้าหมายของนปช.แดงทั้งแผ่นดิน คือ เรียกร้องประชาธิปไตย กดดันให้นายกฯ ยุบสภา โค่นล้มอมาตยาธิปไตย และนำพ.ต.ท.ทักษิณ กลับประเทศไทย
พ.ต.ท.ทักษิณ อาจได้รับอานิสงส์ส่วนหนึ่งจากการต่อสู้ของนปช.แดงทั้งแผ่นดิน เมื่อสังคมเป็นประชาธิปไตย ก็สามารถกลับประเทศไทยได้อย่างสง่างาม
ขอบคุณเนื้อหาจาก ข่าวสด