กรุงเทพธุรกิจ
24 สิงหาคม 2549 18:33 น.
กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ : โฆษกรัฐบาลปฏิเสธรัฐบาลสร้างเรื่องลอบสังหารนายกฯ ยืนยันชัดมีหลักฐาน และเป็นระเบิดสังหารพร้อมทำงาน หวังผลโดยไม่คำนึงถึงความเสียหาย
เมื่อเวลา16.30 น. นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงข่าวความคืบหน้า กรณีที่เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของนายกรัฐมนตรี จับกุมรถยนต์บรรทุกระเบิดเพื่อลอบสังหารนายกรัฐมนตรี ได้เมื่อเช้าวันนี้(24 ส.ค.)ว่า เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นที่บริเวณถนนจรัลสนิทวงศ์ มีการพบรถยนต์หนึ่งคันจอดไว้ โดยมีระเบิดอยู่ในรถคันดังกล่าว เมื่อสอบถามข้อมูลต่างๆที่เกี่ยวข้องแล้ว มีรายละเอียดพอสังเขปดังนี้ รถคันดังกล่าวเคยมีการตรวจสอบพบเห็นก่อนหน้านี้สองครั้ง คือในช่วงที่นายกรัฐมนตรีเดินทางกลับมายังสนามบินบน.6 ก่อนหน้าที่จะมีการแจ้งตรวจรถต้องสงสัยคันนี้ หน่วยข่าวกรองแจ้งล่วงหน้า บ่งบอกลักษณะของรถและบุคคลที่เกี่ยวข้อง และกำหนดการของนายกรัฐมนตรี ในวันนี้ที่มีการแจ้งอย่างเป็นทางการคือ การประชุมยุทธศาสตร์ต่างประเทศ ร่วมกับรัฐมนตรีและบุคคลที่เกี่ยวข้อง แต่วานนี้ (23ส.ค.)เวลา 18.00 น. นายกรัฐมนตรีมีคำสั่งเรียกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาประชุมเร่งด่วน เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนที่ประสบอุทกภัย โดยเฉพาะจ.น่าน นายกรัฐมนตรี จึงนัดหมายการประชุมเวลา 08.30น.ของวันนี้
นพ.สุรพงษ์กล่าวว่าโดยปกตินายกรัฐมนตรีจะออกจากบ้านพักเวลา 09.00 น.เศษ แต่วันนี้นายกรัฐมนตรีเดินทางจากบ้านพักก่อนเวลา คือ 08.05 น. ระหว่างที่เดินทางมานั้น เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยสังเกตเห็นรถคันดังกล่าว จอดอยู่ใต้สะพานข้ามแยกจรัลสนิทวงศ์ จึงแจ้งกลับไปยังเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยชุดที่เหลือ ให้สังเกตการณ์สำรวจเจ้าของรถ จากนั้นไม่นานนักผู้ต้องหาเดินเข้ามาที่รถ และเปิดประตูขับรถออกไป 10 เมตรเศษ เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยจึงขอตรวจค้นรถ จึงพบวัตถุระเบิด เชื้อปะทุไฟฟ้า ฝักแคที่ต่อวงจรรีโมทพร้อมทำงาน กระสอบทราย 7 กระสอบเพื่อบังคับทิศทางให้ระเบิดไปยังทิศทางที่ขบวนรถของนายกรัฐมนตรีผ่านไป ทั้งนี้ผู้ต้องหาได้แต่งกายผิดสังเกตในช่วงเวลาเช้าวันนี้ คือใส่หมวกและแว่นตาดำด้วย
นพ.สุรพงษ์กล่าวว่าเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคนิค ได้ประเมินอำนาจการทำลายล้างของระเบิดชุดนี้แล้วยืนยันว่ารัศมีการทำลายล้างของระเบิดชุดนี้มีอาณาเขต 1 ตารางกิโลเมตร ครอบคลุมชุมชนประชาชน และโรงเรียนพิมลวิทย์ ชี้ให้เห็นว่ามีความพยายามที่จะทำร้ายนายกรัฐมนตรี โดยไม่คำนึงถึงชีวิตและทรัพย์สิน ของประชาชนผู้บริสุทธิ์ในบริเวณใกล้เคียง และไม่คำนึงเลยว่าประเทศจะเป็นอย่างไร จะเกิดผลกระทบอย่างไรในผลที่จะตามมา และภาพลักษณ์โดยรวมของประเทศ
นพ.สุรพงษ์กล่าวว่า เมื่อเวลา 15.00 น.ที่ผ่านมานายกรัฐมนตรี เรียกรมว.กลาโหม ,ปลัดกระทรวงกลาโหม, ผบ.ทบ., ผบ.ทอ., ผบ.ทร.และผบ.ตร.เข้าพบเป็นเวลา 30 นาที การเข้าพบของรมว.กลาโหม และผบ.เหล่าทัพนั้น ทั้งหมดให้กำลังใจนายกรัฐมนตรี และเตรียมสืบสวนขยายผลต่อไป และเชื่อว่าไม่ได้มีผู้ต้องหารายนี้เพียงรายเดียว เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย เสนอให้นายกรัฐมนตรียกเลิกภารกิจทั้งหมด คือตรวจเยี่ยมประชาชนในจ.น่าน วันที่ 26 ส.ค. โดยนายกรัฐมนตรีมอบหมายให้นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.อุตสาหกรรม นายพินิจ จารุมสมบัติ รมว.สาธารณสุข นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รมช.มหาดไทย และข้าราชการระดับสูงไปตรวจเยี่ยมแทน รวมทั้งยังยกภารกิจพบกับนายกรัฐมนตรีกัมพูชาในวันที่ 3 ก.ย.ด้วย โดยสั่งการให้รมว.ต่างประเทศ ประสานไปยังกัมพูชาว่า ขอเลื่อนกำหนดการพบปะและหารือไปก่อน โดยในช่วงท้ายนายกรัฐมนตรีสอบถามผบ.ทบ. เกี่ยวกับการแก้ปัญหาความรุนแรงในจังหวัดชายแดนภาคใต้ และเน้นกับผบ.ทบ.ว่าต้องแก้ไขปัญหาอย่างต่อเนื่องและเข้มแข็ง
นพ.สุรพงษ์กล่าวว่า วันนื้นายกรัฐมนตรีลงนามในคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรีที่ 160/2549 วันที่ 24สค.2549 เรื่องให้รองผอ.กอ.รมน. (1)พ้นจากตำแหน่ง โดยมีรายละเอียดว่า ตามที่ได้มีคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรีที่/2545วันที่พค.2545 เรื่องการจัดตั้งกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน(กอ.รมน.)นั้น เพื่อให้การปฏิบัติราชการของกอ.รมน. เป็นไปด้วยความเรียบร้อย มีประสิทธิภาพ และเป็นกรณีฉุกเฉินเร่งด่วน อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 10 และมาตรา 11 แห่งพรบ.ระบเยบบริหารราชการแผ่นดิน พศ.2534 และที่แก้ไขเพิ่มเติมประกอบกับคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรีที่/2545นายกรัฐมนตรี จึงมีคำสั่งดังต่อไปนี้ 1 ให้พลเอกพัลลภ ปิ่นมณี รองผอ.กอ.รมน.(1)พ้นจากตำแหน่งตามคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรีที่/2545 ลงวันที่มิย.2545เรื่อง การแต่งตั้งรองผอ.กอ.รมน.และผู้ช่วยผอ.กอ.รมน. 2 ส่วนตำแหน่งอื่นตามคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรีที่/2545 เรื่องแต่งตั้งรองผอ.กอ.รมน.และผู้ช่วยผอ.กอ.รมน.นั้นให้คงไว้ตามเดิม
จากนั้นนพ.สุรพงษ์ตอบข้อซักถามของสื่อมวลชนหลายประเด็นโดยคำถามแรกคือ มีสาเหตุอะไรที่ปลด พล.อ.พัลลภ นพ.สุรพงษ์ กล่าวว่า เนื่องจาก พล.อ.พัลลภ ทำหน้าที่ฝ่ายนโยบาย นายกรัฐมนตรีให้เหตุผลว่า วันนี้ในแง่ของรอง ผอ.กอ.รมน. ซึ่งเป็นฝ่ายข้าราชการประจำนั้น ได้ปฎิบัติหน้าที่อย่างเต็มที่ เพราะฉะนั้นไม่จำเป็นต้องมีฝ่ายการเมืองหรือฝ่ายนโยบายทำหน้าที่อีก นายกรัฐมนตรี จึงมีคำสั่งให้พ้นออกจากตำแหน่งไป
เมื่อถามว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับคนร้ายที่เคยเป็นคนขับรถของ พล.อ.พัลลภ หรือไม่ น.พ.สุรพงษ์ กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่เกี่ยวพัน ยังสืบสวนสอบสวนอยู่
ถามซักว่าการปลดพล.อ.พัลลภในวันนี้ เป็นการปลดฟ้าผ่าทำให้ประชาชนสงสัย น.พ.สุรพงษ์ กล่าวว่า โดยปกติฝ่ายการเมือง หรือฝ่ายนโยบาย พ.ต.ท.ทักษิณ มีการปรับเปลี่ยนตำแหน่งเป็นระยะก่อนหน้านี้อยู่แล้ว เป็นดุลพินิจของนายกรัฐมนตรีที่ เห็นว่าขณะนี้ไม่จำเป็นต้องทำงานตรงนั้น เพราะว่าฝ่ายประจำทำงานได้เต็มที่ดีอยู่แล้ว
ผู้สื่อข่าวถามว่ามีหลักฐานที่ให้ประชาชนเห็นว่า มีการกระทำที่จะลอบทำร้ายพ.ต.ท.ทักษิณจริงๆ หรือไม่ น.พ.สุรพงษ์ กล่าวว่า เหตุการณ์ชัดเจน มีหลักฐานว่ารถคันดังกล่าว ไปปรากฎในสถานที่ที่นายกรัฐมนตรีผ่านถึง 2 ครั้ง และเป็นหลักฐานที่ได้รับการรับการยืนยันจากข่าวกรอง และตัวบุคคลที่ถูกจับกุมเป็นผู้ต้องหา ก็อยู่ในข้อมูลของข่าวกรองที่เคยแจ้งมา สำหรับข่าวที่ออกมาว่า ตัวระเบิดไม่สามารถจุดระเบิดได้นั้น ไม่เป็นความจริง เพราะว่ามีเชื้อปะทุพร้อมกดรีโมทระเบิดได้ทันที เพราะฉะนั้นไม่ได้เป็นการเคลื่อนย้ายปกติ แต่เป็นการเคลี่อนย้ายที่พร้อมจุดระเบิดแล้ว และมีหลักฐานการปรากฏของรถคันนี้จากพยานแวดล้อม ว่ามาจอดรออยู่ตั้งแต่เช้า และรวมถึงหลายฝ่ายที่เกรงว่า จะเป็นการสร้างสถานการณ์หรือไม่นั้น โดยปกติหากมีการสร้างสถานการณ์ จะจับตัวผู้กระทำผิดไม่ได้
" วันนี้เกิดจากการที่เจ้าหน้าที่ รปภ.ของนายกฯ ได้สังเกตเห็นคันดังกล่าว จึงได้มีการแจ้งข่าว และให้ รปภ.อีกชุดหนึ่งจับตัวผู้กระทำผิด หากเป็นการสร้างสถานการณ์ ย่อมหาตัวผู้กระทำผิดไม่ได้อยู่แล้ว และเชื่อว่ากระบวนการสืบสวนสอบสวน จะขยายผลไปถึงผู้เกี่ยวข้อง เพราะดูจากพฤติการณ์ ไม่ได้มีบุคคลนี้บุคคลเดียว แต่บุคคลนี้คือคนที่มาไขกุญแจรถ และขับออกไป "นพ.สุรพงษ์กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่าในรายงานของข่าวกรอง มีการระบุชื่อบุคคลอื่นด้วยหรือไม่ น.พ.สุรพงษ์ กล่าวว่า มี เมื่อถามต่อว่า บุคคลนั้น คือ พล.อ.พัลลภ หรือไม่ น.พ.สุรพงษ์ กล่าวว่า ขออนุญาตไม่พูดรายละเอียด เพราะอยู่ขั้นตอนการสืบสวน สอบสวน ตนยังไม่ทราบรายละเอียดเหล่านั้นทั้งหมด แต่มีการระบุชื่อบุคคลอื่น นอกเหนือจากผู้ต้องหาเป็นกลุ่มบุคคล
เมื่อถามต่อว่าการสอบสวนได้มีฝ่ายทหาร เข้าไปร่วมสอบสวนด้วยหรือไม่ น.พ.สุรพงษ์ กล่าวว่า เมื่อผู้ต้องหาเป็นทหาร ทางทหารต้องเข้ามามีส่วนร่วมในการสอบสวน
ผู้สื่อข่าวถามว่าในรายงานข่าวกรองมีการะบุหรือไม่ว่า ต้องการสังหาร พ.ต.ท.ทักษิณ เพื่ออะไร น.พ.สุรพงษ์ กล่าวว่า คงต้องสืบสวน หาข้อมูลเพิ่มเติม วันนี้คงยังไม่คาดเดาอะไร ซึ่งเหมือนกับข่าวกรองก่อนหน้านี้ ที่มีการบอกว่า มีแนวโน้มจะลอบสังหารนายกรัฐมนตรี วันนี้หากไม่มีความตื่นตัว เจ้าหน้าที่ รปภ.อาจไม่สังเกตพฤติการณ์ที่ผิดปกติได้
เมื่อซักว่ารัฐบาลถูกมองว่า สร้างวาระนี้ขึ้นมาเอง น.พ.สุรพงษ์ กล่าวว่า เรื่องนี้ชัดเจนว่ามีผู้กระทำความผิด มีการขับรถขนระเบิดอยู่กลางเมือง