มาร์คเร่งออกกม.ภาษีที่ดิน นำเงินดูแลคนจน พร้อมลุยโฉนดที่ดินชุมชน แก้ปัญหาพิสูจน์สิทธิ


"มาร์ค" ประกาศเร่งออกกฎหมายภาษีที่ดิน นำเงินมาดูแลคนยากจน ลั่นเดินหน้าโฉนดชุมชน แก้ปัญหาพิสูจน์สิทธิที่ทำกิน หอการค้าไทย ประเมินจีดีพี ปี 52 ติดลบ 4.5-5.5 %

เมื่อเช้าวันที่ 25 กรกฎาคม นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย นพ.พฤติชัย ดำรงรัตน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เดินทางไปเปิดศูนย์การเรียนรู้โครงการบ้านมั่นคงไทยเข้มแข็งที่ชุมชนบางบัว เขตบางเขน กรุงเทพมหานคร (กทม.) โดยมีตัวแทนชุมชนและผู้แทนหน่วยงานในพื้นที่ รวมถึงสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (พอช.) ให้การต้อนรับ โดยรัฐบาลอนุมัติงบประมาณวงเงิน 1 พันล้านบาท ผ่าน พอช. เพื่อแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของชุมชน

ทั้งนี้ นายอภิสิทธิ์ได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับชาวบ้านพร้อมกับกล่าวว่า รัฐบาลพร้อมแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนเรื่องที่อยู่อาศัย และเรื่องที่ดินที่เป็นสิทธิร่วมของชุมชนให้ได้ใช้ประโยชน์อย่างทั่วถึง รวมทั้งพัฒนาสภาพแวดล้อมภูมิทัศน์ของชุมชน และการพัฒนาอาชีพ ซึ่งชุมชนบ้านมั่นคงที่บางบัวถือเป็นศูนย์การเรียนรู้การพัฒนาชุมชนที่มีความก้าวหน้ามาก ยืนยันว่าการจัดสรรงบฯจะดูแลให้ทั่วถึงทุกชุมชน และจะเร่งดำเนินการกฎหมายที่เกี่ยวข้อง หากพบว่ากฎหมายที่ใช้อยู่มีปัญหา รวมถึงการเร่งออกกฎหมายภาษีที่ดิน ซึ่งจะเร่งดำเนินการเพื่อนำเงินมาดูแลคนจน

นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า วันที่ 2 สิงหาคม จะไปจังหวัดสงขลา เพื่อเดินหน้าโครงการพัฒนาที่อยู่อาศัยสำหรับผู้มีรายได้น้อยตามโครงการบ้านมั่นคงไทยเข้มแข็ง ทั้งนี้ หากโฉนดชุมชนเป็นที่ยอมรับในสังคม และสามารถดำเนินการในขั้นตอนของกฎหมายได้ จะเป็นทางออกปัญหาการพิสูจน์สิทธิในที่ดินทำกินได้ดีที่สุด ซึ่งภายในเดือนสิงหาคมจะมีความชัดเจน

จากนั้นนายอภิสิทธิ์เดินทางไปบันทึกเทปโทรทัศน์ผลงานด้านการศึกษาเรียนฟรี 15 ปีที่โรงเรียนรัตนโกสินทร์สมโภชน์บางเขน ซอยวัชรพล ก่อนไปร่วมงานครบรอบ 25 ปี บริษัทผลิตภัณฑ์อาหารยอดคุณ ย่านมีนบุรี

ที่พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) นายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี ส.ส.กทม. รองโฆษกพรรค ปชป. แถลงว่า การทำงานของรัฐบาลรอบ 6 เดือนที่ผ่านมา ประสบความสำเร็จ หากดูจากดัชนีต่างๆ พบว่าอัตราการว่างงานเดือนมกราคม 2552 มีจำนวน 878,900 คน ขณะที่เดือนมิถุนายน พบว่าลดลง โดยอยู่ที่ 655,600 คน การเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม (แว็ต) ที่สะท้อนการบริโภคของคนในประเทศ เดือนมกราคม 2552 ติดลบ 22.6% ขณะที่เดือนมิถุนายน 2552 พบติดลบ 11.7% สะท้อนว่าการจัดเก็บได้มากขึ้น ดัชนีการผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนมกราคม 2552 ติดลบ 25.5% ขณะที่มิถุนายนติดลบแค่ 6.7%

"ชี้ชัดว่า รัฐบาลบริหารมา 6 เดือน แก้ไขปัญหาเศรษฐกิจได้ เมื่อเงินอัดฉีดจากโครงการไทยเข้มแข็งลงไป จะมีโอกาสแก้ปัญหาเศรษฐกิจได้มากขึ้น จึงอยากให้ดูหนังให้จบม้วน ไม่ใช่ดูแบบซีรี่ส์เกาหลีหลายแผ่น และหากรัฐบาลอยู่ครบวาระ จะเห็นแสงสว่างปลายอุโมงค์แน่นอน"

นายธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย กล่าวว่า จากผลสำรวจภาคธุรกิจเชื่อมั่นว่าเศรษฐกิจไทยถึงจุดต่ำสุดแล้ว และประเมินว่าการติดลบของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี) จะลดลงในไตรมาส 3 และฟื้นตัวเป็นบวก 1% ในไตรมาส 4 หากรัฐบาลเร่งเบิกจ่ายงบประมาณ 3 หมื่นล้านบาท ภายในไตรมาส 3 ของปีนี้ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจตามแผนงานที่วางไว้ และการขยายตัวของจีดีพีทั้งปี 2552 จะยังติดลบในระดับ 4.5-5.5% หากการระบาดของโรคไข้หวัดสายพันธุ์ใหม่ 2009 ยืดเยื้อไปถึงปลายปี

"หากไม่รวมผลกระทบจากโรคไข้หวัด 2009 ที่กระทบต่อการใช้จ่ายปกติและการท่องเที่ยวที่ลดลง 1.2 แสนล้านบาท ก็มีโอกาสที่เศรษฐกิจไทยจะติดลบ 3.5-4.5% ใกล้เคียงกับการประมาณการของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เพราะการส่งออกที่กระเตื้องขึ้น และมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐ"

นายชูเกียรติ โอภาสวงศ์ นายกสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย กล่าวว่า เดินทางไปเจรจาการค้าที่ประเทศสหรัฐ และจากการพบปะนักธุรกิจในสหรัฐ ยังแสดงความไม่มั่นใจต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในปีนี้ และยังเห็นหลายภาคอุตสาหกรรมและบริการยังประสบปัญหาซบเซา อาจมีเพียงกลุ่มอาหารที่ยังขยายตัวได้ดี ส่วนผลกระทบต่อการระบาดของไข้หวัด 2009 ทำให้การเดินทางเพื่อติดต่อธุรกิจและท่องเที่ยวลดลงอย่างเห็นได้ชัด ดูจากสายการบินไทยที่บินไปยังประเทศญี่ปุ่นหรือสหรัฐมีปริมาณผู้โดยสารบางตา ส่วนตัวจึงเชื่อว่าเศรษฐกิจจะยังไม่ฟื้นตัวในเร็วๆ นี้ มีแนวโน้มฟื้นตัวในปีหน้ามากกว่า

"ปัจจัยกระทบต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจยังมีอีกมาก ทั้งราคาน้ำมันแพงขึ้น ค่าเงินบาทที่แข็งค่า ปัญหาความรุนแรงทางการเมืองในหลายประเทศ และการแพร่ระบาดของโรคไข้หวัด 2009 เป็นปัจจัยบั่นทอนเศรษฐกิจทั้งสิ้น และไม่มีความชัดเจนต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจและกำลังซื้อในขณะนี้"

เครดิต :
เครดิต :เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์มติชน


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์