คมชัดลึก : "พัชรวาท"ดอดหารืออภิสิทธิ์ระหว่างเดินทางบันทึกเทปโทรทัศน์ ท่ามกลางการสร้างกระแสจะถูกปลดหรือย้ายเข้ากรุ เนื่องจากคดีลอบยิงสนธิ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 11.30 น.วันที่ 24 ก.ค.ระหว่างที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เดินทางไปบันทึกเทปโทรทัศน์อาเศียรวาทถวายพระพรชัยมงคลเนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษาสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ที่สถานีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบก ช่อง 5 สนามเป้า พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผบ.ตร.ได้เดินทางเข้าหารือกับนายอภิสิทธิ์ ท่ามกลางการสร้างกระแสจากบุคคลบางกลุ่มว่า จะมีการปลดพล.ต.อ.พัชรวาท หรือย้ายเข้ากรุ เนื่องจากขัดขวางการสอบสวนคดีลอบยิงนายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย ของสถานีโทรทัศน์ช่อง 5 ได้พยายามกันสื่อมวลชน ไม่ให้เข้าไปในสถานี
อภิสิทธิ์ชิ่งปัดตอบกระแสข่าวเด้งผบ.ตร.
เมื่อเวลา15.00น.นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีไปเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการแห่งชาติว่าด้วยการป้องกันและแก้ไขปัญหาเอดส์ ครั้งที่ 1/2552 ณ ห้องประชุม 501 ชั้น 5 ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาลและเมื่อเวลา17.15น.นายอภิสิทธิ์เดินลงจากห้องประชุมอย่างเร่งรีบมุ่งหน้าไปยังตึกไทยคู่ฟ้าท่ามกลางการอารักขาของ รปภ.อย่างหนาแน่น
นายกฯ พยายามเลี่ยงตอบคำถามผู้สื่อข่าวในประเด็นที่ทอาจมีคำสั่งย้ายผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ หลังจากที่มอบหมายให้นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯ รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับปัญหาที่เป็นอุปสรรคในการติดตามคดีลอบยิงนายสนธิ และให้รายงานมาให้ทราบภายในวันนี้
นายกฯ กล่าวเพียงว่า ไม่ได้เจอกับนายสุเทพ เข้าใจว่าสำนักงานของนายสุเทพได้ส่งเอกสารมาให้แล้ว เดี๋ยวจะไปรอรับ เมื่อถามว่า จะโยกย้ายผบ.ตร.หรือไม่ นายกฯกล่าวสั้นๆว่า”ผมไม่ขอพูดแล้วครับ”
“ธานี”รุดยื่นเอกสารให้“สุเทพ”ปัดตอบคำถามสื่อ
เมื่อเวลา 15.20 น . ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.ต.อ.ธานี สมบูรณ์ทรัพย์ รองผบ.ตร. ได้เดินทางเข้าพบกับนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง ที่ห้องทำงาน บริเวณชั้น 5 ตึกบัญชาการ 1 เพื่อส่งเอกสารรายงานความคืบหน้า และอุปสรรคปัญหาในการสืบสวนสอบสวน คดีลอบยิงนายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำกลุ่มพันธมิตรฯ ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่นายกรัฐมนตรี ได้เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการแห่งชาติ ว่าด้วยการป้องกันแก้ไขปัญหาเอดส์ ครั้งที่ 1 อยู่ที่ห้องประชุมชั้น 5 ตึกบัญชาการ 1 เช่นเดียวกัน
จากนั้นเวลา 15.25 น . พล.ต.อ.ธานี ได้เดินลงมาจากตึกบัญชาการ 1 โดยกลุ่มผู้สื่อข่าวจำนวนมากที่มาดักรอสัมภาษณ์อยู่บริเวณด้านหน้าอาคาร ได้พยายามสอบถามถึงความคืบหน้าต่าง ๆ เกี่ยวกับคดี และรายละเอียดที่มีการพูดคุยหารือกับนายสุเทพ แต่ พล.ต.อ.ธานี กลับมีสีหน้าที่เรียบเฉย และไม่ยอมตอบคำถามผู้สื่อข่าวแม้แต่คำถามเดียว โดยพยายามเดินฝ่ากลุ่มผู้สื่อข่าวเพื่อขึ้นรถเดินทางออกไปจากทำเนียบรัฐบาลทันที
อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวก็ได้พยายามติดตามเพื่อสอบถามเจ้าหน้าที่ประจำตึกบัญชาการ 1 ว่า พล.ต.อ.ธานี ได้เข้าพบและยื่นเอกสารรายงานกับนายสุเทพโดยตรงหรือไม่ ซึ่งเจ้าหน้าที่ยืนยันว่า พล.ต.อ.ธานี ได้เข้าพบและยื่นเอกสารให้กับนายสุเทพด้วยตัวเอง
สุเทพซิ่งอีกโยนอภิสิทธิ์ตัดสินพัชรวาท
เมื่อเวลา 17.15 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ พล.ต.อ.ธานี ได้ส่งเอกสารรายงานเกี่ยวกับการสืบสวนสอบสวนคดีดังกล่าวมาให้พิจารณา ว่า วันนี้ (24ก.ค.) ตนได้รับรายงานจาก 4 คน คือ พล.ต.อ.พัชรวาท พล.ต.อ.ธานี พล.ต.ท.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ช่วย ผบ.ตร. และ พล.ต.ท.วรพงษ์ ชิวปรีชา ผบช.น. ที่มีส่วนรับผิดชอบกับคดีดังกล่าว ตนได้ให้ทั้ง 4 คนทำรายงานมา เพื่อที่จะได้มาศึกษาว่ามีอะไรเกิดขึ้น มีปัญหาและอุปสรรคอย่างไร ซึ่งคงไม่สามารถนำมาเปิดเผยได้ในขณะนี้ เพราะว่าเป็นรายงานลับ แต่ตนได้ถ่ายสำเนาเก็บไว้ เพื่อจัดทำเป็นบันทึกประกอบการรายงานต่อนายอภิสิทธิ์ว่าได้ดำเนินการเรื่องนี้อย่างไรบ้าง
ผู้สื่อข่าวถามว่าหลังได้รับรายงานจากทั้ง 4 คนแล้ว ได้ตัดสินใจว่าจะแก้ปัญหาอย่างไร นายสุเทพ กล่าวว่า ตนตัดสินใจว่าจะทำงานให้สอดคล้องกับระเบียบ ข้องบังคับ ที่สามารถปฏิบัติได้ ก่อนสรุปรวมให้นายกรัฐมนตรีทราบ ซึ่งนายกรัฐมนตรีมีสิทธิ์ใช้อำนาจในการพิจารณาตัดสินใจปัญหาต่างๆได้ทุกอย่าง ตนเป็นผู้ใต้บังคับบัญชา มีหน้าที่เสนอให้ทราบ ส่วนจะพิจารณาเห็นชอบหรือไม่ อย่างไร ขึ้นอยู่กับนายกรัฐมนตรีจะพิจารณา เมื่อถามว่ามองว่าผลจากการตัดสินใจของนายกรัฐมนตรีจะช่วยให้คดีเดินหน้าต่อไปได้อย่างไร รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เท่าที่ดูจากรายงานพบว่า คดีก็เดินหน้าไปได้อยู่แล้ว
เมื่อถามว่าแสดงว่ายังมองไม่เห็นปัญหาและอุปสรรคหลังจากที่ได้ดูรายงานจากทั้ง 4 คนใช่หรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า ยังไม่ชัดเจน เมื่อถามว่าไม่มีความจำเป็นที่จะต้องมีการเปลี่ยนแปลงอะไร เพราะคดียังสามารถเดินหน้าต่อไปได้ใช่หรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า “ในขณะนี้ใช่ บางอย่างในรายงานนั้น ไม่ได้เป็นผลกับประชาชน แต่เป็นเรื่องของการปฏิบัติราชการ”
เมื่อถามย้ำว่าหมายความว่า ผบ.ตร.จะยังอยู่ในตำแหน่งได้อย่างสบายใจใช่หรือไม่ นายสุเทพ กล่าวพร้อมหัวเราะว่า “ต้องไปถามท่าน ถ้ามาถามผมว่าท่านสบายใจหรือไม่สบายใจ ผมคงตอบแทนไม่ได้ เพราะทุกคนก็ทำหน้าที่ของตัวเอง”
ผู้สื่อข่าวถามว่าการตัดสินใจส่วนตัวของนายสุเทพจะมีผลกระทบต่อตำแหน่งของ ผบ.ตร.หรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า “ไม่มั้ง” เมื่อถามว่าเกรงหรือไม่ว่าจะถูกมองว่าปกป้อง ผบ.ตร. นายสุเทพ กล่าวว่า คนจะมองอย่างไรเป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้อยู่แล้ว แต่ยืนยันว่าตนทำตามกฏเกณฑ์ กติกา ในกรอบของกฎหมายที่ให้อำนาจไว้ เมื่อถามว่าจะตอบได้ชัดเจนหรือไม่ว่าจะปลดหรือไม่ปลด ผบ.ตร.ออกจากตำแหน่ง รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า “ผมปลดไม่ได้อยู่แล้ว เพราะไม่มีอำนาจหน้าที่ปลดใครได้สักคน”
เมื่อถามว่าตอของคดีนี้ยังอยู่หรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า ตนไม่รู้ว่าตออยู่ที่ไหน เพราะไม่มีอยู่ในรายงาน เมื่อถามว่าในรายงานที่มีการเสนอมาปัญหาส่วนใหญ่อยู่ที่ตัวบุคคลหรือว่าระบบกันแน่ นายสุเทพ กล่าวว่า “ผมอ่านแล้วไม่เห็นอะไร” เมื่อถามย้ำว่าแสดงว่าจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงตัวบุคคลใช่หรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า “ไม่มี ในรายงานที่ พล.ต.อ.ธานีส่งมาให้ผม ไม่ได้ระบุเรื่องตัวบุคคล”
ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่มีการวิพากษ์วิจารณ์ว่าสาเหตุที่ไม่สามารถเปลี่ยนตัว ผบ.ตร.ได้ เนื่องจากมีพี่ชายเป็น รมว.กลาโหม นายสุเทพ กล่าวว่า คนเราสามารถวิจารณ์ไปเรื่อย แต่ในข้อเท็จจริงไม่ได้เป็นเช่นนั้น เมื่อถามย้ำว่าที่ไม่สามารถปรับ ผบ.ตร.ออกจากตำแหน่งได้ เพราะมีการซื้อขายตำแหน่งในการแต่งตั้งโยกย้ายกันเอาไว้ล่วงหน้าแล้วใช่หรือไม่ นายสุเทพ ย้อนถามว่า “ซื้อจากใคร แล้วใครเป็นคนซื้อ ใครเป็นคนขาย”
ผู้สื่อข่าวถามว่าในฐานะที่กำกับดูแลสำนักงานตำรวจแห่งชาติมั่นใจหรือไม่ว่าไม่มีเรื่องเช่นนี้เกิดขึ้น นายสุเทพ กล่าวว่า ตนยังไม่เห็นว่ามีการซื้อหรือขายตำแหน่งอะไรเลย เมื่อถามว่ามั่นใจหรือไม่ว่าการตัดสินใจครั้งนี้นายกรัฐมนตรีจะเห็นด้วย นายสุเทพ กล่าวว่า ยังไม่ได้พูดคุยกัน แต่ตนได้ทำรายงานเป็นลายลักษณ์อักษรยื่นไปถึงนายกรัฐมนตรีแล้ว ถ้านายกรัฐมนตรีเรียกตนไปคุย ตนในฐานะผู้ใต้บังคับบัญชาก็ต้องปฏิบัติตาม เรื่องนี้เอาไว้ให้นายกรัฐมนตรีพิจารณาก่อน แล้วค่อยกลับมาถามตนใหม่
เมื่อถามว่าหากนายกรัฐมนตรีคิดในทางที่แตกต่างจะดำเนินการอย่างไร นายสุเทพ กล่าวว่า “ผมไม่คิดอะไร ผมเป็นรองนายกรัฐมนตรี ก็ต้องยอมรับ” เมื่อถามว่าคิดว่าเรื่องนี้จะทำให้เกิดความขัดแย้งกับนายกรัฐมนตรีหรือไม่ หากนายกรัฐมนตรีมีความเห็นที่สวนทางจากรายงานที่เสนอไป นายสุเทพ กล่าวว่า “ไม่เคยมี และไม่คิดว่าจะมี นายกรัฐมนตรีก็คิดในส่วนของท่าน”