คดีสนธิไม่คืบแต่ลือสะพัดพัชรวาท โดนลูกหลงถูกปลด นายกฯชี้แค่ข่าวลือ ธานีหอบรายงานลับให้สุเทพ


"อภิสิทธิ์"ชี้เด้ง"พัชรวาท"แค่ข่าวลือ เผยรอรายงานจากรองนายกฯก่อนตัดสินใจ "ธานี"นำรายงานจาก4นายพลทีมสืบสวนให้"สุเทพ" เผยส่งต่อรายงานลับไปที่นายกฯแล้ว ส่วนรมว.ยุติธรรมจี้ดีเอสไอแจงการมาช่วยราชการของ"ส.ต.ท.วรวุฒิ" เพื่อไทยเตรียมยื่นกกต.สอบ"มาร์ค"แทรกแซงคดีสนธิ

"พัชรวาท"ดอดหารือ"อภิสิทธิ์"

ท่ามกลางกระแสข่าวลือสะพัดว่า พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) จะถูกสั่งย้ายไปช่วยราชการที่สำนักนายกรัฐมนตรี เนื่องจากมีปัญหาในทางปฏิบัติกรณีการคลี่คลายคดียิงนายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) นั้น ปรากฏว่าเมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 24 กรกฎาคม พล.ต.อ.พัชรวาทเดินทางเข้าหารือกับนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ระหว่างที่นายอภิสิทธิ์เดินทางไปบันทึกเทปโทรทัศน์ อาเศียรวาทถวายพระพรชัยมงคลเนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษาสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ที่สถานีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบก ช่อง 5 สนามเป้า

ต่อมาเวลา 12.15 น. นายอภิสิทธิ์ให้สัมภาษณ์ที่พรรคประชาธิปัตย์ ถึงกระแสข่าวปลดหรือย้าย พล.ต.อ.พัชรวาทว่า ยังไม่ได้รับรายงานจากนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ที่กำกับดูแลสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) โดยจะรอฟังรายงานข้อเท็จจริงอุปสรรคคดียิงนายสนธิก่อน ส่วนตัวหลังจากคุยกับ พล.ต.อ.ธานี สมบูรณ์ทรัพย์ รอง ผบ.ตร.ในฐานะเจ้าของสำนวนคดีลอบยิงนายสนธิ อยากจะให้คดีนี้เดินหน้าต่อไปได้ ไม่อยากให้เดินช้าเกินไป

ยันเรื่องย้ายผบ.ตร.แค่ข่าวลือ

ผู้สื่อข่าวถามว่า หากนายสุเทพรายงานมาอย่างไรจะตัดสินใจตามนั้นใช่หรือไม่ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า "ไม่ครับ ผมมีหน้าที่พิจารณาด้วยตัวเอง เมื่อนายสุเทพตรวจสอบมาแล้วมีความเห็นอย่างไร จะนำข้อมูลที่มีอยู่มาประกอบการตัดสินใจ" เมื่อถามย้ำว่า การตัดสินใจขั้นสุดท้ายอยู่ที่นายกรัฐมนตรีใช่หรือไม่ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า "แน่นอนสิครับ"

เมื่อถามว่า หากรายงานของนายสุเทพระบุว่า พล.ต.อ.พัชรวาทเป็นอุปสรรคจะปลดหรือไม่ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า "ไม่" ระหว่างที่ผู้สื่อข่าวคนดังกล่าวถามถึง 3 ครั้ง ก่อนจะกล่าวว่าตนไม่ตอบคำถามสมมุติ กระแสข่าวที่ออกมาเป็นเพียงข่าวลือ ตนขอบอกว่าอย่าไปฟัง รอเรื่องที่ตนกำลังจะหารือกับผู้ที่เกี่ยวข้องว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไปดีกว่า

ต่อมาเวลา 17.20 น. ที่นำเนียบรัฐบาล นายอภิสิทธิ์กล่าวถึงรายงานอุปสรรคในการสืบสวนสอบสวนคดีลอบยิงนายสนธิที่ พล.ต.อ.ธานีมามอบให้ในช่วงบ่าย ขณะที่มีข่าวว่าอาจเป็นสาเหตุที่นำไปสู่คำสั่งปลด พล.ต.อ.พัชรวาทว่า "สำนักงานบอกว่าได้ส่งเอกสารมาแล้ว เดี๋ยวจะไปรอรับ" เมื่อถามว่า จะโยกย้าย พล.ต.อ.พัชรวาทหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ไม่ตอบ เช่นเดียวกับคำถามว่าได้ ผบ.ตร.คนใหม่แล้วหรือไม่ ซึ่งนายอภิสิทธิ์ไม่ตอบพร้อมเดินขึ้นตึกไทยคู่ฟ้าทันที

"ธานี"ถือ"ซองรายงาน"เข้าพบ"สุเทพ"

ต่อมาเวลา 15.15 น. พล.ต.อ.ธานีเดินทางมายังตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล เพื่อเข้าพบนายสุเทพ โดย พล.ต.อ.ธานี ซึ่งมีสีหน้าเคร่งเครียด ถือซองเอกสารสีน้ำตาลมาด้วย หลังจากนั้นประมาณ 5 นาที พล.ต.อ.ธานี กลับออกมาจากตึกบัญชาการด้วยสีหน้าเคร่งเครียดเช่นเดิมและไม่ยอมตอบคำถามใดๆ 

"สุเทพ"เสนอรายงานลับให้นายกฯ

ด้านนายสุเทพ ให้สัมภาษณ์หลัง พล.ต.อ.ธานีเข้าพบเพื่อยื่นเอกสารรายงานอุปสรรคคดียิงนายสนธิ ว่าได้รับรายงานจากผู้รับผิดชอบคดี 4 คน ได้แก่ พล.ต.อ.พัชรวาท พล.ต.อ.ธานี พล.ต.ท.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ช่วยผบ.ตร. และ พล.ต.ท.วรพงษ์ ชิวปรีชา ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ซึ่งทั้ง 4 คนมีส่วนรับผิดชอบคดียิงนายสนธิ โดยตนขอให้ทั้ง 4 คน รายงานมาว่าเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้นกับการสอบสวนคดี มีปัญหาอุปสรรคอย่างไร แต่เนื่องจากเป็นรายงานลับจึงไม่สามารถเปิดเผยได้ แต่ได้ทำสำเนารายงานเก็บไว้ พร้อมทำบันทึกเสนอนายกรัฐมนตรี รวมทั้งรายงานให้ทราบว่าตนได้ตัดสินใจดำเนินการเรื่องนี้อย่างไร

"ผมได้ตัดสินใจทำงานในส่วนที่สอดคล้องกับระเบียบข้อบังคับและสิ่งที่สามารถปฏิบัติได้ และได้เอารายงานทั้งหมดสรุปรวมรายงานให้นายกรัฐมนตรีทราบแล้ว ส่วนที่ผมตัดสินใจไปแล้ว นายกรัฐมนตรีต้องตัดสินใจซ้ำอีกหรือไม่ นายกรัฐมนตรีสามารถใช้อำนาจได้ทุกอย่างอยู่แล้ว ผมเป็นผู้ใต้บังคับบัญชา เมื่อทำไปก็รายงานให้นายกรัฐมนตรีทราบ เมื่อนายกรัฐมนตรีได้รับรายงานจากผม ก็ต้องไปพิจารณาว่าจะเห็นชอบหรือไม่" รองนายกรัฐมนตรีกล่าว

เมื่อถามว่า กระแสข่าวว่านายสุเทพพยายามโอบอุ้ม พล.ต.อ.พัชรวาท นายสุเทพกล่าวว่า ตนไม่สามารถบริหารราชการตามกระแสข่าวที่ไม่ชัดเจนได้เพราะต้องทำไปตามระเบียบและกฎหมาย กรณีที่มีเรื่องร้องเรียนการปฏิบัติงานของ พล.ต.อ.พัชรวาทนั้น ตนต้องตรวจสอบทุกอย่าง หากมีผลออกมาอย่างไรจะดำเนินการในสิ่งที่เห็นว่าถูกต้อง

"ประวิตร"บอกยังไม่ได้คุยกับน้องชาย

ด้าน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงกระแสข่าวโยกย้าย พล.ต.อ.พัชรวาทออกจากตำแหน่ง เพราะผลกระทบจากคดีลอบยิงนายสนธิ ว่ายังไม่ทราบ เพราะไม่ได้เข้าไปเกี่ยวข้อง ส่วนเรื่องคดีต้องว่ากันไปตามกฎหมาย เพราะมีเจ้าหน้าที่ดูแลกันอยู่แล้ว เมื่อถามว่า จำเป็นต้องคุยกับนายสุเทพหรือไม่ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า ต้องว่ากันไปตามขั้นตอน เมื่อถามย้ำว่า หวั่นหรือไม่ว่ามีความพยายามที่จะเชื่อมโยงคดีมาถึงท่าน พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า ต้องว่าไปตามกฎหมาย เมื่อถามว่า รู้สึกไม่สบายใจหรือไม่ที่ พล.ต.อ.พัชรวาท น้องชายเข้าไปเกี่ยวพันในคดี พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า ถ้าเป็นไปตามกฎหมายก็ไม่มีปัญหาอะไร ตนยังไม่ได้คุยหรือเจอกับ พล.ต.อ.พัชรวาทเลย เมื่อถามว่าที่ผ่านมา พล.ต.อ.พัชรวาทถือว่าตั้งใจทำงานและอีก 2 เดือนจะเกษียณแล้ว พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า "ให้ผู้สื่อข่าวพิจารณาเอง ผมไม่ขอพิจารณาใดๆ ทั้งสิ้น ส่วนที่มองว่าเป็นการเล่นเกมทางการเมืองนั้น ผมก็ไม่ขอพูด ส่วนที่ตำรวจยังไม่สามารถจับกุมผู้ต้องหาที่เป็นทหารมาดำเนินคดีได้นั้น เป็นเรื่องกองทัพบกที่จะเป็นผู้ดูแล"

รมว.ยธ.สั่ง"ดีเอสไอ"แจงกรณี"วรวุฒิ"

ด้านนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวถึงการสั่งการให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ให้ความร่วมมือกับตำรวจติดตามตัว ส.ต.ท.วรวุฒิ มุ่งสันติ ผู้ต้องหาตามหมายจับคดียิงนายสนธิ ว่าเป็นหน้าที่ดีเอสไอ ในฐานะหน่วยราชการด้วยกันต้องให้ความร่วมมือกับตำรวจอย่างเต็มที่ และส.ต.ท.วรวุฒิ เคยมาช่วยงานดีเอสไอบางคดี ตามที่ได้รับรายงานด้วยวาจาจาก พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง อธิบดีดีเอสไอ จึงสั่งการให้ชี้แจงทุกกรณีที่เกี่ยวกับ ส.ต.ท.วรวุฒิ ทั้งเรื่องงานที่เข้ามาช่วยหรือการเบิกใช้อุปกรณ์เครื่องมือต่างๆ หรือรถยนต์ดีเอสไอ โดยให้ชี้แจงเป็นลายลักษณ์อักษรมายังตนภายในวันที่ 31 กรกฎาคมนี้ อย่างไรก็ตาม ในระบบการทำงานของหน่วยงานราชการและตำรวจ การขอยืมตัวเป็นกำลังเสริมในการทำคดีต่างๆ เป็นเรื่องปกติ 

"เสด็จพี่"เล็งยื่นกกต.สอบ"มาร์ค"แทรกแซงคดี

นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า พรรคจะเดินทางไปยื่นหนังสือต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ในวันที่ 27 กรกฎาคม เวลา 10.00 น. เพื่อให้พิจารณาว่า ความเป็นนายกรัฐมนตรีของนายอภิสิทธิ์ สิ้นสุดลงตามมาตรา 266 (1) (2) ประกอบมาตรา 268 หรือไม่ โดยมาตราดังกล่าวห้ามนายกฯและรัฐมนตรีเข้าไปก้าวก่ายแทรกแซงการปฏิบัติราชการหรือการดำเนินงานในหน้าที่ประจำของข้าราชการ หากมีการฝ่าฝืนย่อมทำให้ความเป็นรัฐมนตรีของผู้นั้นสิ้นสุดลงตามมาตรา 182 (7) ของรัฐธรรมนูญ ทั้งนี้ พบว่านายอภิสิทธิ์ได้เข้าไปแทรกแซงคดียิงนายสนธิ ด้วยการเรียก พล.ต.อ.ธานี หัวหน้าพนักงานสอบสวนในคดีมาพบบ่อยครั้ง

เครดิต :
เครดิต :เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์มติชน


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์