"มาร์ค"ลั่นเอาผิดบริษัทขายสินค้า"ชุมชนพอเพียง"ทุจริต ไม่สนเคยบริจาคเงินให้พรรค โฆษกปชป.ไม่ป้อง-ปัดธุรกิจเกี่ยวการเมือง เพื่อไทยเชื่อเสียหายหลายพันล้าน ตั้ง"ปานปรีย์"ปธ.กก.รวบรวมข้อมูล1สัปดาห์ก่อนชงให้องค์กรอิสระ
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์เมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม ที่พรรคประชาธิปัตย์ ถึงการตรวจสอบความไม่ชอบมาพากลในโครงการชุมชนพอเพียงในกรุงเทพมหานคร (กทม.) และต่างจังหวัด โดยเฉพาะปัญหากลุ่มบุคคลเข้าไปล็อคสเปคสินค้า และขายในราคาแพงเกินจริงว่า มอบหมายให้นายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ รองนายกรัฐมนตรี ไปติดตามว่าที่ไหนมีปัญหาการทุจริต แต่เท่าที่ทราบโครงการที่ได้รับรายงานว่า มีปัญหาส่วนใหญ่รัฐบาลได้พยายามกลั่นกรองอยู่แล้ว และไม่ให้อนุมัติเงินไปก่อนมีการกลั่นกรองที่ดีพอสมควร ที่ผ่านมารัฐบาลถูกบ่นว่าเงินออกช้า เนื่องจากรัฐบาลอยากให้ชัดเจนว่าโครงการใดบ้างที่เข้าหลักเกณฑ์
ผู้สื่อข่าวถามว่า หนึ่งในบริษัทที่อาจมีปัญหาเคยบริจาคเงินให้พรรคประชาธิปัตย์ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ต้องดูว่าโครงการไหนที่ทำแล้วเป็นอย่างไร ไม่มีปัญหา ใครทำผิดก็ต้องดำเนินการ ส่วนใครบริจาคให้พรรคหรือไม่ ไม่มีผลอยู่แล้ว
"จริงๆ ผมยังไม่รู้เลยว่า ที่พูดถึงนี้เป็นบริษัทไหน แต่รองนายกฯกอร์ปศักดิ์จะเข้าไปตรวจสอบ" นายอภิสิทธิ์กล่าว
นพ.บุรณัชย์ สมุทรักษ์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ แถลงถึงกรณีผู้สนับสนุนพรรคประชาธิปัตย์มีส่วนได้เสียกับโครงการชุมชนพอเพียงว่า พรรคยึดมั่นในความโปร่งใส และไม่เอาผลประโยชน์ทางธุรกิจมาเกี่ยวข้องกับผลประโยชน์ทางการเมือง ยืนยันว่าผู้สนับสนุนพรรคทุกคนไม่เคยมีข้อผูกมัดหรือมีเงื่อนไขใดๆ ทั้งสิ้น ขอยืนยันว่าหากมีผู้บริจาคทุนให้พรรคกระทำผิดตามกฎหมายจริง พรรคไม่มีสิทธิช่วยเหลือ รัฐบาลจะดำเนินการตามกฎหมายโดยไม่มีข้อยกเว้นไม่ว่าจะเป็นใคร
อนึ่ง บริษัท คาร์เทล เทคโนโลยี จำกัด ผู้ร่วมขายสินค้าในโครงการชุมชนพอเพียง มีชื่อเป็นผู้บริจาคเงินให้พรรคประชาธิปัตย์ ในช่วงเดือนมกราคม-มีนาคม 2552
ที่พรรคเพื่อไทยมีการประชุมคณะทำงานติดตามการใช้จ่ายงบประมาณโครงการชุมชนพอเพียง มีนายปานปรีย์ พหิทธานุกร รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย เป็นประธาน โดย น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ ส.ส.กทม. นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล ส.ส.แพร่ และนายคมเดช ไชยศิวามงคล ส.ส.กาฬสินธุ์ ร่วมแถลงข่าวหลังการประชุม
น.อ.อนุดิษฐ์กล่าวว่า พรรคขอปฏิเสธถึงการตั้งข้อสังเกตของนักการเมืองพรรคการเมืองใหญ่ที่ออกมาระบุว่า การที่พรรคเงียบหายไปเป็นเพราะมีคนของฝ่านค้านมีส่วนเกี่ยวข้องด้วยนั้นว่าไม่เป็นเรื่องจริง พรรคยังเดินหน้าตรวจสอบโครงการชุมชนพอเพียงของจังหวัดอื่นๆ ทั่วทุกภูมิภาคอย่างเข้มข้น โดยตั้งคณะทำงานตรวจสอบการทุจริตในโครงการ มีนายปานปรีย์เป็นประธาน ให้ตนรับผิดชอบรวบรวมข้อมูลใน กทม. ขณะที่ภาคเหนือมีนายวรวัจน์รับผิดชอบ ส่วนภาคอีสานมีนายคมเดชดูแล สำหรับปัญหาที่พบมีลักษณะคล้ายคลึงกันคือ ยัดเยียดโครงการให้ชุมชนเลือกตามที่กำหนดเอาไว้ ทั้งที่สินค้านั้นไม่มีประโยชน์ต่อชุมชนเลย รวมถึงขาดการมีส่วนร่วมจากคนส่วนใหญ่ในชุมชนในลักษณะประชาคม
น.อ.อนุดิษฐ์กล่าวต่อไปว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่า มีชุมชนที่มีปัญหาเช่นเดียวกันนี้ถึงร้อยละ 60 จากโครงการทั้งหมด เชื่อว่าความเสียหายที่เกิดขึ้นมีจำนวนหลายพันล้านบาท คณะทำงานขอใช้ระยะเวลาประมาณ 1 สัปดาห์รวมรวมข้อเท็จจริงก่อนส่งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ กรมสอบสวนคดีพิเศษ และสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน นำตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษต่อไป จากการสันนิษฐานเบื้องต้น สงสัยว่าน่าจะเป็นการสมรู้ร่วมคิดตั้งแต่ระดับนโยบายลงมาจนถึงพ่อค้า และนักการเมืองท้องถิ่น ร่วมสมคบคิดกันทั้งกระบวนการ
นายคมเดชกล่าวว่า พบความผิดปกติหลายจังหวัดในภาคอีสาน อาทิ จ.กาฬสินธุ์ มหาสารคาม ร้อยเอ็ด และขอนแก่น เป็นต้น ล่าสุด ส.ส.พรรคเพื่อไทยรับเรื่องร้องเรียนหลายโครงการ อาทิ การซื้อเครื่องอัดอิฐบล็อค เครื่องอัดปุ๋ยเม็ดชีวภาพ และเครื่องสูบน้ำ ตัวอย่างเกิดขึ้นที่ชุมชนบ้านห้วยเตยเหนือ ต.เว่อ อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ ซึ่งได้รับงบฯ 500,000 บาท ถูกหักเงินไป 20,000 บาท ในวันโอนเงินเข้าบัญชีเพื่อจ่ายค่าเครื่องอัดอิฐบล็อคล่วงหน้า เมื่อวันที่ 27 เมษายนที่ผ่านมา มีการค้างชำระไว้ 100,000 บาท แต่เวลาผ่านมาหลายเดือนจนถึงวันนี้ ชุมชนยังไม่ได้สินค้าแต่อย่างใด นอกจากนี้สินค้ามีราคาแพงกว่าท้องตลาดถึงร้อยละ 30 อีกด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับชุมชนบ้านห้วยเตยเหนือได้สั่งซื้อเครื่องอัดอิฐบล็อคผ่านบริษัท ภูวิสยาม 2008 จำกัด ตั้งอยู่ที่ 29/2 ถนนสามวา แขวงมีนบุรี เขตมีนบุรี กรุงเทพฯ
ด้านนายปานปรีย์กล่าวว่า การที่พรรคเพื่อไทยไม่สามารถนิ่งดูดายกับเรื่องนี้ เพราะนโยบายเอสเอ็มแอลในสมัยรัฐบาลพรรคไทยรักไทย หรือชุมชนพอเพียงในปัจจุบันนั้น เป็นนโยบายที่ประชาชนพึงพอใจติดอันดับ 1 ใน 5 ของนโยบายทั้งหมด แต่รัฐบาลชุดนี้ทำให้เกิดความเสียหายต่อนโยบายเดิม รวมถึงเกิดการทุจริตและสร้างความเสียหายให้ประชาชนเป็นอย่างมาก
นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี อดีตรองนายกฯ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า ปัจจุบันเหมือนหน่วยงานรัฐจะเป็นผู้ชี้นำชุมชนว่าควรจะทำอะไร แล้วให้ชุมชนเขียนโครงการเสนอของบฯ ซึ่งส่วนใหญ่ดูเหมือนว่าจะเน้นการจัดซื้อ ทำให้เกิดปัญหาขึ้น ขณะที่โครงการแบบเดิมจัดซื้อน้อยมาก เพราะเน้นสร้างการเรียนรู้ในการสร้างอาชีพให้ชุมชน
"ผมดูแลโครงการนี้ในสมัยคุณสมัคร สุนทรเวช เป็นนายกฯ เราจะเน้นให้ชุมชนคิดและเสนอโครงการมาเอง ไม่ต้องซื้ออะไรมาก บางโครงการใช้งบฯแค่ 1 แสนบาท แต่สร้างกำไรได้ 50% ภายใน 1 ปี ปัญหาที่เกิดขึ้นขณะนี้ เพราะโครงการไม่ได้ออกมาจากชุมชนจริงๆ เรื่องนี้คุณอภิสิทธิ์ต้องลงมาดูเอง" นพ.สุรพงษ์กล่าว
อภิสิทธิ์พร้อมสอบนายทุนพรรคเอี่ยว ชุมชนพอเพียง พท.ขอรวมข้อมูล1สัปดาห์ส่งองค์กรอิสระฟัน
หน้าแรกTeeNee ที่นี่ข่าววันนี้, ข่าวหน้าหนึ่ง ข่าวการเมือง อภิสิทธิ์พร้อมสอบนายทุนพรรคเอี่ยว ชุมชนพอเพียง พท.ขอรวมข้อมูล1สัปดาห์ส่งองค์กรอิสระฟัน
Love illusion ความรักลวงตา เพลงที่เข้ากับสังคมonline
Love illusion Version 2คนฟังเยอะ จนต้องมี Version2กันทีเดียว
Smiling to your birthday เพลงเพราะๆ ไว้ส่งอวยพรวันเกิด หรือร้องแทน happybirthday