เอกยุทธ อัญชันบุตร หนึ่งในนักธุรกิจที่ให้การสนับสนุน
ม๊อบพันธมารประชาชนปล้นประชาธิปไตย เปิดทางให้
ทหารทำรัฐประหารเมื่อ 19 กย 79 ออกมาแฉความเลว
ร้ายของ สนธิ ลิ้มทองกุล ในเว็บไทยอินไซเดอร์ เป็น
การกระชากหน้ากากของคนชั่วที่ใช้สื่อทำมาหากินแต่
สร้างภาพว่าตนเองเป็นสื่อน้ำดี
คนชั่วเยี่ยง สนธิ ลิ้มทองกุล ที่ถนัดเรื่องสร้างเรื่องเท็จ
หมิ่นประมาทชาวบ้าน จนถูกศาลลงโทษจำคุกรวม 5
ปี อยากทำลายใคร หาเงินสนับสนุนเจ๊กลิ้มกับแกงค์
พันธมารประชาชนปล้นประชาธิปไตย ก็ทำได้แล้ว
ไม่เชื่อถามกลุ่มทุนเก่าอย่าง ปันยารชุน, สิริวัฒนภักดี
,ล่ำซำ, โสภณพานิช และเสี่ยประชัย เลี่ยวไพรัตน์
ดูดิ
แต่ที่น่าทุเรศที่สุดคือ การใช้สื่อในมืออย่าง นสพ
ผู้จัดการ astv เป้นเครื่องบมือในการทำมาหากิน
ด้วยการรีดไถเงินจากนักธุรกิจ หรือบีบบังคับให้รับ
สมาชิก นสพ ผู้จัดการวันละ 500-1000 ฉบับ
มิฉะนั้นจะถูกแฉเจ๊กลิ้มและสมุนแฉ โดยใช้วิธีต่ำช้า
สามานย์และใส่ร้ายฝ่ายตรงข้ามทุกวิธี โดยเฉพาะ
การแอบอ้างสถาบันหรือปลุกกระแสรักสถาบันมา
ใช้ในการทำลายฝ่ายตรงข้าม
เมื่อครั้งที่ยังอยากแอบอิงพลเอกสพรั่งเข้าไปแสวง
หาผลประโยชน์ใน ทอท และ ทีโอที แกล้งปล่อย
ข่าวทำลายพลเอกอนุพงษ์และพลเอกมนตรี เพราะ
หวังว่าหากสพรั่งได้เป็น ผบทบ พวกตนเองจะทำมา
หากินคล่อง พออนุพงษ์ได้เป็น เจ๊กลิ้มกับสมุนกลับ
หน้าด้าน ขอให้อนุพงษ์ช่วยเตะตัดขาพรรคพลังประชา
ชนในการเลือกตั้ง โดยอ้างว่าหากสมัครเป็นนายก
อนุพงษ์จะถูกปลด ทั้งๆที่เคยวางยาอนุพงษ์เรื่องรถ
หุ้มเกราะยูเครน
ที่สร้างเรื่องโจมตีทักษิณจนเกินเลยความจริงเพียง
เพราะเจ๊กลิ้มอยากได้ฟรีทีวีและมีเสี่ยประชัยที่อยาก
ได้ทีพีไอคืนจ่ายเงินสนับสนุนกว่า 300 ล้านบาท
ต่อมาเจีกลิ้ม,บรรณวิทย์กับสมุนก็แอบอ้างชื่อ คมช
ไปรีดไถห้างเซ็นทรัลและคิงส์พาวเวอร์ โดยโกหกว่า
จะเอามาช่วยพรรคบางพรรคในการเลือกตั้ง แต่อมกัน
เอง ล่าสุดรับเป็นนายหน้าให้กับบริษัทจากจีนหวัง
เซ็นสัญญากับทีโอทีแต่แห้วเพราะสพรั่งเลือกเซ็น
กับเอไอเอสที่พร้อมกว่าจีน
นั่นจึงเป็นสาเหตุที่เจ๊กลิ้มกับสมุนกลับลำมาด่าสพรั่ง
ทั้งๆที่เคยยกย่องว่าสพรั่งคือวีรบุรุษและเป็นที่มาของ
การที่สพรั่งออกมาแฉเรื่องเพื่อนอำมะหิตที่แอบอ้าง
ชื่อตนเองและ คมช ไปทำการชั่วช้าสารพัดอย่าง
ไม่นับเรื่องที่เจ๊กลิ้มกับบรรณวิทย์แกล้งปล่อยน้ำท่วม
สนามบินสุวรรณภูมิให้รัยเวยืร้าวเพื่อทำลายชื่อเสียง
ทักษิณ โดยที่สพรั่งประธานบอร์ด ทอท. ไม่รู้ด้วย
ที่ผมสงสัยนักคือ พวกกรุงเทพที่อวดฉลาดๆกันอยู่นี้
ทั้งๆที่รู้ว่าอ้ายตัวนี้เลวขนาดนี้ ยังหน้าด้านมาอ้างว่า
มันเป็นสื่อน้ำดีวีรบุรุษกู้ชาติอีกนะ ทั้งๆที่พลเอกสพรั่ง
ออกมาแฉแล้วว่า เจ๊กลิ้ม พลเรือเอกบรรณวิทย์ และ
เจ้าสมชาย มีเสน นักข่าวจอมรับซอง มันเลวทราม
ต่ำช้าเพียงไร และยังปล่อยให้เจ๊กลิ้มและสมุนแอบ
อ้างชื่อประชาชนไปใช้ในการป่วนบ้านเมืองอยู่ได้
กระบือกรุงเทพ:
สนธิลิ้ม เก่งเรื่องพูดจาโน้มน้าวให้ผู้คนเชื่อ สมัยก่อนปั่นหุ้นผู้จัดการจนรวย แต่คนซื้อหุ้นเจ๊งแทบฆ่าตัวตาย เพราะบริษัทมันไม่ได้โตจริงตามราคาหุ้นที่ปั่น ตอนนั้นลิ้มอ้างว่าถอยหลังเพื่อก้าวไปข้างหน้า (ไม่เชื่อถามเสี่ยสองดู)
ต่อมาขอทีวีจากทักษิณที่ตนเอเงเคยเชลียร์ว่าเป็นนายกที่ดีที่สุดไม่ได้ เลยรับเงินจากเสี่ยประชัยและทุนศักดินาเก่า ปลุกม๊อบไล่ทักษิณ โดยมีพรรคประชาธิปัตย์เกณฑ์คนมาร่วมม๊อบ (วันที่ 28 มีนาคมนี้ ปชป ก็จะจ้างคนประจวบกับนครศรี หัวละ 200 บาท มาร่วมม๊อบด้วย แต่คราวนี้แห้ว )
สนธิลิ้มรู้จุดอ่อนคนไทยที่เคารพสถาบันสูงสุดเลยหยิบยกเรื่องความจงรักภักดีของตนเองมาใส่ร้ายทักษิณ พร้อมถือโอกาสผลิตเสื้อเราจะสู้เพื่อใน...ออกมาขายหาเงินเข้าประเป๋าตัวเอง พร้อมกับรู้จุดอ่อนคนกรุงเทพดีว่า คิดว่าตนเองฉลาดและเสียภาษีมากกว่าคนจน
สนธิลิ้มยุยงให้เกิดความแตกแยกในสังคมด้วยการบอกคนกรุงเทพชนชั้นกลางว่า ทักษิณเอาภาษีคนชั้นกลางไปซื้อเสียงชาวรากหญ้า ซึ่งก็มีกระบือมาร่วมม๊อบพันธมารประชาชนปล้นประชาธิปไตยเพิ่มมากมาย จนในที่สุดเปิดทางให้ทหารทำรัฐประหารสำเร็จ
กลุ่มทุนเก่าที่ร่วมลงขันในการรัฐประหารคือ ศิริวัฒนภักดี,ล่ำซำ, โสภณพานิช, โชควัฒนา, จาติกวนิช, อยู่วิทยา,
ปันยารชุน และบรรดาหม่อมๆฯลฯที่เคยเสียประโยชน์จากนโยบายประชานิยมที่ชาวบ้านพึ่งตนเองและทุนใหม่ได้มากขึ้น
แต่คราวนี้ทุนเหล่านี้ย่อมระวังตัว เพราะถูกจับตามองมากขึ้น ใครจะกล้าให้เงินสนธิลิ้มขับเคลื่อนม๊อบพันธมารประชาชนปล้นประชาธิปไตยอีกล่ะ?
ขนาดมหาจำลองยังยอมรับตามตรงเลยว่า อย่าเหมารวมว่าแกงค์พันธมารประชาชนปล้นประชาธิปไตยอย่างตนเองจะเลวเหมือนพรรคพวกที่เหลือ ขอให้แยกแยะหน่อย