ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ภายหลังที่ พ.ต.อ.สุชาติ วงศ์อนันต์ชัย รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ
ให้สัมภาษณ์ว่า วันนี้ (23 ก.ค.) พนักงานสอบสวนในคดียิงนายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย จะมาสอบปากคำเจ้าหน้าที่ของดีเอสไอ ที่ดูแลรถยนต์กระบะหมายเลขทะเบียน สษ 1785 ซึ่งดีเอสไอพร้อมให้ความร่วมมือและมอบหมายให้ พ.อ.สุรศักดิ์ ณ ลำปาง ผู้บัญชาการสำนักเทคโนโลยีและศูนย์ข้อมูลการตรวจสอบ ซึ่งดูแลรถทะเบียนดังกล่าว เป็นผู้ให้ข้อมูลกับพนักงานสอบสวน
อย่างไรก็ตาม ตั้งแต่ช่วงเช้าที่ผ่านมาก็ยังไม่มีพนักงานสอบสวนมาสอบปากคำ เมื่อสอบถามกลับไปยัง พ.ต.อ.สุชาติ ได้เปิดเผยว่า พนักงานสอบสวนได้นัดให้ พ.อ.สุรศักดิ์ ไปพบเอง
ไม่ได้มาสอบปากคำที่ดีเอสไอ ทั้งนี้ ในที่ประชุมคณะกรรมการคดีพิเศษ เมื่อวานนี้ (22 ก.ค.) คณะกรรมการได้ตกลงกันว่า ต่อไปคดีดังกล่าวนี้ ขอให้ พล.ต.อ.ธานี สมบูรณ์ทรัพย์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เป็นผู้ให้ข่าวเท่านั้น ดีเอสไอจะไม่ให้สัมภาษณ์ใดๆ อีก
ที่หอประชุมกองทัพเรือ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงคดียิงนายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย
ปัญหาอุปสรรคที่ พล.ต.อ.ธานี สมบูรณ์ทรัพย์ รองผบ.ตร. รายงานให้ทราบนั้น ตนได้พูดคุยกับนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคงแล้ว แต่บังเอิญว่าวันนี้นายสุเทพ ติดภารกิจที่ จ.นราธิวาส และในวันศุกร์ที่ 24 ก.ค.นี้ จะมารายงานให้ตนทราบ ต่อข้อถามว่า นายสุเทพ ยืนยันไม่เห็นด้วยกับการที่จะเปลี่ยนตัว ผบ.ตร. ซึ่งดูเหมือนจะเป็นอุปสรรคต่อการทำงาน นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ต้องรอฟังการรายงานจากนายสุเทพว่ามีแนวทางแก้ไขปัญหาอย่างไร เมื่อถามว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นเป็นปัญหาของ พล.ต.อ.ธานี เองที่ไม่สามารถเดินหน้าคดีได้หรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ตนให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย แต่ยืนยันว่าคดีจะต้องเดินหน้าได้และไม่เสียระบบ ต่อข้อถามว่า หากพล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผบ.ตร.ไม่มีพี่ชายชื่อ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม จะทำให้การตัดสินใจง่ายกว่านี้หรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ไม่เกี่ยวว่าใครชื่ออะไรเป็นญาติกับใคร
มาร์คลั่นทุบตอ คดียิงสนธิ ไม่สนญาติใคร
ด้านนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง กล่าวว่า เรื่องนี้ตนไม่ทราบ
เพราะ พล.ต.อ.ธานี สมบูรณ์ทรัพย์ รอง ผบ.ตร. ที่รับผิดชอบคดีนี้ ไม่ได้รายงานปัญหาและอุปสรรคให้ตนทราบ แต่อาจจะไปรายงานต่อนายกรัฐมนตรีก็เป็นได้ อย่างไรก็ตาม ในส่วนของตนจะจัดทำบันทึกเฉพาะที่มีการรายงานเป็นลายลักษณ์อักษรเท่านั้น ซึ่ง พล.ต.อ.ธานี สามารถรายงานต่อนายกรัฐมนตรีได้โดยตรง เพราะถือเป็นผู้บังคับบัญชาสูงสุดในการปฏิบัติราชการ แต่ในฐานะที่ตนกำกับดูแลสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) คงต้องสอบถามให้เป็นเรื่องเป็นราว และหากพบปัญหาก็จะต้องแก้ไข เพราะเรื่องนี้เป็นข่าวที่ทุกคนสนใจ
ส่วนกระแสข่าวต้องการให้เปลี่ยนตัว ผบ.ตร.นั้น นายสุเทพ กล่าวว่า ตนไม่ทราบจะปรับเปลี่ยนเพราะอะไร ไม่รู้ว่ารายงานข่าวเขียนว่าอย่างไร
ที่ผ่านมาตนยังไม่เคยได้ยินว่า ผบ.ตร.เป็นอุปสรรคในการทำงาน เพราะ พล.ต.อ.พัชรวาท เป็นผู้บัญชาการตำรวจ จะเป็นอุปสรรคได้อย่างไร แต่ถ้าพบว่ากระแสข่าวที่ออกมาเป็นเรื่องจริงก็ต้องว่ากันไปตามกฎเกณฑ์ กติกา เพราะข้าราชการมีระบบการทำงานของเขาอยู่ จึงต้องดูว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร เพราะทั้งหมดที่พูดมายังเป็นเพียงแค่กระแสข่าว ตนพูดมาตลอดว่าอย่าไปจินตนาการเอาเอง
ผู้สื่อข่าวถามว่ายังมั่นใจในตัวของ ผบ.ตร.อยู่หรือไม่ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวด้วยน้ำเสียงทีเล่นทีจริง ว่า “ก็ยังไปทำงานกับผมอยู่ ถ้าไม่มั่นใจ จะกล้าทำงานด้วยหรือ เพราะเดี๋ยวเขาไปตีกบาลผมกลางทางจะทำอย่างไร”
เมื่อถามถึงกรณีที่มีข่าวว่าจะให้ พล.ต.ท.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ช่วย ผบ.ตร. เข้าไปร่วมเป็นทีมสอบสวนคดีลอบยิงนายสนธิ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า คดีลอบยิงนายสนธิเป็นคดีสำคัญของบ้านเมือง
เพราะเกิดขึ้นกลางกรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นการกระทำที่อุกอาจ ใช้อาวุธสงครามออกมาดำเนินการ ทาง สตช. จึงระดมมือดีมาช่วยกันทำงาน แม้แต่ พล.ต.อ.ธานี ทาง ผบ.ตร.ก็เป็นผู้แต่งตั้งให้เข้ามาทำงานเอง ดังนั้น พล.ต.อ.ธานีจะไปแต่งตั้งใครเข้ามาทำงาน หรือแม้แต่ พล.ต.ท.อัศวินก็ได้ เพราะต้องให้คนที่มีฝีมือมาช่วยทำคดีให้ได้ เพราะเป็นคดีสะเทือนขวัญและประชาชนสนใจ
ทางด้าน พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผบ.ตร. ยืนยันว่าไม่ได้ลงไปยุ่งเกี่ยวในรายละเอียดของการสืบสวนสอบสวน เพราะได้มอบหมายให้ พล.ต.อ.ธานี สมบูรณ์ทรัพย์ รอง ผบ.ตร. เป็นผู้ดำเนินการในกระบวนการต่างๆ ให้เสร็จเรียบร้อย
เท่าที่เห็นขณะนี้ก็ดูดี และผลงานออกมาดี เมื่อถามว่ารู้สึกหนักใจหรือไม่ที่ผู้ใต้บังคับบัญชาออกมาระบายความรู้สึก เกี่ยวกับการทำงานในทำนองที่ไม่ค่อยสบายใจและเดินทางมาเข้าพบเพื่อหารือกับ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี บ่อยครั้ง พล.ต.อ.พัชรวาท กล่าวว่า ความจริงถ้ามีอุปสรรคในการทำงาน ต้องรายงานให้ตนทราบก่อน เพราะตนในฐานะผู้บังคับบัญชาจะได้ช่วยแก้ไข ผู้สื่อข่าวถามว่าที่ผ่านมา พล.ต.อ.ธานีได้รายงานอะไรบ้างหรือไม่ ผบ.ตร. กล่าวว่า ไม่ได้รายงาน เมื่อถามย้ำว่าแล้วได้เคยเข้ามาปรึกษาบ้างหรือไม่ พล.ต.อ.พัชรวาท กล่าวว่า ยังไม่ได้เจอกัน เมื่อถามว่าการที่ พล.ต.อ.ธานี เข้ามาพบเพื่อรายงานกับนายกรัฐมนตรีโดยตรงถือเป็นการข้ามสายบังคับบัญชาหรือ ไม่ ผบ.ตร. กล่าวว่า ตามหลักหากมีปัญหาอะไร ที่ทำให้การทำงานสะดุด ก็ควรต้องรายงานตนก่อน อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้ตนไม่ได้รู้สึกกังวล