สุเทพไม่ฟันธงจับต้องสงสัยที่ภูเก็ตเอี่ยวป่วนถกอาเซียน

ที่ทำเนียบรัฐบาล  เมื่อวันที่ 22 ก.ค. นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง กล่าวถึงกรณีที่เจ้าหน้าที่ทหารจับกุมตัวผู้ต้องสงสัยว่าเป็นผู้ก่อการร้ายได้ที่อ. เกาะยาว จ. พังงา ซึ่งอยู่ใกล้บริเวณสถานที่จัดการประชุมสุดยอดรมว. ต่างประเทศอาเซียนและคู่เจรจา ที่จ. ภูเก็ต  เมื่อวันที่ 21 กรกฎาคมที่ผ่านมา ว่า
 
ฝ่ายความมั่นคงได้ดำเนินการใน 2-3 เรื่อง อาจทำให้ข่าวที่ออกมาสับสนคือ

1. เจ้าหน้าที่ได้ตรวจค้นบุคคลต้องสงสัยว่าเป็นผู้ก่อความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ จึงควบคุมตัวเอาไว้เพื่อสอบสวน

2. เจ้าหน้าที่ได้ติดตามขบวนการค้ายาเสพติด ซึ่งเป็นการขยายผลจากการจับกุมผู้ต้องหาได้ที่จ. อุดรธานี และคิดว่าเครือข่ายนี้โยงใยอยู่ที่จ. ภูเก็ต โดยสามารถรวบตัวผู้ต้องหา พร้อมของกลางเป็นใบกระท่อมที่เตรียมขนลงทะเล และ

3. เจ้าหน้าที่ได้ตรวจค้นรถต้องสงสัยว่าใช้ขนยาเสพติด หรือระเบิด เนื่องจากถูกนำมาจอดทิ้งไว้นาน แต่เมื่อตรวจแล้วไม่มีอะไร เป็นแค่รถส่งปลาเท่านั้น อย่างไรก็ตามมีการนำเรื่องต่างๆ มาเชื่อมโยง คนก็เลยตื่นเต้นไปหน่อย แต่ขอเรียนให้สบายใจว่าไม่มีอะไร
ผู้สื่อข่าวถามว่า มีรายงานหรือไม่ว่าผู้ต้องสงสัยว่าเป็นผู้ก่อความไม่สงบในภาคใต้เดินทางไปที่จ. ภูเก็ตด้วยวัตถุประสงค์ใด นายสุเทพกล่าวว่า

กำลังสอบอยู่ และจะดูว่าเป็นอย่างไร ทั้งนี้ ไม่ขอเปิดเผยว่ามีการควบคุมผู้ต้องสงสัยในทั้ง 2 ส่วนไว้สอบปากคำกี่คน ให้เจ้าหน้าที่ลงไปดูในรายละเอียดดีกว่า และคงไม่กำหนดกรอบเวลา ปล่อยให้ว่ากันไปตามกระบวนการ เพราะขณะนี้เจ้าหน้าที่ก็ทำงานหนักอยู่แล้ว
 “เราไม่จำเป็นต้องปรับมาตรการตรวจคนเข้าเมืองภูเก็ตให้เข้มงวดขึ้น เพราะเท่าที่ทำก็เข้มอยู่แล้ว เอาว่าพวกที่จะแทรกซึมเข้าไป ก็แทรกซึมยาก” นายสุเทพกล่าว
เมื่อถามย้ำว่า จะให้ความมั่นใจกับรมว. ต่างประเทศอาเซียนและคู่เจรจาได้อย่างไร ว่าจะไม่ถูกก่อกวนในระหว่างร่วมประชุม รองนายกฯ กล่าวว่า
 
ได้เรียนกับนายเคิร์ท แคมเบลล์ ผู้ช่วยรมว. ต่างประเทศสหรัฐฯ ในระหว่างเดินทางมาพบตนเมื่อวันที่ 21 กรกฎาคมที่ผ่านมา และกระทรวงการต่างประเทศไทยก็ยืนยันว่าจะดูแลให้ความปลอดภัยด้วยมาตรการขั้นสูงสุด โดยมีชุดรักษาความปลอดภัย (รปภ.) ประจำตัวรมว. ต่างประเทศคนละ 1 ชุด อีกทั้งยังมีรปภ. รอบนอก โดยสามารถติดตามได้ว่ารัฐมนตรีเดินทางไปไหน อยู่กิโลเมตรที่เท่าไร สถานการณ์โดยรอบเป็นอย่างไร ทุกอย่างจัดเป็นระบบมาก

นายสุเทพกล่าวต่อว่า
 
รัฐบาลให้ความสำคัญกับการประชุมครั้งนี้เป็นอย่างยิ่ง จึงแต่งตั้งพล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ รมว. กลาโหม เป็นผู้อำนวยการดูแลมาตรการรักษาความปลอดภัยทั้งหมด โดยใช้มาตรการเข้มข้นในการกำกับและควบคุมสถานการณ์ เพื่อไม่ให้เกิดความเสียหายเหมือนในคราวการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนและคู่เจรจาที่เมืองพัทยา จ. ชลบุรี เพราะถ้าเกิดเหตุการณ์เช่นนั้นอีกก็จบกันเลยประเทศไทย ทั้งนี้เมื่อวันที่ 21 กรกฎาคม ได้เดินทางลงพื้นที่เพื่อให้กำลังใจกับผู้ปฏิบัติ โดยนายกฯ ได้ฝากให้กำลังใจด้วย และเชื่อว่าจะสามารถรวมพลังทำงานนี้ให้สำเร็จได้