กรณีสำนักข่าวบีบีซีเผยแพร่ข่าวนักท่องเที่ยวชาวอังกฤษ 2 คน ที่ถูกดำเนินคดีข้อหาขโมยทรัพย์สินในร้านค้าปลอดภาษีของคิงเพาเวอร์ ที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ กล่าวหาว่าต้องจ่ายสินบนให้เจ้าหน้าที่เพื่อให้พ้นคดีนั้น
นายจุลจิตต์ บุญเกตุ รองประธานกรรมการบริหาร กลุ่มบริษัท คิงเพาเวอร์ กล่าวเมื่อวันที่ 21 กรกฎาคมว่า
กรณีนี้เกิดขึ้นตั้งแต่เดือนเมษายนที่ผ่านมา ซึ่งคิงเพาเวอร์มีภาพวงจรปิดเห็นชัดเจนขณะมีการลักทรัพย์ จึงดำเนินคดีกับคนทั้งสอง แต่ได้ทรัพย์สินคืนแล้ว
"ยอมรับว่าการวิ่งเต้นเพื่อให้พ้นคดีมีทุกที่ เมื่อติดต่อช่องทางที่ไม่ถูกต้อง เรื่องการต้มตุ๋นก็เกิดขึ้นได้ในทุกประเทศ" นายจุลจิตต์กล่าว และว่า ที่บุคคลทั้งสองให้ข่าวสื่อมวลชนต่างประเทศทำนองเตือนอย่ามาซื้อของคิงเพาเวอร์เพราะมีการต้มตุ๋นนักท่องเที่ยวนั้น คิงเพาเวอร์ทำหนังสือถึงนายควินตัน มาร์คเวล เอกอัครราชทูตสหราชอาณาจักรประจำประเทศไทย เพื่อชี้แจงกรณีที่เกิดขึ้นและขอให้สถานทูตอังกฤษประจำประเทศไทยชี้แจงให้สื่อมวลชนอังกฤษรับทราบข้อเท็จจริงแล้ว
แหล่งข่าวจากเจ้าหน้าที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เปิดเผยว่า
กรณีที่ระบุชื่อนายโทนี่เป็นตัวแทนวิ่งเต้นไกล่เกลี่ยคดีฟ้องร้องให้กับชาวต่างชาตินั้น เป็นที่รู้กันว่านายโทนนี่จะนั่งประจำอยู่ที่สถานีตำรวจราชาเทวะคอยช่วยเหลือในการเป็นล่ามแปลภาษาและเป็นนายหน้าติดต่อเคลียร์คดี
แหล่งข่าวจากทำเนียบรัฐบาลเปิดเผยว่า
ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 21 กรกฎาคมนี้ หยิบยกกรณีนี้ขึ้นมาหารือ โดยนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี สอบถามข้อเท็จจริง และกำชับให้กระทรวงคมนาคมหาทางป้องกันปัญหานี้โดยเร็ว เพราะถือว่าสร้างความเสื่อมเสียให้ประเทศเป็นอย่างมาก ทั้งนี้ ตัวแทนกระทรวงคมนาคมยืนยันว่าชาวต่างชาติขโมยสินค้าในร้านค้าปลอดภาษีจริง แต่มีเจ้าหน้าที่บางคนเรียกรับค่าตอบแทนเพื่อแลกกับการไม่ถูกส่งตัวให้ตำรวจ
กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
กระทู้ล่าสุด
รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
