ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) พ.ต.อ. สุชาติ วงศ์อนันต์ชัย รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ)
กล่าวถึงกรณีสำนักงานตำรวจแห่งชาติขอสอบสวนเจ้าหน้าที่ของดีเอสไอที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับรถยนต์หมายเลขทะบียน สษ 1785 กทม. ซึ่งเกี่ยวข้องกับคดียิงนายสนธิว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้น ส.ต.อ.วรวุฒิ มุ่งสันติ ผู้ต้องหาตามหมายจับไม่เคยทำเรื่องเบิกอาวุธปืน รถยนต์ หรืออุปกรณ์สืบสวนพิเศษของดีเอสไอไปใช้ โดยในวันที่ 23 ก.ค.นี้ พ.อ.สุรศักดิ์ ณ ลำปาง ผบ.สำนักคดีเทคโนโลยีและการตรวจสอบ จะรับผิดชอบหาตัวบุคคลที่เกี่ยวข้องกับรถยนต์หมายเลขทะเบียน สษ 1785 มาให้ปากคำต่อพนักงานสอบสวน นอกจากนี้ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง อธิบดีดีเอสไอ ยังประสานโดยตรงไปยังพล.ต.อ.ธานี ว่า ดีเอสไอพร้อมให้ความร่วมมือกับพนักงานสอบสวนในการหาข้อเท็จจริงในกรณีดังกล่าว
พ.ต.อ.สุชาติ กล่าวอีกว่า ขณะนี้ตำรวจไม่ได้ระบุชัดเจนว่า รถยนต์ในความรับผิดชอบของดีเอสไอเข้าไปเกี่ยวข้องอย่างไรกับคดียิงนายสนธิ เนื่องจากไม่ใช่รถยนต์ที่ใช้ก่อเหตุยิง ในเบื้องต้นจึงเป็นการประสานเพื่อขอข้อมูลเกี่ยวกับการใช้รถยนต์คันดังกล่าวเท่านั้น
"ในส่วนของการเบิกใช้อาวุธปืนและอุปกรณ์สืบสวนพิเศษนั้น ดีเอสไอยืนยันได้ว่ามีระเบียบควบคุมการเบิกใช้อุปกรณ์พิเศษอย่างเข้มงวด และมีกฎหมายดูแลการใช้งานอย่างรัดกุม โดยก่อนเบิกใช้อุปกรณ์พิเศษต้องได้รับการอนุมัติจากศาลก่อนทุกครั้ง มิเช่นนั้นจะมีความผิดทางอาญา" รองอธิบดีดีเอสไอ กล่าว
ด้านพล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล หรือ"เสธ.แดง" ผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพบก กล่าวถึงกรณีที่จ.ส.อ. ปัญญา ศรีเหรา สังกัดหน่วยบัญชาการสงครามพิเศษ ตกเป็นผู้ต้องหาคดีลอบยิงนายสนธิ ว่าทหารมีผู้บังคับบัญชาทางตามลำดับชั้น
ไม่ใช่ว่าตำรวจพูดอะไรแล้วจะจับไปส่ง ผู้บังคับบัญชาต้องดูแลผู้ใต้บังคับบัญชา เพราะขณะนี้ตำรวจไม่ได้เกรงกลัวทหารเหมือนเมื่อก่อน และไม่ใช่ว่าตำรวจตั้งข้อหาแล้วเราไปสั่งพักราชการ หากเขาบริสุทธิ์ ใครจะรับผิดชอบ ดังนั้นการที่ตำรวจจะมาขอตัวผู้ใต้บังคับบัญชาไปดำเนินคดี ต้องขอดูเอกสารหลักฐานให้แน่ชัดว่ามีความผิดอะไร จึงควบคุมตัวได้ ไม่ใช่ปล่อยให้ถูกควบคุมตัวไป
"ยืนยันว่าหากเจ้าหน้าที่ตำรวจพบของกลางเมื่อไหร่จึงจะพบผู้กระทำความผิด ซึ่งรถของกลางที่จับได้เป็นคนละคันกับที่ก่อเหตุ ซึ่งจะเห็นได้ว่า เป็นการสร้างหลักฐานขึ้นมา สุดท้ายคดีนี้เป็นมวยล้มต้มคนดู เพราะมีพยานกว่า 50 คนแต่สอบสวนยังไปไม่ถึงไหน ทั้งนี้พอถึงวันที่ 30 ก.ย.นี้ พล.ต.อ.ธานี ต้องเกษียณอายุราชการไปก็ไม่ต้องรับผิดชอบอะไร เชื่อว่า สุดท้ายคดีนี้ก็จับใครไม่ได้" เสธ.แดง กล่าว