ปชป. จี้กกต.สอบ ทักษิณปราศรัยเข้าข่ายผิดกม.เลือกตั้ง

โดย ผู้จัดการออนไลน์ 6 มีนาคม 2549 00:28 น.

อลงกรณ์ จวก ทักษิณทำร้ายตัวเอง ทั้งโกงชาติขายชาติ จนประชาชนทนต่อไปไม่ไหว แนะ ทางที่ดี ควรยอมลาออกเพื่อยุติปัญหาทั้งหมด ขณะเดียวกัน จี้กกต.เข้าตรวจสอบคำปราศรัยแบบสัญญาว่าจะให้เมื่อวันที่ 3 มี.ค. ซึ่งเข้าข่ายผิดกฎหมายเลือกตั้งชัดเจน เย้ย คิดปฏิรูปการเมือง เหมือนแก้ผ้าเอาหน้ารอด ซื้อเวลาให้ตัวเอง หากคิดทำจริงคงทำนานแล้ว

นายอลงกรณ์ พลบุตร อดีตส.ส.เพชรบุรี พรรคประชาธิปัตย์ เปิดเผยว่า การชุมนุมครั้งนี้ของประชาชน ที่ร่วมกันเดินหน้าเพื่อขับไล่พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร รักษาการนายกรัฐมนตรี ก็จะถึงจุดยุติ ซึ่งพ.ต.ท.ทักษิณเองควรจะพิจารณาคำเรียกร้องของประชาชนบ้าง เพราะที่จริงตัวของท่านเองที่เป็นเอง ทั้งพฤติกรรมในการโกงชาติ ขายชาติ ทุจริต ทำผิดกฎหมาย ดังนั้นพ.ต.ท.ทักษิณ ควรแสดงความรักชาติด้วยการลาออก

ผู้สื่อข่าวถามถึง การเปิดใจของพ.ต.ท.ทักษิณ เมื่อวันที่ 3 มี.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งคำปราศรัยส่วนหนึ่งที่ระบุจะให้มีการขึ้นเงินเดือนในส่วนข้าราชการ รวมไปถึงการเกณท์คนมาฟัง ซึ่งอาจเข้าข่ายผิดกฎหมายเลือกตั้ง นายอลงกรณ์ กล่าวว่า ส่วนตัวคิดว่าผิดกฎหมายเลือกตั้งอย่างชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นการใช้อำนาจในการเกณท์คนมาฟังหรือการจ่ายค่ารถให้ เรื่องนี้กรรมการเลือกตั้งควรจะแสดงความเป็นกลางในการพิจารณา ทั้งนี้พรรคประชาชนกำลังรวบรวมหลักฐาน เพื่อยื่นให้กรรมการเลือกตั้งตัดสินแสดงถึงจุดยืนของพรรคร่วมฝ่ายค้านยังคงบอยคอดการเลือกตั้ง และทางพรรคร่วมฝ่ายค้านจะได้เปิดปราศรัยเพื่อชี้แจงข้อเท็จจริงให้กับประชาชนได้เข้าใจมากขึ้น

ผู้สื่อข่าวถามต่อว่า การเลือกตั้งครั้งนี้จะได้ส.ส. ครบ500คนหรือไม่ นายอลงกรณ์ กล่าวว่า คงยังให้คำตอบไม่ได้ในตอนนี้ คงต้องรอจนถึงวันที่ 8 มี.ค.49 ก่อน อย่างไรก็ตาม ในส่วนของพรรคร่วมฝ่ายค้านก็ยังรณรงค์ให้ประชาชนไปใช้สิทธิ์เลือกตั้ง แต่คงไม่มีสิทธิ์ชี้นำให้ประชาชนกระทำสิ่งใด คิดว่าหากปราศรัยให้ประชาชนรับทราบมากขึ้นประชาชนก็จะตัดสินใจได้เอง เพราะประชาชนก็มีสิทธิ์ที่จะใช้เสียงและมีสิทธิ์กาช่องงดออกเสียงเลือกตั้ง

ส่วนประเด็นการปฏิรูปการเมืองที่พ.ต.ท.ทักษิณให้สัญญากับประชาชนนั้น นายอลงกรณ์ กล่าวว่า เป็นคำพูดที่เชื่อถือไม่ได้ เป็นเหมือนการแก้ผ้าเอาหน้ารอด ซื้อเวลาเพื่อหาทาง

ออกให้กับตัวเอง เพราะหากตั้งใจที่จะปฏิรูปจริงคงคิดได้ตั้งนานแล้ว ไม่ต้องรอจนถึงปัจจุบันโดยเฉพาะในตอนที่พรรคประชาธิปัตย์เสนอ เพื่อให้มีการปฏิรูป

โดย ผู้จัดการออนไลน์ 6 มีนาคม 2549 00:00 น.

คุณหญิงกัลยาย้ำกกต.ให้ตรวจสอบคำปราศรัยของทักษิณเมื่อวันที่ 3 มีค.เข้าข่ายผิดกม.เลือกตั้งหรือไม่ ชี้กรณีคว่ำบาตรเลือกตั้งนั้นเคยมีในยุคนายควง อภัยวงศ์เป็นหัวหน้าพรรค ตอกย้ำไม่เชื่อว่าทักษิณจะตั้งใจปฏิรูปการเมืองจริง เพราะที่ผ่านมาโกหกมาตลอด

ดร.คุณหญิงกัลยา โสภณพานิช สภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ ได้ให้สัมภาษณ์ถึงการปาศรัยใหญ่เปิดใจที่ท้องสนามหลวงของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เมื่อวันศุกร์ที่ 3 มี.ค.ที่ผ่านมาว่า คำพูดส่วนหนึ่งในการปราศรัยเสมือนว่าเป็นการให้สัญญาหรือชักชวนให้มีการเลือกพรรคไทยรักไทย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องนโยบายการขึ้นเงินเดือนให้กับข้าราชการรวมถึงกระแสข่าวการเกณฑ์พลมาร่วมฟังในครั้งนั้น

โดยดร.คุณหญิงกัลยากล่าวว่าในวันนั้นตนไม่ได้อยู่รับฟังการปราศรัย ประเด็นต่างๆที่พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตรกล่าวออกมานั้นอยากฝากให้กกต.นำไปตรวจสอบว่าเข้าข่ายผิดกม.เลือกตั้งหรือไม่ หากคิดว่าเข้าข่ายผิดกม.คงต้องมีหลักฐานและพยานพิสูจน์ได้ว่ามีการจ่ายเงินเกณฑ์พลให้มาจริง

สำหรับกรณีที่มีมติการคว่ำบาตรการเลือกตั้งของพรรคประชาธิปัตย์ ดร.คุณหญิงกัลยาให้ความเห็นว่าที่จริงการคว่ำบาตรในลักษณะนี้เคยเกิดขึ้นมาแล้วในสมัยนายควง อภัยวงศ์ เป็นหัวหน้าพรรคฯเมื่อปี พ.ศ.2495 ซึ่งอยู่ในยุคของจอมพล ป.พิบูลสงคราม เป็นนายกรัฐมนตรี ส่วน และการคว่ำบาตรในครั้งนี้ตนคิดว่าจะทำให้ประชาชนเข้าใจถึงปัญหาและสถานการณ์ทางการเมืองมากขึ้น

และในเวลานี้พรรคประชาธิปัตย์ก็มีการเปิดเวทีชี้แจงให้ประชาชนรับทราบและเข้าใจในเรื่องการเลือกตั้งที่จะมีขึ้น รวมถึงรณรงค์ให้ประชาชนออกไปใช้สิทธิ์และกาในบัตรเลือกตั้งช่องงดออกเสียงเพราะพรรคประชาธิปัตย์ไม่อยากจะเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการฟอกตัวของพ.ต.ท.ทักษิณ

ส่วนในประเด็นที่ว่าหากพรรคไทยรักไทยได้รับการเลือกตั้งจะเปิดให้มีการปฏิรูปทางการเมือง ดร.คุณหญิงกัลยาให้ความเห็นว่าการที่พรรคไทยรักไทยจะได้ส.ส.ครบ 500 เขตไม่ใช่เรื่องง่ายและก็เป็นที่ทราบกันดีว่าในตลอดระยะเวลา 5 ปีที่ผ่านมาพ.ต.ท.ทักษิณรักษาคำพูดมากน้อยเพียงใด หากมีความตั้งใจในการปฏิรูปการเมืองจริงคงทำไปนานแล้วและในส่วนตัวคิดว่าพ.ต.ท.ทักษิณไม่มีความเป็นผู้นำและจริยธรรมมากพอที่จะเป็นผู้นำในการปฏิรูปการเมือง ซึ่งความจริงแล้วนโยบายในการปฏิรูปการเมืองนี้เป็นสิ่งที่พรรคประชาธิปัตย์เสนอและริเริ่มขึ้น แต่พรรคไทยรักไทยกลับอาศัยโอกาสและช่วงชิงนโยบายเพื่อให้เป็นผู้นำในการปฏิรูป เพราะทราบดีว่าจะได้รับการตอบรับและเสียงสนับสนุนจากประชาชนจำนวนมาก