นายกฯปัดเปิดสงครามปชช.รอบใหม่ จัดคิวบุกสุโขทัย-อุบล-เชียงใหม่ เสื้อแดงอุบลฯบุกล้อมรถ"อลงกรณ์"
นายกฯ เล็งพบประชาชนสงขลา ก่อนวางคิวบุกสุโขทัย-อุบล-เชียงใหม่ต่อ ย้ำกทช. ช่วยสอดส่องเสื้อแดงใช้วิทยุชุมชนปลุกระดม ปัดข่าวรบ. เตรียมเปิดสงครามประชาชนรอบใหม่ เสื้อแดงอุบลฯบุกล้อมรถ"อลงกรณ์" "จตุพร"เชื่อแผนส่ง รมต.ลงพื้นที่ หวังล่อให้เสื้อแดงใช้ความรุนแรง เชื่อใช้เป็นเหยื่อเพื่อล้มถวายฎีกา
เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 19 กรกฎาคม ที่รัฐสภา นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีนายสงวน พงษ์มณี ส.ส. ลำพูน พรรคเพื่อไทย (พท.) ออกมาปลุกระดมให้กลุ่มคนเสื้อแดงทั่วประเทศลุกขึ้นต่อต้านรัฐบาล โดยกล่าวอ้างว่ารัฐบาลจะทำสงครามประชาชนรอบใหม่ ว่า ไม่มี รัฐบาลไม่เคยเปิดสงครามกับใคร จึงขอทำความเข้าใจกับส.ส.พท. ว่าการปฏิบัติหน้าที่ของรัฐบาล และครม. เป็นไปตามปกติ การลงพื้นที่ไม่มีลักษณะของการยั่วยุ หรือทำให้เกิดความขัดแย้ง แต่เป็นการลงพื้นที่เพื่อทำงาน จึงไม่มีเหตุผลที่จะต้องมาปะทะ หรือทำสงครามใดๆ ทั้งสิ้น ประชาชนส่วนใหญ่ก็ต้องการเห็นรัฐมนตรีไปทำงาน ไปติดตามนโยบายต่างๆ ของรัฐบาลในทุกพื้นที่ ส่วนคนที่ไม่เห็นด้วยแล้วมาออกต่อต้าน ก็ขอย้ำว่าให้แสดงออกโดยอยู่ภายใต้ขอบเขตของกฎหมาย แต่ถ้ามาขัดขวางโดยมีอาวุธคงไม่ได้ เจ้าหน้าที่ต้องดำเนินการ
ผู้สื่อข่าวถามว่า นายกฯ จะเดินทางลงพื้นที่เพื่อพบปะประชาชนอีกเมื่อไร นายกฯ กล่าวว่า จะเดินทางลงไปทุกภาค แต่ยังไม่มีกำหนดการที่แน่นอน ซึ่งมีนัดหมายล่วงหน้าว่าครั้งหน้าจะเป็นภาคใต้คือจ. สงขลา นอกจากนี้กำลังดูพื้นที่ภาคอื่นๆ อาทิ จ. สุโขทัย อุบลราชธานี เชียงใหม่ ฯลฯ ที่รอคิวอยู่
ผู้สื่อข่าวถามว่า การโฟนอินของพ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ไปยังที่ชุมชนต่างๆ จะเป็นอุปสรรคต่อการทำงานของรัฐบาลหรือไม่ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ขณะนี้รัฐมนตรีหลายคนยังเดินหน้าลงพื้นที่ ซึ่งตนก็ได้ติดตามอยู่ตลอด ก็ยังสามารถทำงานกันได้ ส่วนเรื่องการเผยแพร่ข้อมูลผ่านวิทยุชุมชนต่างๆ นั้น ได้ขอให้คณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กทช.) ติดตามสอดส่องโดยละเอียด เพราะต้องระมัดระวัง ถ้าเป็นเรื่องฝ่ายบริหารเข้าไปจัดการวิทยุชุมชน โดยคาบเกี่ยวว่าเป็นเรื่องการเมืองหรือไม่ จะเป็นการสร้างบรรทัดฐานที่ผิดอีก กลายเป็นว่าฝ่ายบริหารเข้าไปปิดกั้นสื่อ จึงต้องขอความร่วมมือกทช. และได้ย้ำเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าหากมีการกระทำผิดกฎหมายชัดเจน ก็ต้องเป็นเรื่องของกฎหมาย ไม่ใช่เรื่องความเห็นทางการเมือง
เวลา 15.00 น. วันเดียวกัน กลุ่มเสรีชนและชักธงรบสวมเสื้อแดงประมาณ 300 คน ชุมนุมที่หน้าโรงแรมสุนีย์ แกรนด์ อ.เมืองอุบลราชธานี ในระหว่างที่นายอลงกรณ์ พลบุตร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ และคณะมีกำหนดเข้าพัก ก่อนเป็นประธานพิธีเปิดงานหมอลำอินเตอร์สร้างสรรค์ ซึ่งกรมทรัพย์สินทางปัญญาจัดขึ้น ปรากฏว่า เกิดเหตุชุลมุนขึ้นเล็กน้อย เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจนำรถยนต์ 6 ล้อ 3 คัน มาปิดกั้นถนนชยางกูรด้านหน้าโรงแรม เพื่อสกัดขบวนรถยนต์ของกลุ่มคนเสื้อแดง ขณะรถยนต์ตำรวจนำขบวนรถยนต์นายอลงกรณ์วิ่งสวนมาอีกด้านเพื่อเข้าโรงแรม กลุ่มคนเสื้อแดงได้กรูเข้าไปล้อมพร้อมตะโกนร้องขับไล่นายอลงกรณ์ ทำให้ พ.ต.อ.นพพร จัยสิน ผกก.สภ.เมือง ต้องเข้าไปเจรจา ขอให้ขบวนรถของนายอลงกรณ์ได้เข้าไปภายในโรงแรม แกนนำกลุ่มคนเสื้อแดงกล่าวว่า แค่ต้องการแสดงออกว่าไม่เอารัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ จากนั้นยอมถอยออกไปโดยไม่มีเหตุรุนแรงเกิดขึ้นเหมือนที่ จ.เชียงใหม่
นายอมรพันธุ์ นิมานันท์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวถึงกรณีนายกรัฐมนตรีอาจมาราชการที่ จ.เชียงใหม่ และเข้าเยี่ยมแพนดาน้อยที่สวนสัตว์เชียงใหม่ ว่าไม่หนักใจ ผู้นำประเทศไปไหนก็ได้ในประเทศไทย อีกอย่างแพนดาเป็นสิ่งน่ารัก ไม่ว่าเป็นใครก็จะได้รับความพอใจอย่างเดียวกันคือ ความน่ารักของแพนดาน้อยไม่ว่าเสื้อสีไหนไม่มีปัญหา กลุ่มมวลชนต้องเคารพกฎหมาย หากชุมนุมต้องเป็นไปตามสิทธิที่ประชาชนทั่วไปยอมรับได้ หากเกินเลยหรือละเมิดกฎหมายต้องขอความกรุณา ส่วนเจ้าหน้าที่ต้องหนักแน่นใจเย็นไม่วู่วาม
พล.ต.ต.พงษ์สันต์ เจียมอ่อน รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล กล่าวถึงกรณีแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย 35 คน ไม่มารับทราบข้อกล่าวหาตามหมายเรียกในคดีปิดสนามบินสุวรรณภูมิ เนื่องจากไม่ยอมรับในข้อหาก่อการร้ายว่า ต้องรอให้ พล.ต.ท.วุฒิ พัวเวส ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในฐานะหัวหน้าพนักงานสอบสวนเรียกประชุมอีกครั้ง ส่วนจะออกหมายเรียกซ้ำอีกครั้งหรือจะขอศาลออกหมายจับ เพราะไม่มารับทราบข้อหานั้นยังไม่สามารถระบุได้ ต้องประชุมพนักงานสอบสวนทั้งหมดก่อน ส่วนข้อเรียกร้องให้เปลี่ยนข้อหานั้น พนักงานสอบสวนคงไม่สามารถทำได้เพราะสรุปไปแล้ว อยากให้พันธมิตรมารับทราบข้อกล่าวหาเสียก่อน จากนั้นไปต่อสู้ตามกระบวนการยุติธรรมในขั้นตอนต่อไป เพราะยังมีอีกหลายชั้นในการพิสูจน์
ที่รัฐสภา นายชัย ชิดชอบ ประธานรัฐสภากล่าวเปิดสัมมนาด้านประชาธิปไตยแก่ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และผู้ปกครองท้องที่ รุ่นที่ 20 จาก จ.นนทบุรี ราชบุรี ลำปาง พังงา และปัตตานี ตอนหนึ่งว่า "เวลานี้ยังมีคนเสื้อสีต่างๆ เคลื่อนไหวและสร้างปัญหากันอยู่ ขอให้ยุติเสียที เพราะทุกคนในนามประชาชนทั่วประเทศต่างมีสีเดียวคือ สีธงไตรรงค์ที่บูชาอยู่ในปัจจุบัน"
นายชัยให้สัมภาษณ์ถึงการเคลื่อนไหวของกลุ่มคนเสื้อแดง ในระหว่างการประชุม อาเซียนที่ จ.ภูเก็ตว่า "คิดว่าท่านคงจะต้องออกลายบ้าง เสือไม่ทิ้งลายเขาว่าอย่างนั้น ก่อนที่ลายจะหมดไปก็ต้องออกลายบ้างเป็นธรรมดา ต้องมีลายไปเรื่อยๆ ตราบใดที่คนเรากินพริก กินเกลือ เค็มเปรี้ยวหวานอะไรต่างๆ ก็ต้องออกฤทธิ์เป็นธรรมดา ส่วนจะเป็นใครบ้างที่ทิ้งลาย ก็ไม่ทราบ เพราะไม่ได้หมายถึงใคร"
นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย ในฐานะแกนนำคนเสื้อแดง กล่าวถึงกรณีนายอภิสิทธิ์ประกาศลงพื้นที่พบปะประชาชนในทุกภูมิภาคท่ามกลางแรงต้านจากกลุ่มคนเสื้อแดงในภาคอีสานและภาคเหนือว่า หากนายอภิสิทธิ์จะไปไหนก็ไปไม่ต้องมาประกาศ เพราะเวลานี้ได้เตือนคนเสื้อแดงทั่วประเทศแล้วว่า อย่าไปหลงเป็นเหยื่อในสถานการณ์เหมือนคนเสื้อแดง จ.เชียงใหม่ เพราะเรื่องดังกล่าวเป็นกลเกมของรัฐบาล และกลุ่มอำมาตย์ที่ต้องการป้ายสีว่าคนเสื้อแดงเป็นพวกใช้ความรุนแรง มีจุดมุ่งหมายเพื่อล้มการรวบรวมรายชื่อประชาชนทูลเกล้าฯถวายฎีกาเพื่อขอพระราชทานอภัยโทษให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี
"คนเสื้อแดงทุกคนมีสิทธิชุมนุมแสดงความไม่พอใจโดยสงบ แต่อย่าไปมีส่วนร่วมในสถานการณ์ที่รัฐต้องการบิดเบือนการใช้ความรุนแรง เพราะคนเสื้อแดงยังมีงานใหญ่ที่สุดในเวลานี้คือ การถวายฎีกา ดังนั้น คนเสื้อแดงอย่าเพิ่งไปกินเบ็ดที่เขาล่อเอาไว้" นายจตุพรกล่าว และว่า ในจำนวน 3-5 ล้านรายชื่อ มี ส.ส.พรรคเพื่อไทย ร่วมลงชื่อด้วยเกือบทุกคน หลังปิดรับรายชื่อในวันที่ 31 กรกฎาคม จะเข้าสู่กระบวนการตรวจสอบความถูกต้องประมาณ 1 สัปดาห์ ก่อนกราบบังคมทูลเกล้าฯถวายฎีกาผ่านสำนักเลขาธิการพระราชวังต่อไป
นายสุชาติ ลายน้ำเงิน ส.ส.ลพบุรี พรรคเพื่อไทย และรองโฆษกของพรรคกล่าวว่า เมื่อคืนวันที่ 18 กรกฎาคมที่ผ่านมา พ.ต.ท.ทักษิณโฟนอินเข้ามาในงานเลี้ยงของคนเสื้อแดง จ.ลพบุรี ท่ามกลางคนร่วมงานประมาณ 2,000 คน กล่าวขอบคุณภรรยาทหาร ภรรยาตำรวจที่ออกไปช่วยเหลือคนเสื้อแดง รวมถึงขอบคุณทหาร จ.ลพบุรี ที่รักษาประเทศ แต่มีนายพลไม่กี่คนได้รับประโยชน์จากการเมือง