กกต.นัดถกจัดเลือกตั้งซ่อมแทนเทพเทือก

คมชัดลึก :“ประพันธ์” เผย อาทิตย์หน้ากกต. เตรียมหารือ เตรียมจัดเลือกซ่อม ส.ส.เขต 1 สุราษธานี แทน“เทพเทือก”ภายใน 45 วัน ชี้ การวินิจฉัย“ถือหุ้น”ในกิจ การที่มี “สัมปทานของรัฐ” ขึ้นอยู่กับดุลพินิจของ “ศาลรธน.”กฎหมายไม่ได้บังคับให้ “ส.ส.” ต้องไขก๊อก

(18ก.ค.) นายประพันธ์ นัยโกวิท กรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กล่าวถึงการจัดการเลือกตั้งซ่อมส.ส.เขต 1 สุราษธานี แทนนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง ที่ลาออกภายหลังกกต.มีมติให้สิ้นสุดสมาชิกภาพ เนื่องจากถือหุ้นในกิจการที่มีสัมปทานของรัฐว่า เมื่อตำแหน่งส.ส.เขตว่างลงตามรัฐธรรมนูญ ต้องจัดการเลือกตั้งใหม่ภายใน 45วัน โดยวันสุดท้ายที่จะสิ้นสุด 45 วันคือวันที่ 30 ส.ค. ทั้งนี้การกำหนดวันเลือกตั้งคงต้องหารือในที่ประชุมกกต. โดยในเบื้องต้นคาดว่าในสัปดาห์หน้าจะพิจารณาร่างพระราชกฤษฏีกาเพื่อให้มีการเลือกตั้งใหม่ ซึ่งกกต.จะสั่งการให้กกต.จังหวัดเตรียมการจัดการเลือกตั้งและเชื่อว่าจะไม่มีปัญหา เนื่องจากกกต.เคยจัดการเลือกใหม่อยู่แล้ว
 
 ส่วนความเห็นของส.ส.พรรคประชาธิปัตย์และ16ส.ว.ที่ถูกวินิจฉัยกรณีเดียวกันมีความเห็นคัดค้านมติกกต.นั้น กรรมการการเลือกตั้ง กล่าวว่ากระบวนการเรื่องนี้ยังไม่ยุติเพราะยังต้องเสนอไปยังประธานสภาผู้แทนราษฏร เพื่อส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยจึงยังมีเวลาและโอกาสในการชี้แจง การที่จะเห็นด้วยหรือไม่เป็นเรื่องธรรมดา ส่วนผู้ที่ไม่เห็นด้วยจะดำเนินการอย่างไรขึ้นอยู่กับดุลยพินิจที่สามารถดำเนินการได้ กกต.มีหน้าที่ไปชี้แจงข้อเท็จจริงทางกฏหมายว่าเป็นอย่างไร ความจริงแล้วไม่มีความจำเป็นต้องลาออก เพราะเป็นเรื่องที่ศาลรัฐธรรมนูญจะพิจารณาก็สู้คดีกับไปตามกฏหมาย
 
 ผู้สื่อข่าวถามว่า สุดท้ายแล้วหากศาลรัฐธรรมนูญคำวินิจฉัยอย่างไร จะเป็นบรรทัดฐานในกับกรณีเช่นนี้ในอนาคตหรือไม่ นายประพันธ์ กล่าวว่า คำสั่งและคำพิพากษาของศาลรัฐธรรมนูญ ย่อมเป็นข้อผูกพันต่อทุกองค์กรอยู่แล้ว คำพิพากษาหรือคำสั่งจะเป็นแนวทางในการจะปฏิบัติของต่อไปอนาคต ประเด็นนี้จะเป็นความชัดเจนด้วยว่าส.ส.และส.ว.ต้องปฏิบัติอย่างไรในการถือหุ้น
 
 ผู้สื่อข่าวถามว่า ในฐานะที่เป็นตุลาการมาก่อน ประเด็นเหล่านี้ควรพิจารณาจากเจตนาหรือพิจารณาจากสิ่งใด นายประพันธ์ กล่าวว่า ประเด็นเหล่านี้ขึ้นอยู่กับความเห็นของศาลรัฐธรรมนูญ ที่ต้องพิจารณาว่าบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญมาตรา 265 ที่เขียนไว้เช่นนี้ เมื่อดูตามข้อเท็จจริงที่ส.ส.และส.ว.ถือหุ้นอยู่จะมีคำวินิจฉัยอย่างไร ทั้งนี้ในขั้นตอนการสอบสวนพบว่า ส.ส.เละส.ว.ถือหุ้นมาก่อนที่จะเป็นส.ส.และส.ว.ทั้งสิ้น ในชั้นนี้จึงอยู่ที่ศาลจะพิจารณา และความจริงไม่จำเป็นต้องไปลาออกเพราะท่านลาออกกกต.ต้องจัดเลือกตั้งใหม่แทนตำแหน่งที่ว่าง ก็ต้องเสียงบประมาณ ซึ่งเมื่อพ้นไปแล้วก็สามารถมาลงเลือกตั้งใหม่ได้ไม่ห้าม ส่วนจะมาสมัครใหม่หรือไม่ขึ้นอยู่กับผู้ที่ลาออกไป