แฉผลงานรัฐบาล "มาร์ค" สุดจับฉ่าย นายกฯเอาแต่เดินสายเปิดสัมมนาจนไม่มีเวลาทำงาน ขุนคลังเอาแต่จ้องออกทีวี "สรยุทธ" ทำเอารองนายกฯร่วมคณะฟิวส์ขาดถึงขั้นแจก "กล้วย" ด้าน "กอร์ปศักดิ์" เมาหมัด ไล่ฟัดก.พาณิชย์ผลงานตัวเอง...
ผู้สื่อข่าวรายงานจากทำเนียบรัฐบาลว่า
หลังมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์การทำงานของรัฐบาลหนักข้อขึ้นเรื่อยๆ ว่าตลอด 6 เดือนที่ผ่านมายังไม่สามารถแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจปากท้องของประชาชนทั้งยังไม่สามารถจัดการกับปัญหาต่างๆแม้แต่การระบาด ของไข้หวัดใหญ่ 2009 ได้ ล่าสุดนายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ รองนายกรัฐมนตรี ได้กล่าวกับคนใกล้ชิดว่า ขณะนี้ตัวเองก็ไม่สามารถอดทนกับการทำงานของนายกรณ์ จาติกวณิช รมว.คลัง หรือแม้แต่การทำงานของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีได้ เพราะรัฐบาลมีเสียงกดดันจากภายนอกมากขึ้นว่าไม่มีผลงาน และการทำงานที่ผ่านมาไม่ได้ ดูแลภาพรวมของเศรษฐกิจของประเทศอย่างจริงจัง
โดยหลังจากที่ ครม.ได้อนุมัติงบกลางปี 2552 จำนวน 116,700 ล้านบาท เพื่อเป็นงบกระตุ้นเศรษฐกิจระยะสั้น แต่กลับไม่มีการติดตามการเบิกจ่ายหรือติดตามเงินที่อนุมัติไปให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ ที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจ นอกจากทำให้งบประมาณยังเหลืออยู่จำนวนมาก ผลการกระตุ้นเศรษฐกิจยังไม่เกิดขึ้น
แฉเหตุผลงาน มาร์ค สุดจับฉ่าย
ขณะเดียวกัน รมว.คลัง ซึ่งมีหน้าที่โดยตรงในการเรื่องงบประมาณ
กลับไปให้ความสำคัญกับมาตรการไทยเข้มแข็งซึ่งเป็นมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจระยะปานกลางถึงระยะยาวและเอาแต่ ลงพื้นที่ต่างจังหวัดเพื่อขายโครงการนี้ทุกสัปดาห์ โดยสัปดาห์ที่ผ่านมาลงพื้นที่ จ.สุโขทัย พิษณุโลก และนครสวรรค์ ขณะสัปดาห์ก่อนหน้านั้นก็ไปที่เกาะสมุยและสัปดาห์นี้ลงพื้นที่ จ.เชียงใหม่ เพื่อประกาศมาตรการไทยเข้มแข็ง ซึ่งไม่สามารถทำได้ จริงในขณะนี้ แต่โครงการจะเริ่มดำเนินการได้อย่างเร็วที่สุด 1 ปีถึง 3 ปีข้างหน้า แต่กระทรวงการคลังก็อ้างว่าไปลงพื้นที่เพื่อศึกษาความพร้อมของแต่ละจังหวัดในการดำเนินโครงการ
ทั้งนี้ การมองแต่เรื่องไทยเข้มแข็งซึ่งยังทำไม่ได้ในเวลานี้
มากกว่าการหาทางที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจระยะสั้นเพื่อให้เศรษฐกิจฟื้นตัวก่อนนั้น แสดงให้เห็นว่านายกรณ์ไม่ได้มีแนวทางที่ชัดเจนในการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ อย่างเช่นการเพิ่มปริมาณพันธบัตรออมทรัพย์ก็ตัดสินใจทำในเวลาแค่ 30 วินาทีก่อนที่จะโทร.ไปแจ้งรายการเรื่องเล่าเช้านี้และแถลงข่าวให้นักข่าวทราบ จนถึงกับทำให้นาย กอร์ปศักดิ์เปรยสบถกับผู้ใกล้ชิดถึงการที่รัฐและกระทรวงการคลังมุ่งให้ความสนใจแต่กับโครงการนี้
ขณะเดียวกัน นายกอร์ปศักดิ์ยังกล่าวถึงความอึดอัดใจเกี่ยวกับนายกรัฐมนตรีด้วยว่า
งานหลักของนายกรัฐมนตรีในขณะนี้คือ ไปเปิดงานสัมมนาและงานแสดงสินค้าทุกงานที่ถูกเชิญ โดย แต่ละวันจะมีงานกล่าวปาฐกถาไม่ต่ำกว่า 1-2 งานจนไม่สามารถจับทางได้ว่านายกรัฐมนตรีมีเป้าหมายไปในทิศทางใดทำให้เกิดปัญหาในการทำงานหลายครั้ง อย่างล่าสุดเมื่อวันที่ 16 ก.ค.ที่ผ่านมา นายก รัฐมนตรีมีกำหนดการแถลงผลงานรัฐบาล 6 เดือนร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจ และสังคมแห่งชาติ (สศช.) แต่เนื่องจากนัดชนกับการแถลงผลงานของกระทรวงยุติธรรมทำให้ในที่สุดไม่สามารถแถลงผลงานร่วมกับ สศช.ได้
ทั้งหมดนี้ทำให้นายกอร์ปศักดิด์อึดอัดใจมาก ถึงขนาดเปรยกับผู้ใกล้ชิดว่าตนอาจไม่ทนและในที่สุดคงจะต้องมีการออกมาชี้แจงกับประชาชนเป็นระยะๆ ว่า เหตุใดความพยายามในการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลจึงไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควร
อย่างไรก็ตาม ในส่วนของผลงานของนาย กอร์ปศักดิ์เองนั้น รัฐมนตรีร่วมพรรคเองก็สัพยอกเอาว่า
ไม่มีผลงานอะไรที่เป็นรูปธรรม โดยเฉพาะโครงการชุมชนพอเพียงที่นายกอร์ปศักดิ์กำกับดูแลอยู่นั้นก็เต็มไปด้วยเรื่องอื้อฉาว ล่าสุดมีการออกมาแฉโพยว่าโครงการที่ยื่นเข้ามาของบชุมชนพอเพียงในหลายจังหวัดและหลายพื้นที่นั้นก๊อบปี้มาจากพิมพ์เดียวกัน โดยมีบริษัทนายหน้าทำหน้าที่เป็นล็อบบี้ยิสต์ให้ทั้งหมด
นอกจากนี้ ในส่วนของโครงการระบายสต๊อกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ของกระทรวงพาณิชย์
ซึ่งก่อนหน้าได้ประมูลขายให้แก่ผู้ส่งออกไปแล้วแต่ถูกนายกอร์ปศักดิ์สั่งระงับการขายเอาไว้ โดยอ้างบริษัทเอกชนเสนอราคามาต่ำเกินไปจนกระทั่งผู้ประมูลได้ขอยกเลิกสัญญาไป ล่าสุดก็ปรากฏว่าข้าวโพดที่อคส.ฝากไว้ในโกดังต่างๆเน่าเสียทั้งหมดจนนายกอร์ปศักดิ์เสนอให้มีการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบความเสียหายของข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ดังกล่าวโดยมีตนเองเป็นประธาน ทั้งที่ส่วนหนึ่งของความเสียหายที่เกิดขึ้นมาจากนโยบายของรัฐบาลเอง.
ทีมข่าวเศรษฐกิจ