ระดมตร.-ทหาร-รปภ.อารักขาเข้ม ประชุมรมต.อาเซียนภูเก็ต

นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม

ถึงกรณีที่ประชาชนจังหวัดภูเก็ตบางส่วนไม่พอใจรัฐบาลที่ประกาศบังคับใช้พระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ความมั่นคงในราชอาณาจักร ช่วงประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียน (เอเอ็มเอ็ม) ครั้งที่ 42 การประชุมระหว่างรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนกับประเทศคู่เจรจา (พีเอ็มซี) และการประชุมว่าด้วยการเมืองและความมั่นคงในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก (เออาร์เอฟ) ครั้งที่ 16 ที่โรงแรมเชอราตันแกรนด์ลากูน่าภูเก็ต ต.เชิงทะเล อ.ถลาง จ.ภูเก็ต ระหว่างวันที่ 17-23 กรกฎาคม ว่า เป็นเรื่องธรรมดา เวลาทำงานกับคนจำนวนมากต้องมีปัญหาบ้าง ซึ่งตนสั่งการให้ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ตเข้าไปแก้ไขแล้ว คาดว่าจะแก้ไขได้ในไม่ช้า

"เราต้องทำความเข้าใจกับประชาชนและต้องปรับปรุงแผนให้มีความกระชับมากขึ้น โดยเฉพาะกำหนดเส้นทางจราจรที่ประชาชนสามารถหลีกเลี่ยงไปใช้เส้นทางอื่นได้ แต่ถ้ามีความจำเป็นที่จะต้องใช้เส้นทางจราจร ก็ต้องติดสติ๊กเกอร์เพื่อแสดงตัวต่อเจ้าหน้าที่ให้รู้ว่าเป็นใคร ซึ่งรัฐบาลคงต้องขออภัยชาวภูเก็ตที่ได้รับผลกระทบ แต่ผมจะพยายามกำชับให้หน่วยงานต่างๆ ปฏิบัติงานให้ดีขึ้น แต่เนื่องจากการประกาศใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคง มีเวลาทำความเข้าใจกับประชาชนน้อยและเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติก็ไม่เคยทำเรื่องนี้มาก่อน แต่เพื่อความปลอดภัยของผู้ร่วมประชุม และต้องการให้เกิดความเรียบร้อยที่สุด จึงสั่งการให้เจ้าหน้าที่บันทึกทุกอย่างที่เป็นปัญหาเอาไว้ทั้งหมด เพื่อใช้เป็นพื้นฐานในการจัดประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนในเดือนตุลาคม" นายสุเทพกล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่า กำหนดโซนรัศมี 5 กิโลเมตรถือว่ากว้างเกินไปหรือไม่ นายสุเทพกล่าวว่า ไม่อยากให้สื่อมวลชนต่างประเทศเห็นภาพความวุ่นวาย

เพราะเป็นห่วงเรื่องภาพพจน์ของประเทศไทย หากภาพที่ไม่ดีออกไปจะส่งผลต่อการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนในเดือนตุลาคม เมื่อถามว่า ได้รับรายงานว่าจะมีกลุ่มต่อต้านเข้ามาชุมนุมบ้างหรือไม่ นายสุเทพกล่าวว่า ยังติดตามอยู่ตลอดเวลา ก็พบว่ามีบ้าง แต่กำหนดมาตรการที่แข็งแรงขึ้นกว่าเดิม

เมื่อเวลา 10.00 น. วันเดียวกัน พล.อ.ทรงกิตติ จักกาบาตร์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด พร้อมคณะ ตรวจสอบความพร้อมการรักษาความปลอดภัยจัดการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียน ครั้งที่ 42

ที่โรงแรมเชอราตันแกรนด์ลากูน่าภูเก็ต และโรงแรมในเครือลากูน่าภูเก็ต มีนายวิชัย ไพรสงบ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต พร้อมหัวหน้าส่วนราชการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องบรรยายสรุปถึงมาตรการดูแลความปลอดภัย พร้อมสาธิตการอารักขาบุคคลสำคัญที่จะเดินทางมาประชุม ผู้สื่อข่าวรายงานถึงบรรยากาศการดูแลรักษาความปลอดภัยในท่าอากาศยานภูเก็ตว่า มีการตรวจตราอย่างเข้มงวด โดยเจ้าหน้าที่ถ่ายรูปรถที่ผ่าน-เข้าออกทุกคัน โดยมีทหารอากาศนำกำลังชุดคอมมานโดพร้อมอาวุธครบมือ พลแม่นปืนยาว และสุนัขสงครามร่วมปฏิบัติงานด้วย ขณะที่ถนนเทพกระษัตรี ถนนสายอนุสาวรีย์ท้าวเทพกระษัตรี ท้าวศรีสุนทร-หาดสุรินทร์-หาดบางเทา มีตำรวจภูธร และทหารตั้งจุดตรวจเป็นระยะๆ ทั้งนี้ในพื้นที่ จ.ภูเก็ตได้ตั้งจุดหรือด่านตรวจเฉพาะของทหารกว่า 10 ด่านและตำรวจกว่า 10 ด่าน

ด้านนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงข้อหารือในการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนว่า ขณะนี้ความสนใจหลักอยู่ที่เรื่องความมั่นคงในหลายพื้นที่มากกว่า

เพราะเวทีดังกล่าวเป็นเวทีสำคัญต่อสถานการณ์ในขณะนี้ อาทิ เรื่องสถานการณ์เกาหลีเหนือ สถานการณ์ในพม่า ซึ่งน่าจะแลกเปลี่ยนกัน เข้าใจว่ากับนายอิบราฮิม กัมบาลี ผู้แทนพิเศษของสหประชาชาติที่เข้าไปในพม่าจะได้มาแจ้งสถานการณ์ให้ทุกประเทศได้รับทราบ เรามีแนวทางของเราอยู่ในกรณีของพม่า ซึ่งชัดเจนว่าสนับสนุนให้ใช้แนวทางที่มีความสำคัญ ไม่ใช้แนวทางการคว่ำบาตรหรือแนวทางไปโดดเดี่ยว

ผู้สื่อข่าวถามว่า ทางการพม่ามองว่านายกษิต ภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ช่วยเหลือชนกลุ่มน้อยในพม่ามากเกินไป

นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ไม่มี เราจะดูแลช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมเท่านั้นเอง ส่วนกิจกรรมต่างๆ ที่จะเป็นการสร้างปัญหาให้รัฐบาลในภูมิภาค เราไม่ให้มาใช้พื้นที่ของเราอยู่แล้ว เมื่อถามว่า คิดว่ากรณีพรรคเพื่อไทยไปยื่นหนังสือต่อนางฮิลลารี คลินตัน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศสหรัฐอเมริกา ผ่านสถานทูตสหรัฐโจมตีรัฐบาล จะส่งผลกระทบต่อการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนหรือไม่ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า "ก็ยื่นมาตั้งหลายรอบแล้ว ยื่นมาตั้งแต่ตอนเข้ามาเป็นรัฐบาลแล้ว" เมื่อถามว่า ยืนยันว่าการตั้งข้อหาก่อการร้ายกับนายกษิตจะไม่ส่งผลต่อการประชุมดังกล่าวใช่หรือไม่ นายกฯกล่าวว่า "ยืนยันครับๆ"