เทือกเชียร์ธานี จับคนยิง หาหนอนบ่อนไส้

วันนี้(16 ก.ค.)นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง กล่าวถึงกรณีที่ พล.ต.อ.ธานี สมบูรณ์ทรัพย์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.)

ออกมาระบุมีตำรวจเป็นหนอนบ่อนไส้ในการดำเนินคดีลอบสังหารนายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย จนทำให้ผู้ต้องหาที่เป็นตำรวจไหวตัวทันหลบหนีไปได้ ว่า พล.ต.อ.ธานี เป็นรองผบ.ตร.บังคับบัญชาตำรวจได้ทุกระดับ รัฐบาลไว้วางใจมอบหมายให้มาดูแลคดี ก็สามารถดูแลอย่างเต็มที่ ฝ่ายบริหารพร้อมที่จะให้การสนับสนุน เชื่อท่านคงไม่มีความกังวลใจอะไร

ผู้สื่อข่าวถามว่า ในเมื่อ พล.ต.อ.ธานี รู้ว่ามีหนอนบ่อนไส้ ทำไมถึงไม่มีการปรับเปลี่ยนคนทำงาน รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า พล.ต.อ.ธานี คงคิดว่า ยังจะสามารถทำงานได้อยู่

และสามารถทำงานจนมาถึงขั้นที่รวบรวมหลักฐานต่างๆได้ จนขออนุมัติหมายจับจากศาล ก็ต้องถือว่าทำงานได้ดี ท่านยังคงทำงานได้อยู่ คงไม่เป็นไร เมื่อถามว่า เท่าที่ดูแล้วกระบวนการสอบสวนจะยากหรือไม่ เพราะหัวหน้าแก๊งเป็นถึงนายทหารเสนาธิการยศพันเอก และมีการมองว่าจะมีการตัดตอนไม่ให้สาวไปถึงผู้บงการที่พัวพันกับบุคคลสำคัญในวงการสีเขียว นายสุเทพ กล่าวว่า อย่าไปกังวลใจ จะเป็นสีเขียว สีเหลือง สีแดง สีอะไรก็ตาม ถ้าทำความผิดก็ต้องถูกดำเนินการตามกฎหมาย อย่าไปสร้างจินตนาการให้ใหญ่โตเกินเหตุ หากประจักษ์พยานหลักฐานไปถึงใครก็ต้องดำเนินคดีกับคนนั้น ไม่ถือเป็นคดีตัวอย่าง แค่ขอตำรวจทำตามหน้าที่

ส่วนจะทำให้เป็นคดีตัวอย่างในการอำนวยความยุติธรรมให้เกิดขึ้นจริงได้ในรัฐบาลนี้หรือไม่ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า อย่าเรียกว่าเป็นคดีตัวอย่าง

แต่เป็นเรื่องที่เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องทำหน้าที่ ตนย้ำตั้งแต่ตอนที่ได้รับมอบหมายจากนายกฯให้กำกับดูแลสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) อยากจะเห็นตำรวจทำหน้าที่ บ้านเมืองจะสงบเรียบร้อยได้ ตำรวจจะต้องทำหน้าที่รักษากฎหมาย

วันเดียวกัน ที่รัฐสภา นายคำนูณ สิทธิสมาน ส.ว.สรรหา คนใกล้ชิดนายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปตย

และนายวรินทร์ เทียมจรัส ส.ว.สรรหา ร่วมกันแถลงข่าว โดยนายคำนูณ กล่าวเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีในฐานะกำกับดูแล สตช.ลงมาสอบสวนข้อเท็จจริง กรณีที่พล.ต.อ.ธานี ออกมาให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชนถึงสองครั้งสองคราวว่าชุดทำงานถูกข่มขู่ มีไส้สึกและความลับรั่วไหล นายกฯควรเรียกผบ.ตร.และผบช.น.ในฐานะผู้ที่รับผิดชอบมาข้อเท็จจริงว่าเกิด เหตุการณ์เหมือนเช่นที่ รอง ผบ.ตร.พูดจริงหรือไม่ และจะแก้ไขอย่างไร

นายคำนูณ กล่าวอีกว่า ขอชื่นชมนายกฯที่เห็นกาลไกลและเห็นปัญหาจนสั่งการให้พล.ต.อ.ธานี ลงมาดูแลคดี นี้ตั้งแต่ต้น

แต่เมื่อยังมีการปล่อยข่าวออกมาอย่างต่อเนื่องว่าผู้สั่งการเป็นผู้ใหญ่ ที่ใหญ่มากจนทุกคนอาจคาดไม่ถึงแพร่กระจายไปทุกวงการ หากปล่อยให้สถานการณ์อึมครึมเช่นนี้เรื่อยไป ผนวกกับการออกมายอมรับว่าคดีนี้กำลังมีปัญหาของพล.ต.อ.ธานี ยิ่งจะทำให้ประเทศชาติเสียหาย อย่างไรก็ตามเชื่อว่าเมื่อคดีเริ่มนับหนึ่งและคืบคลานไปได้แล้วแม้พล.ต.อ.ธานี จะเกษียณอายุราชการก็คงจะไม่กระทบต่อรูปคดี แต่ก็อยากให้นายกฯคำนึงถึงกรอบเวลาที่เหลืออยู่ด้วย

ด้านนายวรินทร์ กล่าวเสริมว่า ขอเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีคำนึงถึงขวัญกำลังใจของคนทำงานให้มากที่สุด

เพราะผู้ที่ถูกหมายจับไม่ทราบว่าข้อมูลหลุดไปเพราะมีขบวนการดักฟังหรือไม่ ต้องให้ความสำคัญกับเรื่องดักฟังให้มาก จึงถึงเวลาแล้วที่นายกฯต้องพิสูจน์ว่าคดียิงนายสนธิจะต้องไม่มีสองมาตรฐาน เหลือเวลาอีกสองเดือนควรจะได้ตัวผู้กระทำผิดหลักๆให้ได้ เมื่อถามว่ากังวลหรือไม่ว่าผู้ถูกออกหมายจับสองคนแรกไม่ใช่แพะ.