แกะรอยล่าทีมยิงสนธิสาวถึงเสธ.ด.เอี่ยว

คมชัดลึก : เผย "จ.ส.อ.ปัญญา" ทหารรบพิเศษ คดียิง "สนธิ" ย้ายไป กอ.รมน. ตั้งแต่ปี 2547 ปัจจุบันถูกส่งไปช่วยราชการ กอ.รมน.ภ.4 ส่วนหน้า แต่หลบไปซุกบ้านนายทหารนอกราชการที่ จ.จันทบุรี โดยมีทหารยศ พ.อ. คอยช่วยเหลือ

(15ก.ค.) แหล่งข่าวนายทหารระดับสูงของหน่วยบัญชาการสงครามพิเศษ (นสศ.) กล่าวถึงกรณีที่ตำรวจออกหมายจับ จ.ส.อ.ปัญญา ศรีเหรา

ทหารสังกัดหน่วยบัญชาการสงคามพิเศษ (นสศ.) จ.ลพบุรี ในข้อหาลอบยิง นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ว่า จ.ส.อ.ปัญญา เป็นนายทหารในสังกัดกรมทหารกรมรบพิเศษที่ 3 ของ นสศ. จริง แต่ได้ถูกเรียกตัวไปช่วยราชการที่กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) ตั้งแต่ปี 2547 และถูกส่งไปช่วยราชการใน กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า ดังนั้น จึงไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับหน่วย นสศ. ซึ่งเป็นหน่วยต้นสังกัด


“เรื่องนี้ พล.ท.ภุชงค์ รัตนวรรณ ผู้บัญชาการหน่วยสงครามพิเศษ มีนโยบายชัดเจนว่า ทหารอาชีพของหน่วยรบพิเศษ ไม่มีอะไรที่จะเข้าไปเกี่ยวข้องเรื่องเหล่านี้ และหากเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องการอะไรก็ให้ความร่วมมือเต็มที่ อย่างไรก็ตาม หากตำรวจทำเรื่องขอตัว จ.ส.อ.ปัญญา คงต้องทำเรื่องไปที่ กอ.รมน. เพราะชื่อของ จ.ส.อ.ปัญญา อยู่ช่วยราชการของ กอ.รมน. ซึ่งก็รู้กันดีว่า กอ.รมน.เป็นอย่างไร  ทั้งนี้ ยืนยันว่าการลอบสังหารนายสนธิ ซึ่งกลุ่มพันธมิตรฯพุ่งเป้ามาที่ทหารนั้น เรื่องนี้ พล.ท.ภุชงค์ รวมถึง พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง เพราะคงไม่มีเหตุผลอะไรที่จะไปทำเช่นนั้น” นายทหารระดับสูงของ นสศ. กล่าว


นายทหารระดับสูง นสศ. ระบุด้วยว่า  จากการได้รับข้อมูลทราบว่า ตำรวจออกหมายจับ จ.ส.อ.ปัญญา เพราะอ้างว่าเห็น จ.ส.อ.ปัญญา ในกล้องวงจรปิด

ซึ่งคงต้องพิจารณาตามพยานหลักฐาน ขณะนี้เขาเป็นเพียงผู้ต้องสงสัย ยังไม่ใช่ผู้กระทำความผิดจริงตามข้อกล่าวหา นอกจากนี้ จ.ส.อ.ปัญญา ถูก กอ.รมน.ภาค 4 เรียกตัวช่วยราชการอยู่ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ดังนั้น คงต้องเป็นหน้าที่ของตำรวจที่ต้องดำเนินการพิสูจน์ข้อเท็จจริงต่อไป


มีรายงานข่าววงใน เปิดเผยว่า ขณะนี้ จ.ส.อ.ปัญญา ผู้ต้องสงสัยลอบยิงนายสนธิ ได้หลบตัวซ่อนอยู่ที่บ้านพักนายทหารระดับสูงของกองทัพบก ที่ได้เกษียณอายุราชการไปแล้ว

โดยมีนายทหารยศพันเอก ผู้ซึ่งเคยติดตามนายทหารระดับสูงคนดังกล่าวให้การช่วยเหลือ โดยไปหลบซ่อนตัวอยู่ที่ จ.จันทบุรี ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนสอบสวนกำลังประสานไปยังนายทหารระดับสูงคนดังกล่าว เพื่อขอตัว จ.ส.อ.ปัญญา มาดำเนินคดีตามกฎหมายแล้ว ทั้งนี้ การหลบซ่อนของของ จ.ส.อ.ปัญญา ทางนายทหารระดับสูง ซึ่งเป็นเจ้าของบ้านพักคนดังกล่าวไม่ได้รู้เห็นเป็นใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น มีเพียงนายทหารยศพันเอกคนดังกล่าวให้ความช่วยเหลือเท่านั้น


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจาก พล.ท.พิเชษฐ์ วิสัยจร แม่ทัพภาคที่ 4 ได้รับทราบว่า จ.ส.อ.ปัญญา ได้มาช่วยราชการที่กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร

จึงได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบรายละเอียดว่า จ.ส.อ.ปัญญา มาช่วยงานในตำแหน่งใดในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้ ขณะนี้เบื้องต้นยังไม่พบคงจะต้องใช้เวลาตรวจสอบอีก 1-2 วันจึงจะรู้แน่ชัดว่า จ.ส.อ.ปัญญา ทำงานอยู่ในพื้นที่หรือไม่


ผู้สื่อข่าวรายงานการสืบสวนเบื้องลึกที่นำไปสู่การออกหมายจับ 2 ผู้ต้องหาในครั้งนี้ว่า ภายหลังตำรวจระดมกำลังนักสืบมือพระกาฬจากนครบาล กองปราบปราม ลงพื้นที่คลี่คลายคดีลอบยิงนายสนธิ นานกว่า 3 เดือน

ในที่สุดทีมสืบสวนรวบรวมพยานหลักฐานยืนยันแน่นหนาด้วยการแกะรอยตรวจสอบข้อมูลการใช้โทรศัพท์มือถือบริเวณที่เกิดเหตุของกลุ่มคนร้าย ทั้งช่วงเวลาก่อนและหลังเกิดเหตุ พบว่า กลุ่มผู้ต้องหาใช้โทรศัพท์ติดต่อกันอย่างต่อเนื่อง
นอกจากนี้ พนักงานสอบสวนยังมีหลักฐานสำคัญบางอย่างเกี่ยวข้องโยงใยกับแขกปาทานอีกคน ซึ่งเป็นผู้กว้างขวางในสระบุรี ร่วมทีมสังหารด้วย หลักฐานทั้งหมดสอดคล้องและตรงกันระหว่างทีมสืบสวนของนครบาล กับกองปราบปราม นำไปสู่การออกหมายจับเมื่อวันที่ 14 กรกฎาคม ที่ผ่านมา ประกอบกับหลักฐานภาพเคลื่อนไหวที่บันทึกได้จากกล้องวงจรปิดในปั๊มน้ำมันบางจาก สาขาถนนปิ่นเกล้า-นครชัยศรี ฝั่งขาเข้า กทม. ที่พบรถยนต์กระบะโตโยต้า รุ่นวีโก้ สีเปลือกมังคุดของ น.ส.รัศมี   

ทั้งนี้ ทีมสืบสวนนครบาลและกองปราบปรามได้ลงพื้นที่แกะรอยตามเส้นทางต่างๆ ที่คาดว่าคนร้ายใช้ในการก่อเหตุและหลบหนี

ก่อนนำไปขยายผลจากจิ๊กซอว์ชิ้นสำคัญเป็นรถกระบะวีโก้ ปรากฏภาพจอดอยู่ในปั๊มบางจากช่วงเวลา 04.46 น. วันเกิดเหตุ และต่อมามีคนขับออกไป จากนั้นเวลาผ่านไปกว่า 1 ชั่วโมง ช่วงเวลา 05.44 น. ทีมสืบสวนพบภาพกล้องวงจรปิดจากปั๊มน้ำมันอีกแห่งหนึ่งบนถนนสายเดียวกัน แต่เป็นเส้นทางขาออกสอดคล้องกับการจำลองเหตุการณ์มากที่สุดว่า รถกระบะวีโก้มาจอดรอเวลาที่ปั๊มน้ำมัน ก่อนที่จะเดินทางไปยังจุดเกิดเหตุ โดยที่รถกระบะมาสด้าขับประกบรถของนายสนธิมาจากบ้านพัก จากนั้นจึงมาลงมือพร้อมกัน ก่อนที่จะวิ่งประกบตามกันมาเลี้ยวขวาแยกคอกวัว วิ่งขึ้นสะพานปิ่นเกล้าออกนอกเมืองไปพร้อมกัน

 นอกจากนั้น ทีมสืบสวนยังได้ตรวจสอบโทรศัพท์มือถือของผู้ต้องสงสัย พบว่า จ.ส.อ.ปัญญา ใช้โทรศัพท์มือถือในช่วงเวลาและบริเวณที่เกิดเหตุ ซึ่งเป็นหลักฐานในการขออนุมัติหมายจับจากศาล ส่วน ส.ต.ท.วรวุฒิ นั้นในทางสืบสวนทราบว่ามีความชำนาญในการดักฟังโทรศัพท์และชำนาญเรื่องกล้องวงจรปิด เป็นไปได้ว่าจะเป็นคนที่ดักฟังโทรศัพท์นายสนธิและเป็นคนทำให้กล้องวงจรปิดตามเส้นทางที่ก่อเหตุเสีย นอกจากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดบริเวณแยกคอกวัวแล้ว ทีมสืบสวนยังตรวจสอบพบว่า รถปิกอัพคันดังกล่าวไปจอดที่โรงแรมแห่งหนึ่งย่านจ.นนทบุรี ก่อนลงมือยิงนายสนธิ คาดว่าอาจเป็นการไปประชุมวางแผนกัน อีกทั้งแนวทางการสืบสวนยังพบว่า มีนายทหารชื่อเสธ."ด." ซึ่งสนิทสนมกับ น.ส.รัศมี ขอยืมรถกระบะวีโก้ของ น.ส.รัศมี ไปใช้ในช่วงเกิดเหตุ และ เสธ."ด." ก็มีบ้านพักอยู่ใน จ.นนทบุรี ด้วย


อย่างไรก็ตาม จากการตรวจค้นภายในรถยนต์หลังจากตรวจยึดมาได้เชื่อว่า น่าจะมีรอยนิ้วมือของคนร้ายปรากฏอยู่ไม่ต่ำกว่า 3-4 รายอย่างแน่นอน


ซึ่งขณะนี้ทีมสืบสวนและเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานกำลังเร่งดำเนินการตรวจสอบโดยนำเทคนิคและเทคโนโลยีทางวิทยาศาสตร์และเครื่องสแกนคอมพิวเตอร์ที่ทันสมัยเข้ามาร่วมด้วย ซึ่งขณะนี้ทีมสืบสวนอยู่ระหว่างดำเนินการรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อสาวถึงคนบงการ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นคนในเครื่องแบบมาดำเนินคดี


เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์คมชัดลึก

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์