สุเทพลั่นใช้กำลังเต็มที่คุมถกอาเซียน

นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง ให้สัมภาษณ์เมื่อวันที่ 15 กรฎาคม ถึงมาตรการในการรักษาความปลอดภัยการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียน (เอเอ็มเอ็ม) ครั้งที่ 42

การประชุมระหว่างรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนกับประเทศคู่เจรจา (พีเอ็มซี) และการประชุมว่าด้วยการเมืองและความมั่นคงในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก (เออาร์เอฟ) ครั้งที่ 16 ที่โรงแรมเชอราตันแกรนด์ลากูน่าภูเก็ต ต.เชิงทะเล อ.ถลาง จ.ภูเก็ต ระหว่างวันที่ 17-23 กรกฎาคมนี้ ว่า มอบหมายให้ผู้เกี่ยวข้องดำเนินการตามขั้นตอนทุกอย่างแล้ว จึงคิดว่าการประชุมครั้งนี้ไม่น่าจะมีปัญหา แต่ก็จำเป็นต้องใช้กำลังเต็มที่ เพราะไม่ต้องการให้ประเทศเสียชื่อเสียง เสียภาพพจน์ เหมือนคราวที่เกิดขึ้นที่เมืองพัทยา จ.ชลบุรี โดยขณะนี้ทราบว่ายังมีความเคลื่อนไหวของฝ่ายตรงข้ามอยู่ตลอดเวลา

ผู้สื่อข่าวถามว่า เหตุใดต้องใช้งบประมาณดูแลความปลอดภัยถึง 200 ล้านบาท นายสุเทพกล่าวว่า "ทำอย่างไรได้ ถ้าไม่มีคนก่อเหตุก็ไม่ต้องใช้เงินและกำลังขนาดนั้นเพื่อการป้องกันอย่างเต็มที่" เมื่อถามว่า ล่าสุด แกนนำกลุ่มเสื้อแดงออกมาประกาศจะไม่ไปเคลื่อนไหวที่ จ.ภูเก็ต แล้ว จะมีการปรับลดกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจและทหารลงหรือไม่ นายสุเทพกล่าวว่า "ตั้งแต่ที่เกิดเรื่องที่พัทยามา ผมไม่เชื่อถือกลุ่มเสื้อแดงอีกต่อไป"

ด้านนายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย พร้อมคณะทำงานฝ่ายต่างประเทศพรรคเพื่อไทย ได้เดินทางเข้ายื่นหนังสือถึงนางฮิลลารี คลินตัน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศของสหรัฐอเมริกา

ผ่านทางสถานเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย โดยมีนายนาวาโร มัวร์ ที่ปรึกษาฝ่ายการเมืองสถานเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย เป็นตัวแทนรับหนังสือ หลังจากที่ได้เข้ายื่นหนังสือถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศกลุ่มอาเซียน 27 ประเทศ

ทั้งนี้ เนื้อหาในหนังสือระบุว่า คนไทยหลายล้านคนถูกลิดรอนสิทธิการเลือกตั้งตั้งแต่รัฐประหาร 19 กันยายน 2549 และต่อมาจากการรัฐประหารโดยพฤตินัยในเดือนธันวาคม 2551

ดังนั้น อาเซียนต้องไม่ถูกทำให้เป็นตัวประกันสำหรับความผิดปกติของระบบการเมืองภายในที่กัดกร่อนประเทศไทยอยู่ในขณะนี้ พวกเราเสียใจที่อารมณ์โกรธของคนไทยจำนวนมากที่เกิดจากการได้รับการปฏิบัติอย่างไม่เท่าเทียมและเป็นธรรมอย่างต่อเนื่องได้ประทุขึ้นในเดือนเมษายน 2552 และทำให้การประชุมอาเซียนหยุดชะงักลง พรรคเพื่อไทยขอให้คำมั่นว่า เราจะเรียกร้องให้บุคคลดังกล่าวให้การยอมรับความจำเป็นที่ว่า งานของอาเซียนต้องเดินหน้าแม้ว่าเราจะคัดค้านรัฐบาลไทยชุดปัจจุบันก็ตาม

ขณะเดียวกัน พรรคเพื่อไทยขอร้องว่า เมื่อท่านเดินทางมาประเทศไทยเพื่อสนับสนุนอาเซียน ขอให้ท่านโปรดตระหนักในข้อเท็จจริงที่ว่า รัฐบาลไทยชุดปัจจุบันไม่ได้รับอาณัติจากประชาชน

และถูกมองว่าเป็นตัวแทนที่ไม่มีความชอบธรรมของฝ่ายทหารและอำมาตย์ในสายตาคนไทยหลายสิบล้านคน และขอให้ท่านตระหนักถึงข้อเท็จจริงที่ว่า พรรคเพื่อไทยถูกทำให้พ้นจากตำแหน่งโดยการรัฐประหารยึดอำนาจจากทหารอย่างไร้ยางอายในปี 2549 และพวกเรา รวมทั้งผู้สนับสนุนของพวกเราต้องตกอยู่ภายใต้การคุกคามของทหารอย่างไม่ลดละ และกระบวนการยุติธรรมที่ถูกแทรกแซง เช่น การรัฐประหารโดยพฤตินัยในเดือนธันวาคม 2551 ซึ่งทำให้รัฐบาลที่ไม่มีความชอบธรรมขึ้นสู่อำนาจ พรรคเพื่อไทยขอเรียกร้องให้ประชาคมระหว่างประเทศใช้มาตรฐานที่ใช้ในกรณีประเทศฮอนดูรัสอย่างเสมอเหมือนกัน และให้ปฏิเสธการแทรกแซงของทหาร รวมถึงการปฏิเสธการล้มล้างเจตจำนงของประชาชนโดยชนชั้นนำ ไม่ว่าการกระทำที่ไม่เป็นประชาธิปไตยจะเกิดขึ้นที่ใดก็ตาม พรรคเพื่อไทยจะต่อสู้เพื่อสิทธิของพวกเราเพื่อให้ได้ประชาธิปไตยกลับคืนมา เรามั่นใจว่าเราจะชนะการเลือกตั้งที่เสรีเป็นธรรมในอนาคตและจากความชอบธรรม อำนาจที่ถูกต้องตามครรลองที่มาจากอาณัติและเจตจำนงประชาชนอย่างแท้จริง พวกเราจะตั้งตาคอยที่จะร่วมงานกับรัฐบาลของท่านในอนาคต

นายพร้อมพงศ์กล่าวว่า เป้าหมายการดำเนินการครั้งนี้ไม่ได้หวังให้สหรัฐและกลุ่มประเทศสมาชิกอาเซียนคว่ำบาตรรัฐบาลไทย

แต่มีเป้าหมายเพื่อประจานและชี้แจงถึงที่มาของรัฐบาลชุดปัจจุบันที่ไม่มีความชอบธรรมเท่านั้น รวมถึงนายกษิต ภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ที่ถูกตั้งข้อกล่าวหาร้ายแรงเป็นผู้ก่อการร้าย โดยเหตุผลที่ต้องยื่นหนังสือผ่านสถานทูตแทนการไปยื่นโดยตรงต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศอาเซียน ที่ จ.ภูเก็ต เพราะไม่ต้องการถูกกล่าวหาว่าก่อกวนการประชุมอาเซียน อย่างไรก็ตาม ระหว่างนี้ฝ่ายต่างประเทศพรรคเพื่อไทย กำลังร่างจดหมายอีกฉบับเพื่อขอเข้าพบนางฮิลลารี คลินตัน โดยตรง

ขณะที่สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า นายเอียน เคลลี โฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐ แถลงว่า นางฮิลลารี คลินตัน จะเดินทางเยือนอินเดีย และไทยในช่วงปลายสัปดาห์นี้

โดยจะเดินทางถึงอินเดียในวันที่ 17 กรกฎาคม และถึงไทยวันที่ 22-23 กรกฎาคมนี้ โดยระหว่างการเยือนไทย นางฮิลลารีจะพบปะกับนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี และนายกษิต ภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เพื่อย้ำถึงความสำคัญในการเป็นพันธมิตรระหว่างกันและความสัมพันธ์ระดับทวิภาคีของทั้งสองประเทศ นอกจากนี้ นางฮิลลารีจะเป็นตัวแทนของสหรัฐในการเข้าประชุมรัฐมนตรีอาเซียนที่ จ.ภูเก็ต ก่อนจะเดินทางกลับสหรัฐในวันที่ 23 กรกฎาคมนี้