อียิปต์ 14 ก.ค.- “กษิต ภิรมย์” ถึงอียิปต์เพื่อเข้าร่วมประชุมกลุ่มประเทศ NAM แล้ว เตรียมแจงวิธีแก้ปัญหาเศรษฐกิจของไทย รวมทั้งบทบาทของอาเซียน ขณะเดียวกันเลขาธิการอาเซียนกำลังรวบรวมบทบาทอาเซียนในการสร้างสันติภาพและการพัฒนา เตรียมออกเป็นแถลงการณ์ในการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนที่ไทยเป็นเจ้าภาพ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (14 ก.ค.) นายกษิต ภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ออกเดินทางจากท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เวลา 00.45 น.
และได้เดินทางถึงท่าอากาศยานกรุงไคโร ประเทศอียิปต์ เมื่อเวลา 06.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น ซึ่งตรงกับเวลา 10.00 น. ตามเวลาในประเทศไทย เพื่อร่วมประชุมกลุ่มประเทศไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด ครั้งที่ 15 (15th Summit of Heads of State and Government of the Non-Aligned Movement : NAM) ณ เมืองชาร์ม เอล เชค ประเทศอียิปต์ ระหว่างวันที่ 15-16 กรกฎาคม 2552
นายกษิต เปิดเผยว่า วันนี้มีกำหนดการเป็นเจ้าภาพเลี้ยงน้ำชารัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนที่จะเดินทางมาร่วมประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียน ที่ จ.ภูเก็ต ระหว่างวันที่ 17-23 กรกฎาคมนี้
โดยจะหารือกันถึงบทบาทของอาเซียนในการทำงานร่วมกัน รวมทั้งด้านสิทธิมนุษยชน ทั้งนี้ ในการประชุม NAM ครั้งนี้ ประเทศไทยในฐานะประธานอาเซียนจะต้องกล่าวสุนทรพจน์ในวันที่ 16 กรกฎาคมนี้ ซึ่งจะบอกถึงความเป็นไปในอาเซียนและวิธีการแก้ปัญหาเศรษฐกิจของไทย สืบเนื่องมาจากวิกฤติเศรษฐกิจโลก และจะสะท้อนถึงบทบาทของไทยในการจรรโลงสันติภาพ โดยปลายปี 2552 ไทยจะส่งกำลังทหารไปรักษาสันติภาพที่เมืองดาร์ฟัวร์ ประเทศซูดาน จำนวน 800 คน เพื่อช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม
“จะมีการรวบรวมบทบาทการทำงานของอาเซียนที่ผ่านมา โดยให้แต่ละประเทศประมวลส่งให้กับนายสุรินทร์ พิศสุวรรณ เลขาธิการอาเซียน ว่ามีบทบาทอย่างไรในการช่วยเหลือด้านสิทธิมนุษยชน เพื่อแสดงให้ชาวโลกเห็นถึงการสร้างสันติภาพและการพัฒนา ซึ่งขณะนี้กำลังขับเคลื่อนไปในกรอบของกองทัพกับภาคประชาสังคม เมื่อรวบรวมแล้วจะได้มีถ้อยแถลงออกมาในนามของอาเซียน หากเสร็จทันอาจประกาศเป็นแถลงการณ์ออกมาในช่วงประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนที่ไทยเป็นเจ้าภาพ หากไม่ทันอาจประกาศในช่วงการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนกับประเทศคู่เจรจา เพื่อให้เห็นถึงความร่วมมือในการทำงานด้านต่าง ๆ ของอาเซียน” นายกษิต กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศมีกำหนดการหารือทวิภาคีกับรัฐมนตรีวัฒนธรรมอียิปต์และรัฐมนตรีต่างประเทศอียิปต์ รัฐมนตรีต่างประเทศอินเดีย และรัฐมนตรีต่างประเทศเซอร์เบีย. -สำนักข่าวไทย