นายกฯ ยืนยันขั้นตอนออกหมายเรียก กษิต ยังทำหน้าที่ต่อไปได้

กรุงเทพฯ 13 ก.ค.- “อภิสิทธิ์” หารือ "กษิต" แล้ว  ย้ำในขั้นตอนการออกหมายเรียก รมว.ต่างประเทศ ยังทำงานต่อไปได้

แต่หากอัยการสั่งฟ้องค่อยพิจารณาอีกครั้ง เผย "กษิต” ไม่ติดใจข่าวรัฐบาลกลั่นแกล้ง ปรามเสื้อแดงอย่าใช้กรณีนี้เป็นข้ออ้างบุกภูเก็ต เตือนให้ทำอยู่ในขอบเขตที่เหมาะสม  ระบุการจัดประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนครั้งนี้จะล้มเหลวอีกไม่ได้

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ได้พูดคุยกับนายกษิต ภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศแล้ว

โดยได้แสดงจุดยืนอย่างชัดเจนไปแล้วว่า การออกหมายเรียกนายกษิต คิดว่านายกษิต ยังสามารถปฏิบัติหน้าที่ต่อไปได้ เพราะเป็นเพียงหมายเรียกเท่านั้น และนายกษิตก็ไม่ได้ติดใจข่าวที่ระบุว่า รัฐบาลไปกลั่นแกล้งหรือแทรกแซงการทำงานของพนักงานสอบสวน โดยนายกษิตเข้าใจทุกอย่าง จึงขอให้นายกษิต ทำงานต่อไป

“จริง ๆ แล้วผมคิดว่านายกษิตไม่จำเป็นต้องไปชี้แจงอะไรกับทหาร เพราะผมไม่ได้มองว่า มีปัญหาอะไร อยู่ ๆ มีรายงานข่าว อาจมีคนแสดงความคิดเห็นออกไป และนายกษิตก็ไม่ได้ติดใจ ท่านคงใช้เวลากับการทำงาน โดยเฉพาะการเตรียมการจัดประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียน ซึ่งประเทศไทยจะได้ประโยชน์ และประเทศไทยก็จะเป็นเจ้าภาพที่จะเป็นเวทีช่วยแก้ไขปัญหาระดับชาติ รวมถึงระดับโลก” นายกรัฐมนตรี กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่า ช่วงเวลาที่จะต้องเปลี่ยนตัวรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ คือ อัยการต้องส่งฟ้องเท่านั้นใช่หรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ถ้าอัยการส่งฟ้อง ก็เป็นเหตุผลหนึ่ง

แต่จะปรับเปลี่ยนก่อนหรือหลังการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียน ต้องมาดูข้อเท็จจริง ขณะนี้ไม่อยากให้พูดล่วงหน้า  เป็นเรื่องเร็วเกินไป ซึ่งในส่วนของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศก็ได้ไปคุยกับเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้วว่า จะส่งคำให้การ หรือคำปฏิเสธอย่างไร ระหว่างนี้นายกษิต ก็ปฏิบัติหน้าที่ต่อไป

ต่อกรณีหากนายกษิตไม่ลาออก อาจจะถูกกลุ่มคนเสื้อแดงใช้เป็นข้ออ้างเพื่อปลุกระดมและบุกไปจังหวัดภูเก็ต สถานที่จัดประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนนั้น 

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า อยากย้ำว่าการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนที่ จ.ภูเก็ต เป็นการประชุมที่จะส่งผลดีต่อประเทศ แต่หากมีปัญหาเราจะเจอสภาพเหมือนกับที่พัทยา ดังนั้นเรื่องอะไรที่มีความคิดเห็นแตกต่าง สามารถแสดงออกได้ แต่ต้องอยู่ในขอบเขตที่เหมาะสม

เมื่อถามว่ารัฐบาลใช้ พ.ร.บ.การรักษาความมั่นคงในราชอาณาจักรแล้ว จะมั่นใจได้หรือไม่ว่า เจ้าหน้าที่จะไม่ใส่ “เกียร์ว่าง” หรือถอยหลังเหมือนที่พัทยา นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า คิดว่าทุกคนคงจะทราบดีแล้วว่า ความเสียหายที่พัทยามีมากน้อยแค่ไหน

และเรามีบทเรียนมาแล้ว ดังนั้นการประชุมกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในน (กอ.รมน.) ที่ผ่านมา ผู้รับผิดชอบด้านต่าง ๆ ก็รับปากหนักแน่นว่าจะดูแลสถานการณ์ได้ ซึ่งการจัดประชุมครั้งนี้เราไม่มีสิทธิที่จะทำให้เกิดความล้มเหลวอีก เพราะเป็นการประชุมที่มีความสำคัญ และเวลานี้เราเดินหน้ามาเต็มที่แล้ว. -สำนักข่าวไทย