มาร์ค"ปัดทหารบีบรบ.ขับ"กษิต"ยันให้ความร่วมมือดี ลั่นยังยึดกฎเหล็ก รอเจ้าตัวกลับจากนิวซีแลนด์ค่อยคุย
นายกฯ ย้ำไม่จำเป็นต้องปลด"กษิต" ยันยังรักษากฎเหล็ก 9 ข้อ ไม่เว้นใครกรณีพิเศษ ปัดทหารบีบ รอเจ้าตัวกลับจากนิวซีแลนด์ค่อยคุย รมว.บัวแก้วฉุนทหารเสนอ"นายกฯ"ให้ถอดออกจากตำแหน่งรมว.ตปท. ลั่นถ้าเป็นลูกผู้ชายขอให้แสดงตัว ถามใครปองร้าย "มาร์ค-สนธิ" ประกาศถูกรุมกินโต๊ะไม่เกรงใจใครอีกแล้ว
มาร์คปัดทหารบีบรบ.ขับกษิตยันให้ความร่วมมือดี ลั่นยังยึดกฎเหล็ก รอเจ้าตัวกลับจากนิวซีแลนด์ค่อยคุย
"มาร์ค"เตรียมคุย"กษิต"หลังกลับจากนิวซีแลนด์ปัดทหารบีบ
ที่ห้างสรรพสินค้าสยามพารากอน เมื่อเวลา 11.20 น. วันที่ 12 ก.ค. นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ ถึงกรณีที่นายกษิต ภิรมย์ รมว.ต่างประเทศไม่พอใจกระแสข่าวมีทหารจำนวนหนึ่งพยายามบีบให้ลาออกจากตำแหน่งว่า เข้าใจว่าเป็นรายงานข่าวก่อนหน้านี้ว่า มีทหารแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับนายกษิต ซึ่งเมื่อนายกษิตเดินทางกลับจากภารกิจที่ประเทศนิวซีแลนด์ ก็จะได้พูดคุยกัน
เมื่อถามถึงกรณีที่นายกษิต ระบุว่า มีคนจำนวนไม่มากที่ต้องการให้ออกจากตำแหน่ง แต่มีคนอีกนับแสนอยากให้อยู่ในตำแหน่ง นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า อยากให้ระมัดระวัง เพราะจริงๆแล้ว ตนก็ได้อธิบายการตัดสินใจของตน และนายกษิต ก็อธิบายการตัดสินใจของตัวเองได้ จึงไม่มีอะไรต้องวิตกกังวล และในช่วงนี้ก็มีงานสำคัญรออยู่ก็ขอให้นายกษิต มุ่งทำตรงนั้นไป
เมื่อถามว่า มีทหารเข้ามากดดันรัฐบาลเพื่อให้ตั้งข้อกล่าวหานายกษิต เพื่อให้ออกจากตำแหน่งหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ไม่มี และเจ้าหน้าที่ที่ทำคดีนี้อยู่ก็ต้องชี้แจง หากมีใครมาแทรกแซงคงไม่ได้ หากมีหลักฐานว่า มีใครแทรกแซงก็ขอให้แจ้งมาเพื่อจะได้แก้ไขให้ถูกต้อง ซึ่งขณะนี้ทหารก็ยังให้ความร่วมมือปฏิบัติตามนโยบายรัฐบาลดี
เมื่อถามว่า รัฐบาลยังอยู่ภายใต้การครอบงำของทหารหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ มีท่าทีไม่พอใจ พร้อมถามกลับมายังผู้สื่อข่าวว่า “เรื่องไหนละครับๆ” จากนั้นกล่าวต่อว่า ตนอ่านในหนังสือพิมพ์แบบเร็วๆ ว่านายกษิต ถูกสอบถามเรื่องรายงานข่าวว่าทหารแสดงความคิดเห็น นายกษิตก็ถามว่าเป็นใครเท่านั้นเอง ซึ่งหลังจากนายกษิตเดินทางกลับมาประเทศไทยก็คงได้พูดคุยกันและก่อนการประชุมอาเซียนก็คงได้พูดกันยาวหน่อย
"มาร์ค"ลั่นยังยึดกฎเหล็ก แต่"กษิต"ไม่จำเป็นต้องพ้นรมต.
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีกล่าวผ่านรายการ "เชื่อมั่นประเทศไทยกับนายกฯ อภิสิทธิ์" เมื่อวันที่ 12 ก.ค. ถึงกรณีนายกษิต ภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่งประเทศ ถูกพนักงานสอบสวนออกหมายเรียนในคดี ร่วมปิดยึดสนามบินสุวรรณภูมิ ร่วมกับกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ซึ่งมีหลายฝ่ายออกมาวิพากษ์วิจารณ์ถึงการปฏิบัติหน้าที่ของนายกษิต เป็นจำนวนมากว่า ตนต้องขอขอบคุณการสำรวจความคิดเห็นของประชาชนที่ระบุให้นายกษิต อยู่ปฏิบัติหน้าที่จนเสร็จสิ้นภารกิจการประชุมรัฐมนตรีอาเซียนที่ จ.ภูเก็ตให้เสร็จสิ้นก่อน
นายกฯ กล่าวต่อว่า ตนมองว่า ที่ผ่านมา นายกษิตปฏิบัติงานและประสานงานต่างๆ ในเรื่องของการต่างประเทศที่ดีมาโดยตลอดและตนก็ต้องการให้ทำไปจนสิ้นสุด ส่วนที่มีหลายฝ่ายพูดถึงกฎเหล็ก 9 ข้อ ที่ตนตั้งไว้ตั้งแต่มาเป็นรัฐบาลแรกๆ นั้นหากรัฐมนตรีในคณะคนใดทำผิดกฎหมาย จะไม่รอให้คดีความต่างๆ ถึงที่สิ้นสุด นั้น ตนยืนยันยังรักษามาตรฐานยึดถือกฎเหล็ก 9 ข้อ อยู่เหมือนเดิม เพียงแต่ว่าในกรณีของนายกษิตนั้น อยู่ในแค่ชั้นออกหมายเรียก ซึ่งนายกษิตก็ได้ไปรายงานตัวแล้ว และตนมองว่า การออกหมายเรียกนั้นเกินเลยถึงมาตรฐาน ที่ปฏิบัติโดยทั่วไป ซึ่งไม่จำเป็นต้องปรับให้พ้นจากตำแหน่งรัฐมนตรี เนื่องจากการตรวจสอบเบื้องต้น ไม่มีปัญหาความน่าเชื่อถือ อีกทั้งงานด้านต่างประเทศ ก็มีความคืบหน้าไปมากมายด้วย
อย่างไรก็ตาม นายอภิสิทธิ์ ยืนยันว่า กรณีของนายกษิตนั้น ไม่มีการยกเว้นกรณีพิเศษใดๆ ทั้งสิ้น เช่นเดียวกับคดีความอื่นๆ รัฐบาลและฝ่ายการเมืองยืนยันจะไม่เข้าไปแทรกแซงใดๆ ทั้งสิ้น รวมทั้งคดีที่เกี่ยวข้องกับการชุมนุมทางการเมือง หากมีการร้องขอให้เปลี่ยนพนักงานสอบสวน ตนก็ยินดีจะให้ปฏิบัติตามนั้น แต่ถ้าหากมีการมาบอกว่า ให้คดีความของคนนี้ ผิด และให้คดีความของอีกคนไม่มีความผิด ทำไมได้ เพราะเท่ากับเป็นการทำร้ายการเมือง ไม่ว่า ใครที่คิดว่า รัฐบาลจะช่วยเหลือนั้น ยืนยันว่า ไม่มีการช่วย และข่าวทางลบที่ออกมาก็ไม่เป็นความจริง
"กษิต"ท้าทหารบีบให้ออกเปิดตัว
ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 11 ก.ค. ที่ผ่านมา นายกษิต ภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์ที่โอ๊คแอนด์ ประเทศนิวซีแลนด์ ถึงกรณีมีกลุ่มนายทหารเสนอนายกฯควรให้ออกจากตำแหน่งว่า ไม่รู้ว่านายทหารเหล่านั้นเป็นใคร และไม่รู้หนังสือพิมพ์ไปเอาข่าวมาจากไหน ตนไม่มีอำนาจอะไรไปกลั่นแกล้งหรือโยกย้ายทหาร ดังนั้นไม่ต้องกลัวการเปิดเผยตัว
"ถ้ากล้าพูด แล้วเป็นลูกผู้ชายก็ต้องกล้าแสดงตัวด้วย จะกลัวอะไร และบอกด้วยว่ามีอะไรที่ไม่ชอบมาพากลเกี่ยวกับตัวผม ทำไมมาเก่งกับผม เพราะผมไม่มีอำนาจเงินใช่ไหม ถ้าจะเปิดศึกรบก็ต้องรบกันรอบด้าน ต้องถามด้วยว่าตอนที่ทักษิณปู้ยี่ปู้ยำบ้านเมือง คนพวกนี้หายไปไหน ต้องเอาความจริงมาพูดกัน นายทหารเหล่านั้นหายไปไหน ทำไมไม่ออกมาป้องกันประเทศชาติ ถ้าผมเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ทหารเหล่านั้นก็วิพากษ์วิจารณ์ผมได้ ผมรับฟัง เพราะผมไม่ใช้อำนาจเถื่อน ถ้ารักชาติก็ต้องรักตลอดเวลา และช่วยถามทีว่าใครปองร้ายคุณสนธิ (นายสนธิ ลิ้มทองกุล) ใครปองร้ายท่านอภิสิทธิ์ ซึ่งท่านสุเทพคงต้องตอบ"นายกษิตกล่าวพร้อมท้าให้ทหารที่พูดแบบนั้นออกมาพูดกันอย่างเปิดเผยผ่านการดีเบตทางสื่อโทรทัศน์
ลั่นไม่เกรงใจใครหลังโดนกินโต๊ะ
ผู้สื่อข่าวถามว่า ฝ่ายรัฐบาลมีท่าทีที่จะให้ออกจากตำแหน่งหรือไม่ นายกษิตกล่าวว่า ไม่มี ใครอยากผลักดันก็ผลักดันมา แต่ต้องมีเนื้อหาข้อเท็จจริง ไม่ใช่พูดลอยๆ แล้วทำไมไม่ตั้งคำถามว่าการตั้งข้อหาก่อการร้ายกับตนเกิดขึ้นได้อย่างไร ตอนนี้เหมือนเอาหลายๆ เรื่องมารวมกันเหมารุมกินโต๊ะ แล้วทำไมนักการเมืองเลวๆ ตั้งเยอะตั้งแยะเดินลอยหน้าลอยตาอยู่ในสภาและนอกสภา ทำไมไม่ออกไปวิพากษ์วิจารณ์และขับไล่คนพวกนั้น ทำไมกราบไหว้คนเลวๆ
"ไม่ต้องเกรงอกเกรงใจใครอีกแล้ว ผมสงบเสงี่ยมมานานเพราะเห็นว่าอยู่ในพรรคประชาธิปัตย์ อยู่ในรัฐบาล ผมไม่อยากจะไปพูดอะไรให้เกินหน้าเกินตา แต่ถ้าจะรุมกินโต๊ะผมคนเดียวผมก็จำเป็นต้องลุกขึ้นสู้ ผมไม่ต้องเกรงใจใครอีกแล้ว"
นายกษิตกล่าว และว่า ไม่สนใจแรงกดดันที่ลอยๆ มาในอากาศ มาจากไม่กี่กลุ่มมาผสมโรง ถ้าไม่มาจากระบอบทักษิณแล้วจะมาจากใคร แค้นนี้ต้องชำระ ก็มีแค่นั้นเอง แต่คนที่อยู่ในตำแหน่งหน้าที่ที่ควรจะพูดอะไรในสิ่งที่ถูกต้อง ทำไมไม่ออกมา"
ผบ.ตร.ติงพธม.อย่าโยงนายกฯ
พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผบ.ตร. กล่าวถึงกรณีกลุ่มพันธมิตรขู่ฟ้องกลับนายกฯในฐานะประธาน ก.ตร. ว่าเป็นสิทธิที่ทำได้ ไม่รู้สึกกังวล แต่ความจริงนายกฯไม่ได้มาเกี่ยวข้องด้วย เรื่องออกหมายเรียกใครขึ้นอยู่กับดุลพินิจของพนักงานสอบสวน ให้นายกฯดูแลประเทศก็ดีอยู่แล้ว มั่นใจว่าคดีดังกล่าวจะไม่กลายเป็นเงื่อนไขให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมืองรอบใหม่