เว็บไซต์ "ดิ ออสเตรเลียน" หนังสือพิมพ์ออนไลน์ของออสเตรเลีย
รายงานว่า พ.ต.ท.ทักษิณได้แอบเดินทางเข้าฟิจิ ประเทศหมู่เกาะในมหาสมุทรแปซิฟิก โดยเครื่องบินส่วนตัว และใช้ชื่อปลอมในการเข้าประเทศ โดยถือหนังสือเดินทางสัญชาติมอนเตเนโกร เพื่อเจรจาลับกับรัฐบาลทหารภายใต้การนำของพลเรือจัตวา แฟรงก์ ไบนีมารามา รักษาการนายกฯและผู้บัญชาการทหารของฟิจิ ที่ก้าวขึ้นสู่อำนาจด้วยการก่อรัฐประหารล้มรัฐบาลพลเรือนเมื่อปี 2549
ดิ ออสเตรเลียนระบุว่า การเจรจาอย่างลับๆ มีขึ้นที่ทำเนียบของพลเรือจัตวาไบนีมารามา ในกรุงซูวา เมืองหลวงของฟิจิ เมื่อวันที่ 6 กรกฎาคมที่ผ่านมา
โดยแหล่งข่าวในฟิจิกล่าวว่า พ.ต.ท.ทักษิณกำลังพิจารณาที่จะลงทุนในฟิจิมีมูลค่า 300 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และมีความเป็นไปได้ที่ พ.ต.ท.ทักษิณอาจได้รับการตอบแทนเป็นหลักประกันความปลอดภัย จากกระบวนการส่งผู้ร้ายข้ามแดนจากไทย หาก พ.ต.ท.ทักษิณเลือกที่จะใช้ฟิจิเป็นหนึ่งในแหล่งกบดาน
ดิ ออสเตรเลียรายงานว่า เชื่อว่า พ.ต.ท.ทักษิณซึ่งได้เข้าพักที่โรงแรมฮอลิเดย์ อินน์ ในกรุงซูวา จะเดินทางต่อไปยังประเทศตองกาและกรุงพอร์ทวิลา ประเทศวานูอาตู
ที่จะมีการจัดประชุมประจำปีผู้นำกลุ่มประเทศเมลานีเซียน (เอ็มเอสจี) ในวันที่ 10 กรกฎาคม โดยการประชุมครั้งนี้มีความสำคัญมากสำหรับพลเรือจัตวาไบนีมารามา เพราะผู้นำฟิจิไม่สามารถเข้าร่วมประชุมสุดยอดผู้นำประเทศหมู่เกาะแปซิฟิกที่จะมีขึ้นที่เมืองแคร์นส์ ประเทศออสเตรเลีย ในเดือนสิงหาคมนี้ได้ เนื่องจากฟิจิถูกระงับสมาชิกภาพ หลังประกาศว่าจะไม่จัดการเลือกตั้งจนกว่าจะถึงเดือนกันยายนปี 2557 ซึ่งจะทำให้รัฐบาลทหารฟิจิชุดนี้ประกันความปลอดภัยให้ พ.ต.ท.ทักษิณได้ถึง 5 ปี เนื่องจากรัฐบาลทหารชุดนี้ยังควบคุมระบบศาลของฟิจิได้
ด้านสำนักข่าวแพคนิวส์รายงานว่า พ.ต.ท.ทักษิณกำลังตระเวนหาที่ลี้ภัยที่ปลอดภัยและไม่มีสนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดนในประเทศแถบแปซิฟิกใต้ โดยสื่อมวลชนของฟิจิรายงานว่า พ.ต.ท.ทักษิณเสนอที่จะนำเงินมาลงทุนที่นี่มูลค่า 280 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อแลกกับการได้ที่หลบภัยในฟิจิ
สื่อนอกเผยทักษิณร่อนเร่หาที่ลี้ภัยแถบแปซิฟิกใต้
สถานีวิทยุนิวซีแลนด์ อินเตอร์เนชั่นแนล รายงานว่า สำนักนายกรัฐมนตรีประเทศตองกา แถลงยืนยันว่า พ.ต.ท.ทักษิณพำนักอยู่ที่ตองกาในสัปดาห์นี้
โดยโฆษกรัฐบาลตองกาแถลงในกรุงนูกูอาโลฟา เมืองหลวงของตองกา ว่า พ.ต.ท.ทักษิณมาเยือนส่วนตัวและไม่ได้พบปะเจรจากับเจ้าหน้าที่ทางการตองกาคนใดทั้งสิ้น ด้านสำนักข่าวเอเอฟพีรายงานอ้างคำยืนยันของเจ้าหน้าที่ตองกาว่า พ.ต.ท.ทักษิณเดินทางถึงตองกาเมื่อวันที่ 7 กรกฎาคมที่ผ่านมา และพบปะพูดคุยกับคนคนหนึ่งที่กระทรวงต่างประเทศที่คอยดูแล พ.ต.ท.ทักษิณอยู่ อย่างไรก็ดี เจ้าหน้าที่ตองกาคนดังกล่าวไม่เปิดเผยรายละเอียดถึงวัตถุประสงค์การมาตองกาของ พ.ต.ท.ทักษิณครั้งนี้ และเชื่อว่าเมื่อวันที่ 8 กรกฎาคม พ.ต.ท.ทักษิณน่าจะเดินทางไปฟิจิ
เอเอฟพียังรายงานอ้างคำให้สัมภาษณ์ของนายเนอูมี เลเวนี โฆษกรัฐบาลฟิจิ ที่กล่าวกับสถานีวิทยุของฟิจิ ถึงการหารือกันของ พ.ต.ท.ทักษิณกับนายพลไบนีมารามาว่า "ได้มีการนั่งพูดคุยกันถึงข้อเสนอทางธุรกิจบางอย่างในระหว่างการรับประทานอาหารมื้อค่ำ ซึ่งก็มีแค่นั้น" โดยนายเลเวนีไม่ยอมเปิดเผยรายละเอียดอื่นใดมากไปกว่านี้
ที่เมืองโอ๊คแลนด์ ประเทศนิวซีแลนด์ นายกษิต ภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ไปบรรยายที่มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีโอ๊คแลนด์ในหัวข้อ
"สถานการณ์ปัจจุบันในประเทศไทยและแนวโน้มในอนาคต"มีผู้ร่วมฟังคนหนึ่ง ถามว่า เป็นความบังเอิญหรือไม่ที่นายกษิตมานิวซีแลนด์ ขณะที่ พ.ต.ท.ทักษิณก็อยู่ในประเทศใกล้เคียงแถบนี้ นายกษิตตอบว่า พ.ต.ท.ทักษิณเดินทางไปทั่วโลก โดยเฉพาะประเทศที่แปลกๆ บางประเทศมีการเลือกตั้งแต่ก็ไม่เป็นประชาธิปไตย หรือบางประเทศอาจยอมรับเงิน 3 ร้อยล้านเหรียญแลกกับการให้พาสปอร์ตและให้ พ.ต.ท.ทักษิณเข้าประเทศ แต่ประเทศที่ทำแบบนั้นก็ไม่ใช่ประเทศที่เจริญแล้วอย่างนิวซีแลนด์แน่นอน
นายกษิตยังกล่าวโจมตี พ.ต.ท.ทักษิณว่า ไม่มีมาตรฐานทางจริยธรรม
ไม่ได้พูดความจริงกับประชาชน เช่น เรื่องอดีตภรรยาของเขาก็เป็นชนชั้นนำในกรุงเทพฯ มาจากตระกูล ณ ป้อมเพ็ชร รวมทั้งตัว พ.ต.ท.ทักษิณเอง ก็เป็นชนชั้นนำใน จ.เชียงใหม่ แล้วยังจะมาบอกว่าตัวเองเป็นคนของประชาชน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะที่นายกษิตกำลังบรรยายถึงความหลังระหว่างตนเองกับ พ.ต.ท.ทักษิณสมัยเคยร่วมงานกันช่วงแรกๆ ก่อนจะเล่าถึงเหตุที่แยกเป็นคนละฝ่าย ปรากฏว่าเกิดเหตุการณ์ไฟดับในห้องบรรยายถึง 3 ครั้ง และไฟดับในช่วงที่มีการกล่าวปิดงานอีก 2-3 นาที ในเวลาใกล้เคียงกัน แต่ไม่เป็นอุปสรรคต่อการบรรยาย เนื่องจากห้องดังกล่าวไม่ได้ใช้เครื่องขยายเสียง ทั้งนี้นายกษิตกล่าวติดตลกระหว่างไฟดับว่า "อาจจะเป็นพลังของ พ.ต.ท.ทักษิณ" สร้างเสียงหัวเราะในห้องบรรยาย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตลอดทั้งวันนายกษิตปฏิบัติภารกิจด้วยท่าทียิ้มแย้มแจ่มใส อย่างไรก็ดีเมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงความคืบหน้าการติดตามตัว พ.ต.ท.ทักษิณ นายกษิตได้ปฏิเสธที่จะพูดถึงโดยยิ้มและตอบสั้นๆ ว่า "เสียเวลาเปล่าๆ
"