เทพไทอุ้มกษิตอ้างหมายเรียกไม่ใช่หมายจับไม่ต้องลาออกจนกว่าเรื่องจะถึงศาล

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 10.30 น. ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.)

แถลงว่า การตัดสินใจไม่ลาออกจากตำแหน่งของ นายกษิต ภิรมย์ รมว.ต่างประเทศ หลังถูกออกหมายเรียกในข้อหาก่อการร้ายจากกรณีการยึดสนามบินดอนเมืองและสนามบินสุวรรณภูมิ เป็นการตัดสินใจที่ถูกต้อง ซึ่งนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะนายกรัฐมนตรีและพรรคสนับสนุนการตัดสินใจดังกล่าว ซึ่งการดำเนินการทั้งหมดอยู่ในมาตรฐานของพรรคที่ทำมาตลอด การที่พรรคเพื่อไทยเรียกร้องให้ทำตามกฎเหล็ก 9 ข้อนั้น ต้องเป็นเรื่องที่มีผลทางกฎหมายแล้ว แต่คดีของนายกษิตยังไม่มีผลทางกฎหมาย หากตรวจสอบข้อมูลแล้วอาจไม่สั่งฟ้องก็ได้ ซึ่งหากอัยการสั่งฟ้องแล้วปชป.ถึงจะมาพิจารณาอีกครั้ง

 
นายเทพไท กล่าวว่า ที่ผ่านมาปชป.ได้แสดงความรับผิดชอบทางการเมืองมาแล้วหลายครั้ง

ทั้งกรณีที่นายนิพนธ์ พร้อมพันธุ์ ลาออกจากตำแหน่งรมว.เกษตรและสหกรณ์ จากกรณี สปก.4-01 กรณีที่ พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ ลาออกจากตำแหน่งรองนายกฯและรมว.มหาดไทย หลังพบว่ายื่นบัญชีทรัพย์สินเท็จต่อ ป.ป.ช. กรณีนายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ลาออกจากตำแหน่งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร หลังถูก ป.ป.ช.ชี้มูลความผิดในคดีทุจริตจัดซื้อรถเรือดับเพลิง และกรณีล่าสุด ที่นายวิฑูรย์ นามบุตร ลาออกจากตำแหน่งรมว.พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ หลังเกิดเหตุปลากระป๋องเน่า


"ตรงกันข้ามพรรคเพื่อไทยควรจะย้อนกลับไปดูคนในพรรคว่าเคยแสดงความรับผิดชอบอะไรบ้างหรือไม่ อย่างการขายหุ้นโดยไม่เสียภาษีของบริษัทในเครือชินคอร์ปของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ทั้งที่ประชาชนออกมาต่อต้านมาก แต่ก็ไม่เห็นเจ้าตัวจะแสดงความรับผิดชอบอะไร ส่วนที่นายนพดล ปัทมะ ลาออกจากตำแหน่งรมว.ต่างประเทศก็ไม่ได้ลาออกเพราะแสดงความรับผิดชอบ แต่ลาออกหลังศาลรัฐธรรมนูญตัดสินว่าทำผิดมาตรา 190 เป็นการลาออกเพราะจนมุมด้วยข้อมูลหลักฐาน เช่นเดียวกับนายสมัคร สุนทรเวช นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ที่ลงจากตำแหน่งนายกฯด้วยคำสั่งศาล ดังนั้นเพื่อไทยควรกลับไปดูเงาตัวเองด้วย” นายเทพไท กล่าวและว่า เชื่อว่า พท.จะนำประเด็นของนายกษิตไปเป็นเหตุผลในการเคลื่อนไหวต่อต้านรัฐบาลระหว่างการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียน ระหว่างวันที่ 16-17 กรกฎาคมนี้ด้วย

ผู้สื่อข่าวถามว่า พรรคต้องรอให้คดีไปจุดไหนจึงจะให้นายกษิตลาออก นายเทพไท กล่าวว่า เมื่อการดำเนินคดีมีผลทางกฎหมายแล้ว แต่ถึงอัยการส่งฟ้องศาลแล้ว นายกษิตก็ไม่จำเป็นต้องลาออกโดยอัตโนมัติ

เพราะคดีนี้เป็นคดีอาญาไม่ใช่คดีทางการเมืองที่ถูก ป.ป.ช.ชี้มูล ดังนั้นแม้ศาลจะรับคดีนี้ไว้พิจารณาแล้ว ค่อยมาว่ากันอีกครั้ง
เมื่อถามว่ากฎเหล็ก 9 ข้อของนายกฯระบุว่ารัฐมนตรีต้องมีความรับผิดชอบทางการเมืองสูงกว่าความรับผิดชอบทางกฎหมายแล้วทำไมต้องรอให้คดีถึงศาลก่อน นายเทพไท กล่าวว่า ความผิดชอบทางกฎหมายคือต้องรอให้ศาลตัดสินก่อน แต่รัฐมนตรีของรัฐบาลชุดนี้จะไม่ไปตะแบงว่า ต้องรอให้ศาลชั้นต้น อุทธรณ์ และฎีกาตัดสินก่อน เพียงแต่ต้องรอให้เรื่องถึงศาลก่อน พรรคถึงจะมาตัดสินอีกที เมื่อถามว่าแสดงว่ากฎเหล็กที่วางไว้ ก็เป็นเพียงกฎกระดาษเพราะเมื่อถึงเวลาใช้จริงก็หาข้ออ้างไม่ปฏิบัติตาม นายเทพไท กล่าวว่า ไม่ใช่ เพราะกฎเหล็กถูกใช้ในกรณีของนายวิฑูรย์ไปแล้ว แต่กรณีนี้มีเหตุผลที่แตกต่างกัน ดังนั้นจึงใช้มาตรฐานที่ต่างกัน

เมื่อถามย้ำอีกครั้งว่า นายกษิตเคยพูดว่าจะลาออกหากมีหมายเรียกหรือหมายจับ นายเทพไท กล่าวว่า

“คุณกษิตเคยบอกว่าจะออกหากมีหมายจับ แต่กรณีนี้เป็นเพียงหมายเรียกไม่ใช่หมายจับ ต้องพูดกันที่ข้อเท็จจริง เดี๋ยวจะหาว่า ผมเป็นศรีธนญชัยอีก หากคุณกษิตพูดได้อย่างที่ผมอธิบาย เชื่อว่าประชาชนจะเข้าใจ และไม่กระทบกับภาพลักษณ์ของพรรค” เมื่อถามว่าการอุ้มนายกษิตต่อไปจะเป็นเตี้ยอุ้มค่อมหรือเปล่า เพราะรัฐบาลก็ยังไม่มีผลงาน นายเทพไท กล่าว่วา ทั้ง 2 เรื่องเป็นคนละเรื่องกัน ผลงานรัฐบาลเป็นเรื่องส่วนรวม ส่วนคดีนายกษิตเป็นเรื่องส่วนตัว

เครดิต :
เครดิต :เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์มติชน


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์