สำนักข่าวไทย 6 ก.ค. – “สุเทพ” ระบุประเทศเสียโอกาสที่จะเดินหน้าแก้ปัญหาเศรษฐกิจ เพราะต้องคอยแก้ปัญหาการเมือง วอนคนเสื้อแดงและ “พ.ต.ท.ทักษิณ” ให้คิดถึงประเทศ อย่าทำอะไรเพียงเพื่อความสะใจ พร้อมลั่นการจัดประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนจะไม่เกิดเหตุซ้ำรอยเหมือนพัทยา ยืนยันรัฐบาลไม่มี 2 มาตรฐานจะดำเนินคดีทุกคนที่ทำผิดกฎหมาย
นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ด้านความมั่นคง ให้สัมภาษณ์สำนักข่าวไทยถึงการทำงานด้านความมั่นคงในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมาว่า ไม่ได้หนักใจอะไรเป็นพิเศษ
เพราะทราบดีแล้วว่า เมื่อเข้ามาทำงานในสถานการณ์อย่างนี้ก็ต้องเจอกับปัญหา ซึ่งวันนี้ปัญหาใหญ่ที่สุดของบ้านเมือง คือ ปัญหาเศรษฐกิจ ซึ่งทุกประเทศก็ประสบปัญหาแบบไทย แต่ของไทยหนักกว่าประเทศอื่น เพราะเกิดปัญหาการเมืองสอดแทรกเข้ามาด้วย และกรณีของปัญหาการเมืองซึ่งเกิดจากกลุ่มคนที่มีความคิดเห็นไม่ตรงกับรัฐบาล และไม่เคารพกฎหมาย ทำทุกอย่างจนเกิดเรื่องวุ่นวายในประเทศติดต่อกันไม่มีวันหยุด ซึ่งน่าเสียดายที่รัฐบาลต้องมาเสียเวลาและเสียโอกาสที่จะทุ่มเททำงานเพื่อแก้ปัญหาเศรษฐกิจของประเทศ ซึ่งต้องอดทนอดกลั้นและพยายามที่จะทำงานท่ามกลางอุปสรรคข้อขัดข้องต่อไป
นายสุเทพ กล่าวต่อว่า การแก้ไขปัญหาความขัดแย้งที่จะทำให้กลุ่มคนเหล่านี้หยุดเคลื่อนไหว ไม่ใช่เรื่องที่รัฐบาลทำได้เพียงฝ่ายเดียว แต่ต้องให้ประชาชนร่วมด้วย
โดยเฉพาะประชาชนที่มีความคิดเห็นไม่ตรงกับรัฐบาล ขอให้ฉุกคิดว่า จะเอาเพียงความสะใจของตัวเองฝ่ายเดียวคงไม่ได้ จะต้องนึกถึงความเสียหายที่เกิดกับประเทศและประชาชนด้วย “ผมขอยกตัวอย่างที่พัทยา จนบัดนี้ไม่มีนักท่องเที่ยวมาพัทยาเลย เป็นปัญหามาก ผมคิดว่าเราควรจะหยุดได้แล้ว เราพอได้แล้ว ประเทศชาติบาดเจ็บมากแล้ว ประชาชนเสียหายมากแล้ว เรามาร่วมมือกันแก้ไขปัญหาประเทศชาติดีกว่า การที่จะเอาชนะคะคานทางการเมืองนั้น รอให้กระบวนการทางการเมืองเสร็จสิ้นเรียบร้อย แล้วไปดำเนินการต่อสู้ในแนวทางนั้น ผมเห็นว่าเมื่อไหร่ที่เขาแก้ไขรัฐธรรมนูญเสร็จ เขาจะมีการเลือกตั้งใหม่ ก็ไปต่อสู้กันในวิถีทางนั้นจะดีกว่า เราเสียเวลา เสียโอกาสมาเยอะแล้ว ผมอยากจะวิงวอนว่า ให้เห็นแก่ประเทศชาติและประชาชน” นายสุเทพ กล่าว
ส่วนที่มองกันว่าความเคลื่อนไหวที่เกิดขึ้นมี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี อยู่เบื้องหลังนั้น นายสุเทพ กล่าวว่า ไม่อยากจะพูดอะไรอีก
เพราะเกรงจะแปลความหมายว่า ตนไปยั่วยุ แต่คิดว่าทุกคนเป็นเจ้าของประเทศด้วยกัน ต้องคำนึงถึงประโยชน์ของประเทศและประชาชนส่วนรวม อย่าได้คิดแต่เรื่องของตัวเอง สำหรับกรณีที่กลุ่มคนเสื้อแดงอาจจะไปเคลื่อนไหวในการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนรวมถึงการประชุมสุดยอดอาเซียนในเดือนตุลาคม ได้เตรียมรับสถานการณ์อย่างไรนั้น นายสุเทพ กล่าวว่า รัฐบาลจะใช้มาตรการทางกฎหมายที่เข้มแข็ง และขอยืนยันว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่พัทยาจะให้เกิดเป็นครั้งสุดท้าย ทั้งนี้ ในการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนและประเทศคู่สัญญาที่จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 16-23 กรกฎาคมนี้ เราจะสนธิกำลังเจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ พลเรือนทุกฝ่ายอย่างเต็มที่ และเชื่อว่าชาวภูเก็ตจะลุกขึ้นมาช่วยรัฐบาลอย่างเต็มที่ จึงมั่นใจว่า จะสามารถดูแลป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ซ้ำรอยเหมือนที่พัทยาได้
“ถ้าใครเคารพกฎหมาย เราก็เคารพในสิทธิของเขา แต่ถ้าผู้เคลื่อนไหวทำอะไรที่ผิดกฎหมาย เราก็จะดำเนินคดีตามกฎหมาย รัฐบาลนี้ทำตามกฎหมาย ซึ่งการดำเนินการตามกฎหมายก็คือ ตำรวจต้องรวบรวมประจักษ์พยานหลักฐานทั้งหลาย ทำสำนวน แล้วถ้าสำนวนแข็งแรงดีก็ส่งอัยการฟ้องศาลดำเนินคดีกันไป การต่อสู้คดีก็ต้องว่ากันไปตามกระบวนการยุติธรรม การทำอย่างนี้อาจจะไม่ถูกใจ ไม่รวดเร็วทันใจ แต่ต้องเข้าใจว่า เราเป็นนิติรัฐ เราบริหารกันภายใต้กรอบของกฎหมาย ดังนั้น ผมยืนยันว่า รัฐบาลนี้ทำทุกอย่างมาตรฐานเดียว ไม่มีสองมาตรฐานอย่างที่กล่าวหา จะเป็นเสื้อแดง เสื้อเหลือง เสื้อเขียว ถ้าทำผิดกฎหมาย เราดำเนินคดีทั้งนั้น”รองนายกรัฐมนตรี กล่าว
นายสุเทพ กล่าวด้วยว่า ขณะนี้ พล.ต.อ.ธานี สมบูรณ์ทรัพย์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติตำรวจ กำลังสอบสวนดำเนินคดีอยู่ทุกคดี
อย่างไรก็ตาม รัฐบาลไม่มีหน้าที่นำคดีความต่างๆ มาโฆษณาประชาสัมพันธ์ แต่เป็นเรื่องที่สื่อมวลชนและประชาชนต้องไม่ให้ความสำคัญกับเรื่องที่คนนำมาบิดเบือนหรือพูดจาอย่างนี้.- สำนักข่าวไทย