ตั้งแต่ผลการเลือกตั้งซ่อมเขต 3 จ.สกลนคร ออกมาแบบ "เพื่อไทย" กวาด 83,348 คะแนน ชนะขาด "ภูมิใจไทย" ที่ได้ 47,235 คะแนน
ทั้งๆ ที่ "เนวิน ชิดชอบ" นายใหญ่ "ภูมิใจไทย" ทุ่มทุนหมดหน้าตักไปกับ "ผู้สมัคร ส.ส." คนแรก ถึงขนาดขน "รัฐมนตรี" ปูพรมลงพื้นที่หาเสียงยกพรรค ได้ส่งผลให้ "ภูมิใจไทย" ที่เคยถูกตั้งความหวังว่าจะเป็น "แจ๊ค" ผู้ฆ่า "ยักษ์ทักษิณ" ในถิ่นอีสาน ก็ "ช็อร์ต" ไปดื้อๆ
เพราะหลังจากนั้น "นายใหญ่" ก็อาศัยความเป็น "ฝ่ายกำชัย" เดินเครื่องขย่ม "ภูมิใจไทย" และ "รัฐบาล" ไม่ยั้งทุกกระบวนยุทธ์ ที่จะเป็นหนทางในการทวงคืนอำนาจ
โดยเร่งวันเร่งคืนสร้างเครือข่าย ขยายคอนเนคชั่น แตะมือกับ "อดีตคนการเมืองรุ่นใหญ่" มากหน้าหลายตา ชักชวนเข้าสังกัด "เพื่อไทย" ปล่อยรังสีเสื้อแดง ข่มบารมี "เนวิน" ที่เคยเจิดจรัสตั้งแต่สลับ "ขั้วการเมือง" ขนาดที่มีคนทำนายทายทักว่า อาจไปได้ถึง "เก้าอี้นายกรัฐมนตรี" ในวันข้างหน้า แทบมิด
ซ้ำยังมีข่าว เขย่าขวัญ "ภูมิใจไทย" ว่า "พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร" อดีตนายกรัฐมนตรี สายตรงมาไฟเขียว "อดีต 111 กรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย" ทุกก๊ก-ก๊วน ให้กลับมาจับมือประสานงานการเมืองได้ทุกแก๊ง แบบไม่มีเงื่อนไข ถึงขั้นประกาศเปิดประตูพรรคไว้รอต้อนรับทุกกลุ่มกลับเข้ารัง "เพื่อไทย"
แต่กลับมี "คำสั่งเด็ดขาด" แขวนชื่อ "ภูมิใจไทย" เป็นพรรคต้องห้าม ไว้หน้า "ตึกชินวัตรไหมไทย" เพียงพรรคเดียว โทษฐานเป็น "งูเห่า" ที่ "หักหลัง" แล้วยังหันคมเขี้ยวมาแว้งกัดบ่อยครั้ง
สร้างความรู้สึกโดดเดี่ยวให้กับ "เพื่อนเนวิน" จับใจ เพราะวันนี้หันซ้าย-หันขวาก็ไม่รู้ว่า วันหนึ่งวันใด คนที่เคยอยู่ข้างกาย จะถอดใจดอดกลับไปซบอก "ทักษิณ"
ถึงขั้นที่ต้องรีบเรียกเช็คยอดกันยกใหญ่ ด้วยวิธีการขานชื่อกันดังๆ ว่าใครจะอยู่-ใครจะไป
แม้แต่ "อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ" นายกรัฐมนตรี ที่เคยประคองกอดกันตั้งรัฐบาลเมื่อปลายปีที่แล้ว ยังเริ่มพูดเสียงเปล่งๆ ไป
โดยล่าสุด "นายกฯมาร์ค" น้ำเสียงไม่สู้ดี ในการพูดถึงการเรียก "เนวิน ชิดชอบ" มากินข้าวกลางวัน ที่บ้านพิษณุโลก เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม ว่าเป็นการพูดคุยกันเพื่อปรับความเข้าใจในบางเรื่อง
เพราะปัญหาของรัฐบาลใน 2-3 เดือนที่ผ่านมา เกิดจากประชาชนมองว่าขาดความเป็นเอกภาพ และบางโครงการไม่มั่นใจในความโปร่งใส จึงต้องหยุดสภาวะนี้ ไม่อย่างนั้นจะทำงานได้ยาก
ส่งสัญญาณให้ "เนวิน" กลับไป "ทบทวน" หรือโดยนัยยะ "เบรก" บางโครงการขนาดใหญ่ของภูมิใจไทย ที่ "สีเทา" ในสายตาของสังคม
เหมือนบอกเป็นนัยยะถึงสถานะการร่วมรัฐบาล ที่วันนี้ "กระแสทักษิณ" ตีคู่ ขึ้นมาจ่อจะแซง "ความนิยมรัฐบาล" แบบหายใจรดต้นคอ
แม้ "ภูมิใจไทย" จะอยู่ในฐานะ "ขุนพลอีสาน" แต่ก็ต้องระมัดระวังความเคลื่อนไหว โดยเฉพาะในช่วงที่เพิ่งพ่ายแพ้มาแบบสะบักสะบอม จึงจำเป็นจะต้องลดความโฉ่งฉ่างในบางโปรเจ็คต์ เพื่อช่วยกันประคับประคองสถานการณ์
ซึ่งวันนี้ไม่ว่าจะเป็นพรรคไหนก็คงไม่มีใครอยากให้ "ยุบสภา" โดยเฉพาะ "กลุ่มเพื่อนเนวิน" และ "พรรคประชาธิปัตย์" ที่ต่างรู้ดีว่าถ้าอายุขัยรัฐบาลหมดลงเมื่อไร ก็จะเป็นการก่อกำเนิดขึ้นมาใหม่ของ "ระบอบทักษิณ" ในทันที
เพราะไม่ว่าหัวพรรคจะชื่ออะไร ก็คงยังไม่มีศักยภาพพอที่จะทะลุทะลวงพื้นที่อีสาน ล้าง "มนต์ทักษิณ" ได้ง่ายๆ และคงต้องใช้เวลาอีกระยะ สำหรับการลดความศรัทธา "ทักษิณ" และ "พรรคไทยรักไทย"
ดังนั้น ในภาวะที่ "ประชาธิปัตย์" ยังไม่สามารถเดินในภาคอีสาน ก็ยังต้องอาศัย "ภูมิใจไทย" ในการทำลายฐานเสียงของ "เพื่อไทย" หากคิดที่จะกลับมาจัดตั้ง "รัฐบาล" อีกในอนาคต
ขณะเดียวกัน "ภูมิใจไทย" ที่อยู่ในสถานการณ์ "เดินหน้าก็ไม่ไป ถอยหลังก็ไม่ได้" เพราะยังไม่แข็งแกร่งในพื้นที่ภาคอีสาน พอที่จะต่อกรกับ "เพื่อไทย" ของ "พ.ต.ท.ทักษิณ" ก็ยังคงต้องกล้ำกลืน ฝืนอยู่ร่วมรัฐบาลต่อไป แบบเจียมเนื้อเจียมตัว เพื่อดำรงสถานะ "อำนาจรัฐ" และรักษาความได้เปรียบในการใช้เครื่องไม้ เครื่องมือ และงบประมาณ ในการทลายกำแพงคนรักทักษิณในภาคอีสาน
ซึ่ง "ภูมิใจไทย" คงต้องถอย อย่างสงบเสงี่ยมเจียมบอดี้ และญาติดีกับ "ประชาธิปัตย์" ไปอีกระยะ จนกว่าจะมั่นใจว่าสามารถเอาชนะเหนือ "เพื่อไทย" หรือ "พ.ต.ท.ทักษิณ" หายโกรธ แล้วเปิดดีลการเมืองกับ "ภูมิใจไทย" อีกครั้ง จากนั้นค่อยกลับมาเดิน "เกมรุก" ตามสไตล์ภูมิใจไทย ที่แฝงพิษสงไว้รอบตัว
เมื่อถึงเวลานั้น "ภูมิใจไทย" ก็จะเป็นฝ่ายเลือกว่าจะ "รุก" เพื่อ "รบ" กับใคร
เนวิน-ภท.ทนกล้ำกลืน ถอยวันนี้เพื่อรุกวันหน้า
หน้าแรกTeeNee ที่นี่ข่าววันนี้, ข่าวหน้าหนึ่ง ข่าวการเมือง เนวิน-ภท.ทนกล้ำกลืน ถอยวันนี้เพื่อรุกวันหน้า