นศเหิ้มเข้าชกต่อหน้าทักษิณ

ขนาดเดินทางไปเปิดตัวหนังสือและซีดีภาพ เหนือเกล้าชาวไทย ยังโดนกลุ่มผู้ชุมนุมตะโกนไล่กลางห้างสยามพารากอน จนทำให้เกิดการปะทะกันระหว่างคนที่ต่อต้านกับทีม รปภ.นายกฯ และกลุ่มผู้สนับสนุน เป็นเหตุให้นักศึกษาหนุ่มที่ตะโกนไล่นายกฯโดนชกปากแตก ด้านนายกฯฉุดขาด ด่ายับเป็นพวกจิตใจพัฒนาไม่ขึ้น เป็นพวกใช้ไม่ได้ในทางประชาธิปไตย พร้อมสั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อดำเนินคดีกับกลุ่มที่ต่อต้าน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 19 ส.ค. ที่ห้างสรรพสินค้าสยามพารากอน พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรคไทยรักไทย ได้เดินทางมาเป็นประธานเปิดตัวหนังสือและซีดีภาพ เหนือเกล้าชาวไทย ที่ระลึกการจัดงานนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสการจัดงานฉลองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี ที่เมืองทองธานี ระหว่างวันที่ 26 พ.ค.-13 มิ.ย.ที่ผ่านมา โดย พ.ต.ท.ทักษิณได้กล่าวเปิดงานว่า หนังสือและวีซีดีที่จัดทำขึ้นครั้งนี้จะเป็นบันทึกประวัติศาสตร์ ให้คนรุ่นหลังและคนที่ไม่ได้มาร่วมงานได้รับรู้พระราชกรณียกิจ ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ตลอด 60 ปีที่ครองสิริราชสมบัติ ขณะนี้ทราบว่ามียอดจองแล้วกว่า 1 แสนชุด นอกจากนี้ ยังขอเชิญประชาชนร่วมชมงานราชพฤกษ์ 2006 ที่ จ.เชียงใหม่ ที่จะแสดงให้เห็นถึงพระอัจฉริยภาพด้านการเกษตรของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่จะจัดขึ้นในวันที่ 1 พ.ย 2549 -31 ม.ค. 2550 จากนั้น พ.ต.ท.ทักษิณได้มอบหนังสือและซีดีภาพดังกล่าวให้แก่องค์กรที่ให้การสนับสนุนการจัดงานนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติฯ และเดินเยี่ยมชมภายในงาน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในระหว่างที่ พ.ต.ท.ทักษิณเดินเยี่ยมชมนิทรรศการ และทักทายประชาชนที่มาจับจองหนังสือ วีซีดี และแสตมป์เฉลิมพระเกียรติฯ ท่ามกลางประชาชนที่ส่วนใหญ่ใส่เสื้อเหลือง ที่พากันมาเข้าชมงานจำนวนมาก อยู่ๆได้มีสุภาพสตรีวัยกลางคน ทำท่าเซเข้ามาถึงตัว พ.ต.ท.ทักษิณ 2 ครั้ง จน พ.ต.ท.ทักษิณต้องกระซิบให้ตำรวจติดตามที่อารักขาอยู่ด้านข้างว่า สงสัยจะ สติไม่ดี เซมาเหยียบเท้าผม 2 ครั้งแล้ว ช่วยดูหน่อย จากนั้น พ.ต.ท.ทักษิณได้เดินชมงานต่อ และทักทายประชาชนบริเวณด้านหน้าทางเข้านิทรรศการ ก็ได้มีเสียงประชาชนกลุ่มหนึ่งประมาณ 20-30 คน ตะโกนไล่เสียงดังทำให้ พ.ต.ท.ทักษิณถึงกับตะลึง และหันไปมองหาต้นเสียง แต่ทีมรักษาความปลอดภัยเห็นท่าไม่ดี จึงรีบกัน พ.ต.ท. ทักษิณให้รีบเดินออกจากงานเพื่อเดินทางกลับทันที

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างนั้นได้เกิดเหตุการณ์ ชุลมุนขึ้น เนื่องจากฝ่ายสนับสนุน พ.ต.ท.ทักษิณ และทีมรักษาความปลอดภัย ได้พยายามเข้าไปห้าม และกันกลุ่มคนที่ตะโกนไล่ออกไป ทำให้เกิดการปะทะกันเนื่องจากกลุ่มที่มาตะโกนไล่ไม่ยอมยุติ โดยมีนักศึกษาชายคนหนึ่งตะโกนไล่อีกครั้ง ทำให้ฝ่ายที่สนับสนุน พ.ต.ท. ทักษิณ จำนวน 3-4 คน ที่ใส่เสื้อเหลืองและมีแจ็กเกตดำสวมทับ ฮือเข้าไปรุมต่อยและทุบนักศึกษาคนดังกล่าวจนปากแตกมีเลือดซึมออกมา โดยฝ่ายที่มาตะโกนไล่ก็ พยายามเข้าไปกัน และช่วยดึงนักศึกษาคนนั้นออกมา นอกจากนี้ ยังมีสุภาพสตรีอีกคนหนึ่งอุ้มลูกมายืนร่วมตะโกนด่า ทีมรักษาความปลอดภัยจึงเข้าไปผลักจนเซเกือบจะล้ม ขณะที่ประชาชนที่ใส่เสื้อเหลืองบางคนทนไม่ไหว ตะโกนขึ้นว่า เป็นคนไทยด้วยกันทั้งนั้น ทำอย่างนี้ได้อย่างไร นี่งานในหลวงนะ ทำให้คนตะโกนด่าถอยห่างออกไป แต่ยังยืนตะโกนไล่ พ.ต.ท.ทักษิณต่อ ทำให้กลุ่มที่สนับสนุนตะโกนตอบโต้และไล่กลุ่มที่ต่อต้าน ฝ่ายตะโกนไล่จึงได้รีบเดินออกจากห้างสรรพสินค้าสยามพารากอนไป

ทางด้าน พ.ต.ท.ทักษิณที่ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจรักษาความปลอดภัย รีบคุ้มกันลงบันไดเลื่อนเพื่อมาขึ้นรถที่บริเวณหน้าห้างสยามพารากอน ระหว่างนั้นก็ได้มีกลุ่มสนับสนุนห้อมล้อมตามลงมาอย่างแน่นหนา พร้อมตะโกนเป็นระยะๆว่า นายกสู้ๆ ท่านทำงานดีแล้ว ให้ทำงานต่อไป เดินตามหลังไปส่งจนกระทั่งนายกฯมาถึงรถยนต์ ส่วนตัว ส่วนบรรยากาศภายในห้างสยามพารากอนระหว่างเกิดเหตุการณ์ ทำให้ประชาชนคนที่มาเดินห้าง รวมทั้งชาวต่างประเทศต่างพากันงุนงงกับเหตุการณ์วุ่นวายที่เกิดขึ้น ทั้งนี้ พ.ต.ท.ทักษิณได้ให้สัมภาษณ์ถึงเหตุการณ์ ดังกล่าว ด้วยสีหน้าเคร่งเครียดและน้ำเสียงที่ฉุนเฉียวว่า บรรยากาศเช่นนี้ไม่ควรจะเกิดขึ้น บรรยากาศของประเทศไทย คนไทย และจัดงานนิทรรศการที่สำคัญของคนไทย แต่ปรากฏว่ายังมีคนกลุ่มหนึ่งที่จิตใจพัฒนาไม่ขึ้น ก็ค่อนข้างจะแย่มาก ที่มาแสดงอาการที่ดูแล้วคิดว่าเป็นความใช้ไม่ได้ทางประชาธิปไตย

พ.ต.ท.ทักษิณกล่าวว่า ประชาธิปไตยควรจะรอวันที่ 15 ต.ค. 2549 แล้วไปลงคะแนนเลือกตั้ง ไม่อยากเลือกผมก็ไม่ต้องเลือก อยากเลือกก็เลือก มาทำอาการอย่างนี้ทำให้ดูเหมือนว่าประเทศไทยเป็นประเทศที่มี แต่ความขัดแย้ง แล้วใครอยากจะมาอยู่ อยากจะมาเที่ยว อยากจะมาลงทุน ความเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วย แสดงออกทางประชาธิปไตยได้อยู่แล้ว แต่การกระทำแบบนี้ผมคิดว่า ใครใช้ใครมา ใครสั่งใครสอนใคร ก็ควรต้องกลับไปคิดให้ดีว่าคิดถึงประเทศชาติบ้าง อย่าไปเอาเพียงความสะใจของตัวเอง

ผู้สื่อข่าวถามว่า เกรงหรือไม่ว่าในระหว่างการหาเสียงเลือกตั้ง จะเกิดปะทะกันระหว่างกลุ่มคัดค้านและกลุ่มสนับสนุน พ.ต.ท.ทักษิณตอบว่า ไม่มีปัญหาหรอก ถือว่าประชาธิปไตยทุกคนมีสิทธิที่จะแสดงออกในวันเลือกตั้งได้อยู่แล้ว แต่อย่าไปคิดว่าตัวเองมีเสียงมากกว่าคนอื่น ตัวเองถึงแม้ว่าจะพูดจาอย่างไร แต่ก็ 1 เสียงเท่ากันหมด เพราะฉะนั้นวันที่ 15 ต.ค. 2549 เป็นวันที่ทุกคนไปหย่อนบัตร และแสดงพลังของตัวเองได้ 1 เสียง ก็ตัดสินทั้งหมดว่าประชาชนจะเลือกใคร เมื่อเลือกแล้วก็คงต้องยุติ ถ้าไม่ยุติก็ต้องว่าไปตามกฎหมายบ้านเมืองแน่นอน

พ.ต.ท.ทักษิณกล่าวถึงกรณีที่ฝ่ายกฎหมายของพรรคไทยรักไทย มีมติสนับสนุนให้เป็นนายกรัฐมนตรีต่อไปว่า เป็นเรื่องธรรมดา คนในพรรคก็ต้องสนับสนุนตน คนสนับสนุนมีมากกว่าคนที่ไม่สนับสนุนอยู่แล้วเป็นเรื่องธรรมดา โดยเฉพาะในพรรคไทยรักไทยก็สนับ สนุนทั้งหมด 100 เปอร์เซ็นต์ ผู้สื่อข่าวถามว่า เมื่อพระราชกฤษฎีกาเลือกตั้งมีผลแล้ว จะประกาศท่าทีที่ชัดเจนเลยหรือไม่ว่าจะสู้ต่อหรือเว้นวรรคทางการเมือง พ.ต.ท.ทักษิณตอบว่า ยังมีเวลา ไม่ต้องรีบร้อน เมื่อถามถึงกรณีที่พรรคประชาธิปัตย์ลงพื้นที่หาเสียงในพื้นที่เดิมของ ส.ส.พรรคไทยรักไทย พ.ต.ท.ทักษิณตอบว่า เราลงพื้นที่มานานแล้ว เราลงพื้นที่อยู่ตลอดเวลา ต่อข้อถามว่า จะร่วมอวยพรวันเกิด 74 ปี ของนายบรรหาร ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทยหรือไม่ พ.ต.ท.ทักษิณตอบว่า ได้มอบหมายให้นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ รอง นายกรัฐมนตรี ไปอวยพรแทน และได้ฝากคำอวยพรไปด้วย เมื่อถามว่า นายบรรหารระบุว่า พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ หัวหน้าพรรคมหาชน เป็นมิตรแท้ทางการเมือง จะเชื่อมโยงถึงพรรคไทยรักไทยหรือไม่ นายกฯตอบว่า วันนี้เราอยากเห็นทุกฝ่ายหันหน้าเข้าหากัน

ต่อข้อถามว่าหากกลุ่มที่คัดค้านนายกฯลงพื้นที่ไปชี้แจงกับประชาชนแล้วจะทำให้ปัญหานั้นเป็นวังวนหรือไม่ พ.ต.ท.ทักษิณตอบว่า โอ้ย..ไม่มีหรอกครับ วันนี้หลายฝ่ายไม่ทำหน้าที่ตามกฎหมายของตัวเองมันเลยมีปัญหา หลายฝ่ายไม่บังคับใช้กฎหมาย ละเลย และช่วงที่รัฐบาลรักษาการมันย่อมมีอะไรอย่างนี้ แต่ถ้ารัฐบาลตั้งเรียบร้อยแล้วก็ไม่มีปัญหา ทุกอย่างก็เข้าแถวเป็นระเบียบหมด

ผู้สื่อข่าวถามว่า ความขัดแย้งนั้นดูเหมือนขยายวงกว้างออกไป พ.ต.ท.ทักษิณตอบด้วยน้ำเสียงที่แสดงความไม่พอใจ พร้อมกับชี้ไปยังผู้สื่อข่าวคนที่ถามและกล่าวว่า ไม่มีๆ ขยายวงกว้างอะไร อย่างคุณที่ถามนี่ก็รู้อยู่ว่าเป็นประเภทชอบยุ ลักษณะคำถามอย่างนี้เราอ่านออก กล่าวจบก็รีบตัดบทโดยบอกกับผู้สื่อข่าวว่า โอเค ขอบคุณ จากนั้นรีบเดินขึ้นรถทันที อย่างไรก็ตามพ.ต.ท.ทักษิณได้สั่งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อดำเนินคดีกับกลุ่มคนที่ไปสร้างความวุ่นวายที่ห้างสยามพารากอนเป็นการด่วน

แหล่งที่มา: หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ