กำจัดจุดอ่อน วาระร้อนปชป. ดับกระแสรบ.ระส่ำ

ดูท่า "รัฐบาลมาร์ค" อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ จะมาเร็ว และไปเร็วกว่าที่คิดหรือเปล่า??

คงเพราะมี "เหตุ" มาจากความพ่ายแพ้จากศึกเลือกตั้งซ่อมทั้ง 2 ครั้ง ที่ "พรรคร่วมรัฐบาล" ทั้งพรรคภูมิใจไทย และชาติไทยพัฒนา "พากันกอดคอกันตาย" พ่ายแพ้แบบราบคาบแก่อิทธิฤทธิ์ "โฟนอินมรณะ" ของ "พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร" อดีตนายกรัฐมนตรี

โดยที่ผล (กระทบ) ดังกล่าว ส่งแรงบีบตรงมาที่ "ประชาธิปัตย์" ในฐานะพรรคแกนนำจัดตั้งอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

แม้ในส่วน "พรรคชาติไทยพัฒนา" จะเก็บงำอาการ ไม่แสดงออกอย่างโจ่งแจ้งเหมือน "ภูมิใจไทย" ด้วยการตีโพยตีพายโทษพรรคร่วมรัฐบาลว่าไม่ช่วยเหลือ พร้อมกับได้ส่ง "ปัญญา ศรีปัญญา" ส.ส.ขอนแก่น เด็กสร้างกลุ่มเพื่อนเนวิน ออกมา "ขู่แกมบังคับ" ให้รู้สำนึกว่า ขืนพรรคประชาธิปัตย์ยังใจไม่กว้างขวางดุจแม่น้ำเจ้าพระยา และเงินไม่ถึง ปล่อยให้ "ภูมิใจไทย" เดินหน้าสู้ทำพื้นที่อีสานอย่างเดียวดาย เตรียม "กอดคอกันตาย" ยกเข่ง

แม้จะเข้าตำรา "รำไม่ดีโทษปี่โทษกลอง" แต่ก็ต้องยอมรับว่า ตั้งแต่ร่วมรัฐบาลกันมา 6 เดือนเต็ม พรรคประชาธิปัตย์แทบจะยก "ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ" ทั้งภาคให้ "นายห้อย" เนวิน ชิดชอบ แกนนำตัวจริง-เสียงจริงของพรรคภูมิใจไทยเป็นผู้ดูแลแต่เพียงผู้เดียว

โดยที่ลืมไปว่า การที่จะลบชื่อชั้น "นายใหญ่" ที่ทำพื้นที่มาเกือบ 10 ปีนั้น คงไม่ง่ายเหมือนปอกกล้วยเข้าปาก หากไม่มี "ปัจจัยเสริมแรง" ที่เหมาะสม

ดังนั้น การออกมาร้องเพลงดังในอดีต "เงินน่ะ...มีไหม?" ของลูกหม้อพรรคภูมิใจไทย ถือเป็นการส่งซิกไปยัง "แกนนำรัฐบาล" ให้รับรู้ว่า เฉพาะ "นโยบายประชานิยม" ที่ "รัฐบาลมาร์ค" พยายามยัดเยียดใส่มือ และฝังชิปใหม่ใส่หัวประชาชนรากหญ้า เพื่อแลกมาซึ่ง "คะแนนนิยม" นั้น มันใช้ไม่ได้กับ "ชาวอีสานบ้านเฮา" !!

และปัจจัยบีบรัดหัวใจอีกตัวคือ "อคติ" ที่มีต่อพรรคประชาธิปัตย์ ที่คนอีสานมองว่าเป็น "พรรคของคนใต้" ยังคงเป็นม่านหมอกที่ปกคลุมในพื้นที่ภาคอีสาน สืบเนื่องมาตั้งแต่เหตุการณ์ "ปล่อยหมากัดม็อบ" ในทำเนียบรัฐบาล เมื่อครั้ง "นายหัวชวน" ชวน หลีกภัย เป็นนายกรัฐมนตรี

และมาเข้าขั้นรุกลามใหญ่โตจนกลายเป็น "ความเกลียดชัง" ในยุค "รัฐบาลพี่มาร์ค" ที่มีเหตุมาจากปรากฏการณ์ "ทรยศนายใหญ่" จากกรณีที่ "เนวิน ชิดชอบ" แปรพักตร์ผลักอก "ทักษิณ" มากอดคอจูบปาก "อภิสิทธิ์" เพื่อตั้งรัฐบาล

และผลการเลือกตั้งทั้ง 2 พื้นที่ ก็ได้สั่งสอนให้เห็นว่า คนอีสานก็ยังคง "ไม่เอา (รัฐบาล) ประชาธิปัตย์" อยู่ดี แม้งวดนี้ จะได้ "นายหน้าชั้นดี" อย่าง "พี่เนวิน" คอยเป่ามนต์เขมรกล่อม "ลูกอีสาน" แต่กลับช่วยอะไรไม่ได้ ซ้ำร้ายยังเพิ่ม "รอยแผลใหม่"

"ลางร้าย" งวดนี้ จึงส่งผลให้ "แกนนำประชาธิปัตย์" ต้องกลับมาทบทวนตัวเองเพื่อหาทางอุด "จุดบอด" ที่เป็นช่องว่างระหว่างประชาธิปัตย์กับพรรคร่วมรัฐบาล เพื่อตอบปัญหาว่า ทำไมแนวรุกที่อีสานถึงทำไม่สำเร็จ ?

ถ้าดูวัตรปฏิบัติของรัฐบาลประชาธิปัตย์ จะเห็นว่า "การประสานงาน" ระหว่างกันมีปัญหามาก โดยเฉพาะนิสัยทำตัวเป็น "คุณชายสะอาด" ปัดทุกข้อเสนอของพรรคร่วม อาจเป็น "ฟางเส้นสุดท้าย" ของความสัมพันธ์ระหว่างพรรคร่วม

ยิ่งในสภาวการณ์ที่พายุวิกฤตเศรษฐกิจ และความแตกแยกในชาติที่ยังโหมกระหน่ำเช่นนี้ ถ้าประชาธิปัตย์ยังยึดมั่นถือมั่นในจุดยืนของตนเอง ทำตัวหยิ่ง เพื่อรักษาภาพของพรรค จะยิ่งผลัก "พรรคร่วม" ไปยืนอีกฝั่ง

ดังนั้น "ยาดี" ที่ใช้เพื่อรักษาอาการ "อายุ (รัฐบาล) สั้น" พรรคแกนนำคงต้องโน้มลงมาหาพรรคร่วมบ้าง ก่อนที่การแก้เกมในพื้นที่อีสานจะล้มเหลวไปไกลจนสุดกู่

จึงไม่แปลกหากจะเห็น "บัญญัติ บรรทัดฐาน" กรรมการสภาที่ปรึกษาพรรคสะตอ ขยับตัวมาจัดทัพ "ขุนพลอีสาน" ขึ้นมา โดยมอบหมาย "อาจารย์ปุ๊" รัชฎาภรณ์ แก้วสนิท ส.ส.สัดส่วน ให้ไปแก้โจทย์การบ้าน "จัดยุทธศาสตร์" เพื่อเจาะพื้นที่อีสานโดยเฉพาะ

โดยเบื้องหลังของคณะทำงานชุดนี้ ว่ากันว่า ถูกตั้งขึ้นจากความไม่พอใจ ที่ "ผจก.เทพประทาน" เอาอกเอาใจ "พรรคร่วม" จนเกินงาม โดยเฉพาะการยกอีสานให้ "ภูมิใจไทย" ดูแลไปเต็ม

อีกทั้ง "ลูกหม้อเทพเทือก" อย่าง วิฑูรย์ นามบุตร ส.ส.สัดส่วน อดีต รมต.ปลากระป๋อง ซึ่งเคยเป็น "ผู้รับผิดชอบหลัก" พื้นที่ภาคอีสาน ออกอาการงอแง ไม่ช่วยงานพรรคเหมือนอย่างเคย

หนที่สุดเรื่องก็คงมาถึงมือ "อภิสิทธิ์" เพราะลำพังการแก้เกมตามตำรา "บัญญัติ 10 ประการ" คงช่วยไม่ได้มาก โดยเฉพาะหากผู้นำรัฐบาลอยากอยู่ "ครบเทอม" และหากการแก้จุดบอด-ปิดช่องโหว่ผิดที่ผิดทาง มีหวังสิ้นปีนี้คงมีเลือกตั้งใหญ่อย่างที่ใครหลายคนวิเคราะห์เอาไว้ !!

เครดิต :
เครดิต :เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์มติชน


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์