เมื่อวานนี้ (30 มิ.ย.) ที่โรงแรมมิราเคิล แกรนด์ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวระหว่างการปาฐกถาหัวข้อ “ทิศทางการแก้ไขปัญหาภาคใต้ในระยะต่อไปของรัฐบาล”
ของสำนักสันติวิธีและธรรมาภิบาล สถาบันพระปกเกล้า ศูนย์ศึกษาสันติภาพและความขัดแย้ง จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และศูนย์เฝ้าระวังสถานการณ์ภาคใต้ตอนหนึ่งว่า ปัญหาภาคใต้มีรากฐานมาจากประวัติศาสตร์และปัจจัยอื่นๆมายาวนาน ไม่ควรไปมองว่า จะมีรูปแบบการแก้ปัญหาสำเร็จรูปที่ประกาศใช้แล้วยุติปัญหาได้ทันที และอย่าไปคาดหวังว่าจะแก้ไขได้ใน 3 เดือน 6 เดือน หรือ 1 ปี แต่ตั้งแต่ช่วงปี 2545 เมื่อปรับเปลี่ยนนโยบายจากระดับผู้นำลงไปได้กลายเป็นความผิดพลาดที่นำไปสู่สถานการณ์ที่เลวร้าย แม้ว่าจะไม่มีเจตนาจะให้สถานการณ์รุนแรง แต่เป็นอุบัติเหตุที่มีส่วนซ้ำเติม ทำให้ปัญหาบานปลายมากขึ้น เหมือนกับการทำสิ่งของให้กระจัดกระจาย แล้วจะต้องทำกลับให้เป็นระเบียบเหมือนเดิม โดยเฉพาะเรื่องของสันติภาพ และสันติสุขนั้นการจะทำให้กลับไปสมดุลเหมือนเดิมนั้นคงไม่สามารถทำได้ในเวลาอันรวดเร็ว
นายอภิสิทธิ์ กล่าวต่อว่า การแก้ปัญหาโดยอาศัยกลไกทางการเมืองนั้นเราต้องอดทน ฝ่ายตรงข้ามต้องตอบโต้อย่างรุนแรงเพื่อไม่ให้เราแน่วแน่ในแนวทางนี้
ซึ่งบางช่วงอาจจะดูว่าสถานการณ์เลวร้ายลง แต่รัฐบาลมีความชัดเจนโดยต้องการให้พื้นที่ 3 จังหวัด บวก 4 อำเภออยู่ภายใต้รัฐธรรมนูญการปกครองแห่งราชอาณาจักรไทย ซึ่งประชาชนในพื้นที่ได้รับการดูแลอัตลักษณ์ ที่ไม่ฝืนต่อความรู้สึกว่าถูกบีบบังคับให้อยู่ในสังคม การที่บอกว่าการเมืองนำการทหารนั้นไม่ใช่ว่ากองกำลังไม่มีบทบาทเลย เพราะการแก้ปัญหาในปัจจุบันกองกำลังยังจำเป็นมาก สุดท้ายกองกำลังทั้งหมดจะต้องถอยออกมาเพียงแต่ตอนนี้ยังมีความจำเป็นจะต้องสร้างควมปลอดภัยให้ประชาชนในพื้นที่ รัฐบาลทราบดีว่า การใช้กองกำลังและกฎหมายพิเศษนั้นเหมือนดาบสองคม หากมีการละเมิดสิทธิ์หรือเจ้าหน้าที่รัฐทำตัวอยู่เหนือกฎหมาย ดังนั้นเหตุที่เกิด ขึ้นในมัสยิดอัลฟุรกอน บ้านไอปาแย จ.นราธิวาส จะเป็นบททดสอบให้เห็นว่ารัฐบาลใช้กฎหมายตรงไปตรงมาใครทำผิดจะต้องได้รับโทษแม้จะเป็นเจ้าหน้าที่ทำก็ตาม
นายอภิสิทธิ์ กล่าวด้วยว่า ขั้นต่อไปจะเดินหน้าในเรื่องการพัฒนาและอำนวยความยุติธรรม รวมไปถึงการรับรู้รับทราบและเข้าถึงของประชาชนในพื้นที่
งบประมาณจำนวนมากนั้นไม่สามารถแก้ไขปัญหาภาคใต้ได้ แต่ที่สามารถช่วยในการแก้ไขได้คือการพัฒนา ซึ่งการพัฒนาจำเป็นจะต้องใช้งบประมาณที่ต้องกำหนดแผนรองรับที่ชัดเจน โดยเป้าหมายยกระดับรายได้ของประชาชนในพื้นที่ รวมถึงการพัฒนาการศึกษาและเยาวชนเป็นการเฉพาะ งบประมาณก้อนแรกเพิ่งได้รับการอนุมัติไปเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาและกว่าจะนำไปใช้ได้จริงคงต้องรอถึงเดือน ส.ค.นอกจากนี้ กำลังเร่งใช้กฎหมายความมั่นคงเข้าไปแทนกฎอัยการศึก
นายอภิสิทธิ์ กล่าวยืนยันว่า ปัญหาความไม่สงบในพื้นที่ภาคใต้เป็นปัญหาภายในประเทศที่สามารถแก้ไขได้
ถ้าเป้าหมายสุดท้ายของผู้ก่อความไม่สงบนั้น คือ คุณภาพชีวิต และการอยู่ร่วมในสังคมแบบที่ไม่ถูกกดขี่และยังคงอัตลักษณ์เดิมเอาไว้ได้ แต่รัฐบาลไม่ยอมรับในการใช้ความรุนแรง เพราะไม่สามารถสร้างความสงบสุขได้
นายกฯชี้งบมากดับไฟใต้ไม่ได้ต้องมุ่งพัฒนา
เครดิต : ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!


กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
























กระทู้ล่าสุด


รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
















































Love illusion ความรักลวงตา เพลงที่เข้ากับสังคมonline
Love illusion Version 2คนฟังเยอะ จนต้องมี Version2กันทีเดียว
Smiling to your birthday เพลงเพราะๆ ไว้ส่งอวยพรวันเกิด หรือร้องแทน happybirthday