ประสพสุข ชี้ตัว ทักษิณ ต้องถวายฎีกาเอง

ปธ.วุฒิฯแนะ"ทักษิณ"ต้องกลับมาดำเนินการขอพระราชทานอภัยโทษด้วยตนเอง ไม่เคยมีคนอื่นมาขอพระราชทานให้ ส่งสัญญาณพิเศษ กกต.อาจกลับลำถอนพิษหุ้น  ... 

วันนี้ (29 มิ.ย.) ที่รัฐสภา นายประสพสุข บุญเดช ประธานวุฒิสภา ให้สัมภาษณ์ว่า

ขณะนี้ยังไม่ได้รับหนังสือจากคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) ที่มีมติวินิจฉัยให้ 16 ส.ว.ขาดสมาชิกภาพจากการถือหุ้นสัปทานรัฐ เพราะคงต้องใช้เวลาเขียนคำวินิจฉัย จากนี้ไปหากมีข้อมูลใหม่เชื่อว่าอาจจะมีการเปลี่ยนแปลงหรือทบทวนมติใหม่ ก็ได้ โดยขณะนี้ กกต.กำลังพิจารณาการถือครองหุ้นของ ส.ส. ซึ่งหากมีข้อมูลใหม่ว่ามีการถือหุ้นมาก่อนอาจไม่ผิด อาจเปลี่ยนแปลงมติ 16 ส.ว.ได้ โดยมี ส.ว.บางคนที่ถูกวินิจฉัยบอกกับตนว่า กกต.ไม่เคยเชิญไปชี้แจง บางคนถือหุ้นเพียง 400 บาทแล้วต้องโดนพ้นสภาพก็น่าเห็นใจ บางคนถือหุ้นโดยบริสุทธิ์ใจไม่รู้ว่าขัดรัฐธรรมนูญก็แจ้ง กับป.ป.ช.โดยไม่รู้ กลายเป็นดาบเล่นงานตัวเอง 

เมื่อถามว่าเป็นข้อบกพร่องของรัฐธรรมนูญหรือไม่ นายประสพสุขตอบว่า

ไม่คิดว่าเป็นข้อบกพร่อง แต่เป็นการเขียนไม่ชัดเจน กกต.อาจจะตีตามบทของกฎหมาย อย่างไรก็ตามในกรณีนี้ กกต.ควรศึกษาและประกาศบัญชีรายชื่อบริษัทที่ต้องห้ามไม่ให้นักการเมือง เข้าไปถือหุ้น ไม่เช่นนั้นจะขัดรัฐธรรมนูญ หากนักการเมืองรู้คงไม่มีใครไปถือหุ้น ทั้งนี้ต้องยอมรับว่ามี ส.ว.หลายคนกังวล บางคนถึงกับกินไม่ได้นอนไม่หลับ ไม่เกิดกับใครก็ไม่รู้ แต่ขออย่ากังวล เพราะเชื่อว่ามีเวลายาวนาน กว่าเรื่องจะมาถึงตนและศาลรัฐธรรมนูญ

นอกจากนี้ นายประสพสุข ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่กลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.)  จะล่ารายชื่อประชาชนจำนวน 1 ล้านชื่อ เพื่อถวายฎีกาขอพระราชทานอภัยโทษให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีว่า

การขอพระราชทานอภัยโทษ ตามปกติแล้วคนต้องโทษต้องขอพระราชทานอภัยโทษเอง ไม่เคยมีคนอื่นมาขอพระราชทานให้ ไม่แน่ใจว่าสามารถทำได้หรือไม่ แต่ที่ผ่านมาไม่เคยมี คนที่ต้องโทษเมื่อคดีเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ก็ต้องดำเนินการขอพระราชทานอภัยโทษด้วยตนเอง ดังนั้นพ.ต.ท.ทักษิณต้องกลับมาดำเนินการเอง เมื่อถามว่าการกระทำดังกล่าวจะเป็นการระคายเคืองเบื้องพระยุคลบาทหรือไม่ นายประสพสุขตอบว่า อาจจะไปรบกวนเบื้องพระยุคลบาทได้ เพราะนำสถาบันมายุ่งกับการเมือง