เป้าหมาย & กิจกรรม 24ชม .เสื้อแดงเขย่ากรุง

แกนนำกลุ่มเสื้อแดง แถลงรายละเอียดการชุมนุมใหญ่ของกลุ่มคนเสื้อแดงทั่วประเทศ ที่ท้องสนามหลวงในเย็นวันเสาร์ ที่ 27 มิถุนายนนี้ มีเป้าหมาย & กิจกรรม อะไรบ้าง 2 ผู้นำภาคเอกชน เตือนม็อบรุนแรงทำชาติพัง !

นายวีระ มุสิกพงศ์ แกนนำกลุ่มเสื้อแดง และคณะ ร่วมแถลงข่าวที่ร้านอาหารสุธี อ.เมืองศรีสะเกษ เมื่อวันที่ 26 มิถุนายน ถึงรายละเอียดการชุมนุมใหญ่ของกลุ่มคนเสื้อแดงทั่วประเทศ ที่ท้องสนามหลวงในเย็นวันเสาร์ ที่ 27 มิถุนายนนี้ พร้อมรายละเอียดต่างๆ

วัตถุประสงค์


24 มิถุนายนถึง 27 มิถุนายน เป็นช่วงสำคัญของประวัติศาสตร์การเมืองไทย คือในวันที่ 24 มิถนุายน เป็นวันเปลี่ยนแปลงการปกครองของประเทศ และวันที่ 27 มิถุนายน เป็นวันพระราชทานรัฐธรรมนูญชั่วคราวฉบับแรก ประกอบกับรัฐบาลนี้บริหารประเทศมาเป็นเวลา 6 เดือนควรที่คนเสื้อแดงจะได้มาชุมนุมกันเพื่อพิจารณาผลงานของรัฐบาล ในขณะเดียวกันก็ได้ประกาศจุดยืนซึ่งเราถือว่ากลุ่มคนเสื้อแดงก็คือประชาชนที่มีความรักในระบบประชาธิปไตยและปรารถนาให้บ้านเมืองเป็นประชาธิปไตย

กลุ่มเสื้อแดงจะชุมนุมในวันที่ 27 มิถุนายน เวลา 16.00 น. ไปจนถึงหกนาฬิกาของวันที่ 28 มิถุนายน คือหนึ่งคืนเต็มๆ และจะมีเรื่องราวบนเวทีมากมาย

กิจกรรม
กลุ่มเสื้อแดงนัดชุมนุมใหญ่ครั้งแรกที่สนามหลวง ครั้งที่สองวางเป้าหมายลากไปถึงอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ครั้งที่สามไปกองทัพบก และครั้งที่สี่ไปปิดล้อมทำเนียบรัฐบาลเหมือนเดิม

ในการชุมนุมใหญ่นัดแรกวันที่ 27 มิถุนายนนี้ แกนนำกลุ่มเสื้อแดงจะประกาศจุดยืนบนเวทีต่อพี่น้องประชาชนครั้งนี้ โดยฉากหลังของเวทีจะขึ้นข้อความว่า "สืบเจตนาคณะราษฎร์ โค่นรัฐบาลอำมาตยาธิปไตย ท้วงคืนประชาธิปไตย ยุบสภา"

รายการบนเวทีจะมีการปราศรัย สลับกับการแสดงชุดต่างๆ จะไม่มีการเคลื่อนขบวนไปที่ใด ไม่มีการดาวกระจาย ยึดประท้วงแบบสงบสันติปราศจากอาวุธ

เป้าหมาย


1.โค่นล้มอำมาตยาธิปไตยและการเลือกปฏิบัติสองมาตรฐาน
2.โค่นล้มรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ซึ่งบริหารภายใต้อำมาตยาธิปไตยและไม่มีความสามารถในการบริหาร สร้างความเสียหายให้กับประเทศ ไม่มีความจริงใจในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ โดยจะประกาศบนเวทีเรียกร้องให้นายอภิสิทธิ์ประกาศยุบสภา

กิจกรรม


ออกหนังสือพิมพ์ราย 3 วัน แบบแท็บลอยด์ ชื่อว่า "มหาประชาชน" ฉบับ "ความจริงวันนี้"วางจำหน่ายในวันที่ 27 มิถุนายน ภายในประกอบด้วยนักเขียนหมายเกณฑ์ นายวีระ มุสิกพงศ์ ในคอลัมน์ "วีระนำทัพ"นายจตุพร พรหมพันธุ์ ในคอลัมน์ "สถานีแดง" นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ในคอลัมน์ "วงเล็บตัวเล็กๆ" และนายวิสา คัญทัพ

ใน คอลัมน์ "กวีศรีประชา" ส่วนนักเขียนจร อาทิ นายมานิตย์ จิตต์จันทร์กลับ นายจรัล ดิษฐอภิชัย และ นพ.เหวง โตจิราการ

ไฮไลต์อยู่ที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ได้เขียนต้นฉบับส่งทางโปสการ์ดมาจากดูไบแล้วเป็นฉบับแรก ในชื่อคอลัมน์ "จากแดนไกล" ภาพโปสการ์ดเป็นรูปการถมทะเลเป็นรูปต้นปาล์มทำเป็นที่อยู่อาศัยและโรงแรม มีรถไฟฟ้าวิ่งเข้าไปในพื้นที่ ส่วนด้านหลังเขียนว่า

"เรียนพี่วีระและทีมงานความจริงวันนี้ ผมทราบว่า 27 มิถุนายนนี้ จะเปิดหนังสือความจริงวันนี้ ผมขอแสดงความยินดีด้วย และขอแสดงความยินดีกับคนไทยที่รักประชาธิปไตยที่จะบริโภคสื่อที่จะนำความจริงให้ประจักษ์ ขณะนี้ผมยังอยู่ที่ดูไบ อากาศร้อนมากประมาณ 42 องศา เดือนหน้าคงจะถึง 50 องศา ผมสบายดีครับแต่ก็เหงา อยากกลับบ้านเต็มที่แล้ว รักและคิดถึงมากครับ...ป.ล.ขอขอบคุณพี่น้องมากครับที่ยังไม่ลืมผมโดยเฉพาะสกลนคร "

----------------------------------------

2ผู้นำภาคเอกชน  เตือนม็อบรุนแรงชาติพัง !
 
สันติ วิลาสศักดานนท์   ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย

ภาคเอกชนมีความกังวลใจกรณีที่กลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ได้ประกาศนัดชุมนุมที่สนามหลวง โดยห่วงว่า อาจเกิดเหตุการณ์ความรุนแรงขึ้นอีก ซึ่งจะยิ่งซ้ำเติมให้เศรษฐกิจ และความเชื่อมั่นของนักลงทุนลดลงไป ตอนนี้ประเทศชาติเริ่มมีความหวังขึ้นมาได้บ้าง หลังรัฐบาลและเอกชนร่วมมือกันกอบกู้สถานการณ์ และออกมาตรการต่างๆ เพื่อแก้ปัญญา แต่หากเกิดความวุ่นวายทางการเมืองขึ้นอีก ก็จะยิ่งกระทบเศรษฐกิจของประเทศ และซ้ำเติมภาคธุรกิจที่ประสบปัญหาด้านการชะลอตัวทางเศรษฐกิจ การส่งออก และการท่องเที่ยว ที่สาหัสอยู่แล้ว

ขณะนี้เศรษฐกิจไทยเริ่มฟื้นตัวขึ้นตามภาวะเศรษฐกิจโลก ทั้งการจ้างงาน การลงทุน และความเชื่อมั่นที่เริ่มปรับตัวดีขึ้น ประกอบกับรัฐบาลจะสามารถนำงบฯกระตุ้นเศรษฐกิจในไตรมาสที่ 4 หลัง พ.ร.ก.กู้เงิน 4 แสนล้านบาท ผ่านความเห็นชอบจากรัฐสภา รวมทั้งการออกพันธบัตรออมทรัพย์วงเงิน 5 หมื่นล้านบาท ในเดือนกรกฎาคมนี้ จะทำให้มีเม็ดเงินกระตุ้นเศรษฐกิจและทำให้ประชาชนใช้จ่ายมากขึ้น

ภาคเอกชนยังมีความสบายใจว่า จะไม่เกิดปัญหาความรุนแรง เพราะกลุ่มผู้ชุมนุมออกมายืนยันว่าจะไม่ใช้แผนพระเจ้าตาก (แผนตากสิน 2) ในการเคลื่อนไหวชุมนุมกดดันรัฐบาล ซึ่งก็คงต้องติดตามสถานการณ์ เพราะตอนนี้ทุกคนกำลังหวาดผวาเหตุการณ์จะซ้ำรอยเดือนเมษายน ที่คนเสื้อแดงก่อเหตุรุนแรงกลางกรุง

------------------------------------------------

สุรพล ศรีตระกูล   นายกสมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว (แอตต้า)

แอตต้ามีความกังวลกับเหตุความเคลื่อนไหวทางการเมือง ล่าสุดการนัดชุมนุมของกลุ่มเสื้อแดง ที่มีขึ้นในวันนี้ (27 มิ.ย.) จะทำให้ความพยายามที่จะฟื้นฟูการท่องเที่ยวให้กลับเข้าสู่ภาวะปกติด้วยงบประมาณจำนวนมากคงจะสูญเปล่า และหากมีภาพความวุ่นวายเกิดขึ้นซ้ำอีกจะทำให้ช่วงปลายปีนี้ประเทศไทยคงหมดหวังที่จะเข้าสู่ฤดูไฮซีซั่นเหมือนทุกๆ ปี ทั้งที่เป็นช่วงเวลาที่ภาคเอกชนต่างรอคอย

วันนี้ทุกประเทศทั่วโลกได้รับผลกระทบจากวิกฤตเศรษฐกิจ ซึ่งประเทศไทยน่าจะฉวยโอกาสนี้ นำเสนอความคุ้มค่าเงินหากนักท่องเที่ยวเลือกที่จะมาประเทศไทย แต่เรากลับมีความวุ่นวายทางการเมืองมาอย่างต่อเนื่อง ที่ร้ายแรงที่สุด คือภาพของผู้นำแต่ละประเทศต้องบินกลับอย่างฉุกเฉิน จากการเข้าล้มการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนที่พัทยาเมื่อเมษายนที่ผ่านมา ทำให้ภาพลักษณ์ประเทศไทยด้านความปลอดภัยหมดสิ้น ซึ่งหากการเมืองของประเทศยังไม่นิ่งแบบนี้ เชื่อว่า ประเทศไทยคงต้องอยู่แบบโลว์ซีซั่นแบบนี้ต่อเนื่องไปถึงปีหน้าอย่างแน่นอน

แอตต้ามั่นใจว่าประเทศไทยเป็นจุดหมายปลายทางที่นักท่องเที่ยวต่างชาติต้องการเดินทางเข้ามา แต่เขาก็ต้องพิจารณาด้วยว่า มีความสงบเรียบร้อย เพียงพอที่เขาจะมาท่องเที่ยวหาความสุขหรือเปล่า โดยเฉพาะกลุ่มผู้ที่ยังไม่รู้จักประเทศไทยมากนักจะมีความกังวลสูง

อย่าลืมว่าท่องเที่ยวเป็นอุตสาหกรรมที่สร้างรายได้เป็นเงินตราเข้าประเทศได้จำนวนมาก จึงอยากขอความร่วมมือจากทุกฝ่ายให้ความร่วมมือช่วยพลิกฟื้นวิกฤตของอุตสาหกรรมท่องเที่ยวในครั้งนี้ มิฉะนั้นแล้ว เชื่อว่าถึงสิ้นปี อาจมีผู้ประกอบการต้องเลิกกิจการจำนวนมาก เพราะทนแบกรับภาระหนี้สินไม่ไหว ถึงตอนนั้นจะเกิดคนตกงานจำนวนมาก

---------------------------------------

แผน"นครบาล"   ทุ่ม5พันนายรับมือ

พล.ต.ท.วรพงษ์ ชิวปรีชา ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) มีคำสั่งถึงผู้บังคับการตำรวจนครบาล 1-9 (ผบก.น. 1-9) ผู้บังคับการตำรวจปฏิบัติการพิเศษ (ผบก.ตปพ.) ผู้บังคับการตำรวจจราจร (ผบก.จร.) ทราบว่า นปช.จะระดมมวลชนร่วมชุมนุมเรียกร้องทางการเมืองที่สนามหลวง และอาจเคลื่อนขบวนมายังบริเวณทำเนียบรัฐบาล และพื้นที่ต่อเนื่องในวันที่ 27 มิถุนายน ดังนั้น เพื่อให้ภารกิจเป็นไปด้วยความเรียบร้อยและเกิดประสิทธิภาพสูงสุด จึงให้แต่ละหน่วยจัดกำลังตำรวจปราบจลาจล (ปจ.)
 
ปฏิบัติภารกิจตามที่ได้รับมอบหมาย ระหว่างวันที่ 27-28 มิถุนายน ดังนี้

1.ห้ามพกพาอาวุธปืนหรือสิ่งที่อาจใช้เป็นอาวุธร้ายแรงได้เข้าไปในพื้นที่ปฏิบัติการเป็นอันขาด

2ให้เจรจาต่อรอง และประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนทราบก่อนในการปฏิบัติในแต่ละขั้นตอนทุกครั้ง และกำลังพลทุกนายต้องมีความอดทน อดกลั้น ห้ามตอบโต้หรือใช้ความรุนแรง

3.ให้กองร้อย ปจ.ที่ปฏิบัติภารกิจบริเวณสนามหลวง ทำเนียบรัฐบาล และ บช.น.จัดกำลังควบคุมดูแลป้องกันกล้องวงจรปิดที่ติดตั้งไว้ในบริเวณดังกล่าว จัดเตรียมอุปกรณ์ไฟฉาย เสื้อกันฝน หมวก กุญแจมือ เครื่องเปล่งเสียงชนิดพกพา โล่ หมวกให้พร้อมใช้ตลอดเวลา ส่วนกระบองให้รวมไว้ที่รถขนส่งกำลัง

4.ให้ทุก สน.ตั้งจุดตรวจค้นพิเศษ โดยให้เพิ่มจุดตรวจค้นเพิ่มความถี่ในการดำเนินการครอบคลุมพื้นที่ป้องกันเหตุให้ได้มากที่สุด และหากกำลังไม่เพียงพอ สามารถขอกำลังสนับสนุนจากกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค (บช.ภ.) 1, 2, 7 กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) และกองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน (ตชด.)

บช.น.จัดเตรียมไว้ดูแลรักษาความสงบเรียบร้อยรวม 33 กองร้อย หรือ 4,890 นาย

วางกำลังรับผิดชอบตั้งแต่เวลา 00.01-12.00 น. วันที่ 27 มิถุนายน บริเวณสนามหลวง 4 กองร้อย 600 นาย ทำเนียบ 13 กองร้อย เตรียมพร้อม ณ ที่ตั้ง พร้อมสนับสนุนภายใน 1 ชั่วโมง 10 กองร้อย 1,500 นาย ส่วน ภ. 1, 2, 7, ป. และ ตชด. พร้อมสนับสนุนภายใน 2 ชั่วโมง จำนวน 6 กองร้อยหรือ 900 นาย

เครดิต :
เครดิต :เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์มติชน


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์