บ้านท่าพระอาทิตย์ 25 มิ.ย.- พันธมิตรฯ ส่ง “พล.ต.จำลอง-พิภพ” ทวงถามความคืบหน้าผลการสอบสวนการสลายการชุมนุม 7 ต.ค.51 จากประธาน ป.ป.ช.พรุ่งนี้ (26 มิ.ย.) เรียกร้อง “สุเทพ” แจงความคืบหน้าการสืบสวนหาคนร้ายยิง “สนธิ” ไม่วิตกกลุ่มเสื้อแดงเตรียมเคลื่อนไหว ชี้ขึ้นอยู่กับการดำเนินการของรัฐบาล
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (25 มิ.ย.) แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย
นำโดย นายสนธิ ลิ้มทองกุล นายพิภพ ธงไชย พล.ต.จำลอง ศรีเมือง นายสมศักดิ์ โกศัยสุข นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ พร้อมด้วยนายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานพันธมิตรฯ ได้ประชุมร่วมกันที่บ้านท่าพระอาทิตย์ และมีมติทวงถามความคืบหน้าเหตุการณ์สลายการชุมนุมของประชาชนเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2551
นายสุริยะใส กล่าวว่า ขณะนี้เหตุการณ์ดังกล่าว ผ่านมาแล้ว 8 เดือน และกำลังจะครบ 1 ปี
ผลการสอบสวนของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ได้เปิดตัวคนที่เกี่ยวข้องและต้องรับผิดชอบส่งให้รัฐบาลแล้ว และยังมีผลการสอบของคณะอนุกรรมาธิการประจำวุฒิสภาสรุปออกมาแล้ว ว่าใครเกี่ยวข้องกับการปราบปรามประชาชนบ้าง รวมทั้งอนุกรรมการชุดดังกล่าว ได้ส่งเรื่องไปยังคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) โดยมีรายงานว่ามีข้าราชการและตำรวจที่ต้องรับผิดชอบ และมีความพยายามจะนำเรื่องเข้าสู่ที่ประชุม ป.ป.ช.ชุดใหญ่ แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่มีการบรรจุเข้าระเบียบวาระ ดังนั้น ในวันพรุ่งนี้ (26 มิ.ย.) เวลา 09.00 น. พันธมิตรฯ จะส่ง พล.ต.จำลอง และนายพิภพไปยื่นหนังสือทวงถามความคืบหน้าจากประธาน ป.ป.ช.ว่าเหตุใดจึงไม่มีการดำเนินการ
“ขอตั้งคำถามประธาน ป.ป.ช.ว่ามีผลประโยชน์ทับซ้อน หรือความขัดกันตามหน้าที่หรือไม่ เพราะทราบว่าประธาน ป.ป.ช.เรียนวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร หรือ วปอ. รุ่นเดียวกับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ซึ่งเป็นพี่ชายของ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ซึ่งมีชื่อเกี่ยวโยงในผลสรุปหรือไม่ อีกทั้งลูกชายของประธาน ป.ป.ช.รับราชการเป็นนายตำรวจ จึงไม่ทราบว่าเป็นมูลเหตุให้มีการทอดเวลาออกไปหรือไม่ เพราะหลังต้นเดือนกรกฎาคมนี้ จะมีการแต่งตั้งโยกย้าย ดังนั้นเรื่องนี้ต้องชี้แจงและสร้างบรรทัดฐานให้เกิดขึ้น” นายสุริยะใส กล่าว
นายสุริยะใส กล่าวว่า นอกจากนี้ ตนได้รับมอบหมายจากนายสนธิให้ทวงถามความคืบหน้าการสืบสวนหาตัวคนร้ายที่ยิงนายสนธิ
เพราะผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ มีท่าทีนิ่งเฉย และนายกรัฐมนตรี นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี เลือกที่จะไม่พูด ทั้งที่เป็นคดีอุกอาจ ท้าทาย และทราบว่าอาจมีเหตุให้จับผู้กระทำผิดไม่ได้ เนื่องจากมีรายงานว่ามีกระบวนการ โดยมีนายพลใหญ่คนหนึ่งเรียกพนักงานสอบสวนบางคนไปข่มขู่ และมีความพยายามปล่อยข่าวเพื่อบิดเบือนรูปคดี ดังนั้น ขอเรียกร้องให้นายสุเทพรายงานความคืบหน้า และอย่าให้มีการคุกคามระบบการสอบสวน เพราะถ้าเป็นจริง จะทำให้ประชาชนไม่ไว้วางใจ
ส่วนที่มีข่าวเรื่องแผนตากสินและความเคลื่อนไหวของกลุ่มคนเสื้อแดง นายสุริยะใส กล่าวว่า ในที่ประชุมไม่ได้มีการวิเคราะห์เรื่องดังกล่าว
แต่ไม่ได้เพิกเฉยต่อการเคลื่อนไหวของกลุ่มคนเสื้อแดง และกลุ่มการเมืองในสภาฯ แต่การดำเนินการกรณีแผนตากสิน เป็นเรื่องของรัฐบาลที่ต้องพิจารณา ถ้าผิดกฎหมาย ก็ต้องดำเนินคดี ด้าน พล.ต.จำลอง กล่าวว่า ในการไปทวงถาม หวังว่าจะได้คำตอบ เพราะถามกับ ประธาน ป.ป.ช. ซึ่งมีหน้าที่โดยตรง เรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ คุกคามความปลอดภัยของคนทั้งประเทศ และไม่สามารถตอบได้ว่าถ้าไม่ดำเนินการแล้วจะเกิดอะไรขึ้น เพราะไม่อยากคาดเดาไปก่อน และไม่วิตกกังวลกับการเคลื่อนไหวของกลุ่มคนเสื้อแดง เพราะพวกตนไม่เคยเห็นใครเป็นศัตรู แต่จะติดตามถึงผลที่เกิดขึ้น ถ้าเกิดผลเสีย ก็จะพิจารณาว่าจะสามารถช่วยเหลือประเทศชาติอย่างไร แต่ขณะนี้เป็นหน้าที่ของรัฐบาล และขอยืนยันว่าแม้จะมีการรับรองพรรคการเมืองใหม่ แต่พันธมิตรฯ ยังคงทำงานร่วมกัน ไม่ได้แปลกแยก โดย 5 แกนนำจะชี้แนะการทำงานของพรรค แต่จะแบ่งบทบาท โดยถ้าเป็นเรื่องการเมือง จะให้นายสมศักดิ์และนายสุริยะใสเป็นผู้ดำเนินการ.-สำนักข่าวไทย