วันนี้ (24 มิ.ย.) ที่ห้องรับรองพิเศษ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี
ให้สัมภาษณ์ถึงปัญหาการบังคับใช้มาตรา 265 ของรัฐธรรมนูญ 2550 การถือครองหุ้นของ ส.ส.ที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) จะชี้มูลความผิดกับ ส.ส. 44 คนว่า ศาลรัฐธรรมนูญยังไม่ได้วินิจฉัย แต่เจตนารมย์ของกฎหมายคือเรื่องของการป้องกันผลประโยชน์ที่ขัดกันซึ่งอาจจะต้องมาดูว่าผลประโยชน์ที่จะขัดกันนั้นเกิดจากเงื่อนไขอย่างไร แล้วแต่มุมมองบางคนบอกว่าในเมื่อถือหุ้นไม่มากไม่น่าจะมีผลประโยชน์ขัดกัน แต่บางคนบอกว่าแม้ถือเพียงหุ้นเดียวเป็นผลประโยชน์ขัด กัน ที่จริงแล้วเป็นบทบัญญัติมาตรา 265 ขยายมาจากของเดินในเรื่องสัมปทาน สมัยก่อนชัดเจนว่าใครเป็นเจ้าของสัมปทาน แต่มาตอนหลังองค์กรที่รับสัมปทานกลายเป็นบริษัทจดทะเบียนอยู่ใน ตลาดหลักทรัพย์ แต่พอเป็นบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ หลายคนมองว่าถ้าถือหุ้นเพียงเล็กน้อยไม่น่านับว่าจะสามารถเป็นผู้ไปจัดการเรื่องสัมปทานโดยตรงเลยเป็นปัญหาขึ้นมาในการตีความเท่านั้นเอง แต่ไม่ว่าศาลรัฐธรรมนูญจะตีความมาอย่างไรทุกคนต้องยอมรับ และถ้าหมายถึงว่าส.ส.ต้องพ้นสภาพต้องยอมรับ และคิดว่าทุกคนพร้อมปฏบัติและเชื่อว่าถ้ารู้ตั้งแต่แรกว่าการถือครองหุ้นไม่ ได้คงไม่ถือ
เมื่อถามว่า คิดว่าควรแก้ไขมาตรานี้หรือหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ตนว่าเจตนารมย์ดีแต่ถ้าจะกำหนดอะไรต่อจากนี้ไป ต้องทำให้ชัดเจนที่สุดคนจะได้เข้าใจได้ง่าย
เมื่อถามว่า หากศาลรัฐธรรมนูญชี้ว่าต้องพ้นสภาพ ส.ส.รัฐมนตรีจะพ้นความเป็นรัฐมนตรีด้วยหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า บทบัญญัติที่เป็นปัญหากับส.ส.ในขณะนี้เจาะจงไป 2 ส่วนคือบริษัทที่เกี่ยวกับสื่อมวลชน เพราะไม่ต้องการให้นักการเมืองมีอิทธิพลเหนือสื่อมวลชนและบริษัทที่รับสัมปทานจากรัฐเพราะเกรงว่าจะเกิดผลประโยชน์ขัดกัน แต่ตนจำไม่ได้ว่าบทบัญญัติดังกล่าวใช้กับรัฐมนตรีด้วยหรือไม่ แต่สันนิษฐานว่าน่าจะใช้ด้วยเพียงแต่บางคนขายหุ้นไปก่อนจะมาดำรงตำแหน่ง รัฐมนตรี ซึ่งถ้าขายไปก่อนก็ไม่ขาดคุณสมบัติรัฐมนตร เมื่อถามว่า แสดงว่าแม้ต้องพ้นสภาพส.ส.ยังเป็นรัฐมนตรีต่อไปได้ เช่น นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคงขายหุ้นไปก่อนรับตำแหน่ง นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า จริงๆเขาไม่ได้ทำผิดกฎหมายอะไรในฐานะรัฐมนตรี
เมื่อถามว่า นายกฯจะนัดพรรคร่วมรัฐบาลรับประทานอาหารอีกหรือไม่ เพราะช่วงนี้นายกฯไม่ค่อยมีเวลา วันก่อนพรรคร่วมเลยไปหากินกันเอง
นายอภิสิทธิ์ หัวเราะก่อนกล่าวว่า "เขามีกินครับ ไม่ต้องห่วง" เมื่อถามอีกว่า นายกฯมีแนวคิดนัดกันอีกหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า พบกันเป็นระยะๆอยู่แล้ว เมื่อถามว่า จะฝากนายสุเทพไปบอกอะไรกับพรรคร่วมในงานเลี้ยงวันคล้านวันเกิดนายไตรรงค์ สุวรรณคีรี ส.ส.สัดส่วนพรรคประชาธิปัตย์ ที่โรงแรมดิเอ็มเมอรัลด์หรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ไม่คือไม่มีปัญหาอะไรเลย ในการนัดรับประทานอาหารของพรรคร่วมเมื่อวันที่ 22 มิ.ย.ที่ผ่านมาจะนัดกันตอนแรกนายนิพนธ์ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการนายก รัฐ มนตรีจะไปร่วมแต่นายนิพนธ์ต้องไปสิงคโปร์กับตนเลยไม่ได้ไปเท่านั้นเอง เมื่อถามว่า ไม่ใช่ว่าพรรคร่วมได้โอกาสไปสุมหัวกันตอนนายกฯไม่อยู่ใช่หรือไม่ นายอภิสิทธิ์ส่ายหน้าก่อนตอบว่า ไม่มีหรอก สุมทำอะไร