ที่รัฐสภา วันนี้ (24 มิ.ย.) นายกรณ์ จาติกวณิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง
กล่าวถึงกรณีที่ประชุมวุฒิสภาคว่ำร่าง พ.ร.ก.แก้ไขเพิ่มเติมพ.ร.บ.พิกัดอัตราภาษีสรรพสามิตว่า เมื่อมีการเพิ่มภาษีสรรพสามิตก็จะปรับลดการจัดเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมัน ซึ่งจะเท่ากับพิกัดอัตราภาษี ยืนยันการปรับภาษีไม่ส่งผลให้ประชาชนเดือดร้อน แต่ราคาน้ำมันที่สูงขึ้นขณะนี้เป็นไปตามราคาน้ำมันตลาดโลก เมื่อราคาตลาดโลกสูงขึ้นย่อมส่งผลต่อราคาหน้าปั้มที่ต้องสูงตาม ทั้งนี้ ยังคงยืนยันตามมติเดิมของสภาผู้แทนราษฎร เป็นหน้าที่ของสภาฯที่ต้องพิจารณาอีกครั้ง รัฐบาลจะนำเข้าสู่การพิจารณาทันทีเมื่อเปิดสมัยประชุม เมื่อถามว่าในอนาคตถ้ามีการเพิ่มค่าครองชีพ จะนำเรื่องภาษีน้ำมันมาช่วยด้วยหรือไม่ นายกรณ์ กล่าวว่า ต้องพิจารณาทบทวนให้รอบคอบ เพราะการตัดเรื่องดังกล่าวออกจากโครงการ 6 เดือน 6 มาตรการช่วยประชาชน ขณะนั้นราคาน้ำมันตลาดโลกอยู่ที่ 140 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อบาร์เรล แต่ขณะนี้ขึ้นๆ ลงๆ อยู่ที่ 70 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อบาร์เรล จึงต้องพิจารณาให้รอบคอบว่าเหมาะสมอย่างไร
นายกรณ์ กล่าวต่อว่า หากรัฐบาลประเมินสถานการณ์แล้วเห็นว่า จำเป็นต้องมีการช่วยเหลือด้วยการลดภาษี เราก็ต้องพิจารณา ไม่ได้ดื้อรั้น
แต่ก็ไม่อยากให้ราคาน้ำมันถูกเกินไปจนทำให้ประชาชนใช้จ่ายพลังงานอย่างฟุ่มเฟือย เมื่อถามว่ารัฐวิสาหกิจจะขอเพิ่มค่าครองชีพเดือนละ 2,000 บาท รัฐบาลมีกรอบพิจารณาอย่างไร นายกรณ์กล่าวว่า ในที่ประชุม ครม. ได้พิจารณาโดยเห็นใจทุกฝ่าย แต่เราต้องพิจารณาเพื่อให้เกิดความยุติธรรมกับประชาชนทุกกลุ่ม ข้อเท็จจริงมี 2 หน่วยงานที่ขอให้ปรับคือ การประปานครหลวง (กปน.) และการไฟฟานครหลวง (กฟน.) ซึ่ง ครม.เห็นว่าการให้ขึ้นเป็นบางหน่วยไม่ยุติธรรมกับอีก 55 รัฐวิสาหกิจ ดังนั้นถ้าจะพิจารณาก็ต้องพิจารณาให้ครบถ้วนทั้งหมด รวมถึงพิจารณารัฐวิสาหกิจที่มีกำไรและขาดทุน รัฐวิสาหกิจที่มีกำไรอาจไม่มีเหตุผลที่ดีพอ จึงมอบให้แต่ละหน่วยงานกลับไปพิจารณา ว่าจะช่วยเหลืออย่างไรไม่ให้เป็นภาระกับงบประมาณมากเกินไป และยุติธรรมกับทุกองค์กร
นอกจากนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ยังกล่าวถึงความคืบหน้าเรื่องการแปรรูปตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ว่า ได้พูดคุยกันในที่ประชุมคณะกรรมการพัฒนาตลาดทุน
มีข้อเสนอว่าการปรับโครงสร้างของตลาดหลักทรัพย์ เป็นเงื่อนไขสำคัญที่จะนำไปสู่การพัฒนาตลาดหลักทรัพย์ ตนแม้จะเป็นประธานคณะกรรมการฯ แต่ก็ไม่สามารถตัดสินใจได้เพียงผู้เดียว ต้องไปดูผลได้ผลเสีย ที่ผ่านมาจากการศึกษาพบว่าผลประโยชน์ที่จะได้ มีมากกว่าผลเสีย รัฐบาลมีจุดยืนและเงื่อนไขสำคัญคือ เราไม่อยากโอนสถานการณ์มีอำนาจผูกขาดทางตลาดจากรัฐไปสู่ภาคเอกชน เหมือนการแปรรูปรัฐวิสาหกิจ ซึ่งคณะกรรมการจะมีการประชุมหารือในเรื่องนี้ ไม่เกิน 2 เดือนคงจะได้ข้อสรุป นอกจากเรื่องของตลาดหลักทรัพย์ ก็จะมีเรื่องตารางการเปิดเสรีค่าคอมมิชชั่นในส่วนของการซื้อขายหุ้นโดยโบรกเกอร์ และข้อเสนอแนะต่อการปฏิรูปตลาดทุนครั้งสำคัญ
เข็นเข้าสภาฯอีก ภาษีน้ำมัน กรณ์ลั่นไม่ถอย
หน้าแรกTeeNee ที่นี่ข่าววันนี้, ข่าวหน้าหนึ่ง ข่าวการเมือง เข็นเข้าสภาฯอีก ภาษีน้ำมัน กรณ์ลั่นไม่ถอย
เครดิต : ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!


กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
























กระทู้ล่าสุด


รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
















































Love illusion ความรักลวงตา เพลงที่เข้ากับสังคมonline
Love illusion Version 2คนฟังเยอะ จนต้องมี Version2กันทีเดียว
Smiling to your birthday เพลงเพราะๆ ไว้ส่งอวยพรวันเกิด หรือร้องแทน happybirthday