ผลการเลือกตั้งส.ส. เขต 3 สกลนคร นางอนุรักษ์ บุญศล จากพรรคเพื่อไทย ชนะท่วม ท้นถึง 83,348 คะแนน ทิ้งห่าง นายพิทักษ์ จันทศรี จากพรรคภูมิใจไทย ที่ได้ 47,235 คะแนน
บางฝ่ายมองว่าไม่น่าแปลกใจเพราะเป็นพื้นที่เดิมของพรรคเพื่อไทย ขณะที่อีกฝ่ายมองว่าพลิกล็อก เพราะกระแสพรรคภูมิใจไทยกำลังมาแรง
ทั้งผู้ชนะ-ผู้แพ้ ได้เปิดใจถึงปัจจัยต่างๆ ที่ส่งผลต่อการเลือกตั้ง ดังนี้
พิทักษ์ จันทศรี
พรรคภูมิใจไทย
การเลือกตั้งซ่อมเขต 3 สกลนคร มีความพยายามดึงให้เป็นการแข่งขันระหว่างพ.ต.ท.ทักษิณ กับนายเนวิน ชิดชอบ
มีการแจกใบปลิวโจมตีนายเนวินว่าทรยศ แล้วโยงมาหาผมว่าถูกนายเนวินทำร้าย เพราะทำคะแนนเลือกตั้งล่วงหน้าไม่ถึง 5 หมื่นคะแนน นายเนวินเลยตบ ทำร้ายผม ซึ่งผมไม่มีโอกาสแก้ต่าง
ชาวบ้านได้ยินข่าวก็โทร.มาถามผม เชื่อว่าผมโดนทำร้าย ซึ่งมีผลมากในพื้นที่
พ.ต.ท.ทักษิณยังใช้วิธีโฟนอิน โทร.สายตรงไปหานายก อบต. กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ส่งจดหมายมาขอร้องให้ช่วยผู้สมัครเบอร์ 2 ผู้ใหญ่พรรคเพื่อไทยยังพูดตลอด ว่าพ.ต.ท.ทักษิณเป็นหัวหน้าพรรคตัวจริง
บ้านเลขที่ 111 และ 109 ยังดาวกระจายในพื้นที่บอกว่ามารณรงค์เรื่องประชาธิปไตย แต่มาหาเสียงให้เบอร์ 2 โจมตีรัฐบาล ใส่ร้ายว่ามีการจ่ายเงินกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน บังคับข่มขู่
มีการเอาเสื้อแดงจังหวัดอื่นเช่น อุดรธานี มารณรงค์หาเสียง ทำให้วันที่ 21 มิ.ย.กลายเป็นการเลือกสี ไม่ใช่เลือกผู้แทน เลือกระหว่างพ.ต.ท.ทักษิณกับนายเนวิน
พรรคและผม ต้องขอบคุณ 4 หมื่นกว่าคะแนนที่ยังเชื่อมั่น แม้พรรคเพิ่งเกิดมาได้ 4-5 เดือน ได้คะแนนขนาดนี้เราถือว่าประสบความสำเร็จ เทียบกับพรรคเพื่อไทยที่เป็นเครือข่ายของไทยรักไทย ทำมา 7-8 ปี
ภาคอีสานกระแสพ.ต.ท.ทักษิณมีผลมาก แต่ขึ้นกับพื้นที่และเวลา ต่างกรรมต่างวาระ การเลือกตั้งใหญ่อาจไม่เป็นแบบนี้
การเลือกตั้งซ่อมสกลนครที่เดียว ทีมงานไทยรักไทย-พลังประชาชนโหมลงมาช่วยกระพือกระแสในช่วงเวลาจำกัด หากเลือกตั้งใหญ่ไม่น่าทำได้
ผมถามชาวบ้านว่าทำไมไม่เลือกผม ได้รับคำตอบว่าถ้าเลือกเบอร์ 2 แล้วพ.ต.ท.ทักษิณจะกลับมา ซึ่งหากจะกลับมาจริงก็กลับมาได้ตั้งนานแล้ว ไม่เกี่ยวกัน
ผมไม่ท้อ ตั้งใจว่าครั้งหน้าจะกลับมาสู้ใหม่เพื่อบ้านเมือง
อนุรักษ์ บุญศล
พรรคเพื่อไทย
เหตุที่ลงสมัครเลือกตั้งซ่อม เพราะส.ส.พงษ์ศักดิ์ บุญศล สามีถูกใบแดงจากการปราศรัยหาเสียง และถูกตัดสิทธิ์เลือกตั้ง 5 ปี
เรารู้สึกว่าไม่ยุติธรรม เลยตัดสินใจทวงถามความยุติธรรมจากประชาชน เมื่อเสนอตัวไป พรรคเห็นว่าเราเหมาะสมเลยอนุมัติให้ลงสมัคร จึงลงพื้นที่หาเสียงทันที
การหาเสียงเน้นวิธีเข้าถึงประชาชน เพื่ออธิบายแนวทางนโยบายของพรรคให้ประชาชนทราบว่าไม่ว่าเพื่อไทยจะเป็นรัฐบาลหรือเป็นฝ่ายค้าน จุดยืนคือให้ประชาชนทุกคนมีสิทธิ์เท่าเทียมกัน
เย็นวันที่ 20 มิ.ย. วันสุดท้ายในการหาเสียง ประเมินแล้วว่าสามารถพบปะประชาชนถึง 8.4 หมื่นคน ถือว่าเยอะมาก
ที่สำคัญส.ส.และสมาชิกพรรคให้ความช่วยเหลือกันมาก ทำ ให้ซาบซึ้ง ผู้ใหญ่ในพรรคก็ช่วยลงพื้นที่ปราศรัย ทำให้เราชนะอย่างถล่มทลาย
ปัจจัยที่ทำให้เราชนะมีหลายอย่างประกอบกัน อย่างหนึ่งคือความรู้สึกทางการเมืองของประชาชนในพื้นที่ ที่แสดงออกว่ายังคงยึดมั่นกับนโยบายของพรรคไทยรักไทยที่มาเป็นพรรคพลังประชาชน และเป็นพรรคเพื่อไทย
อีกอย่างคือยังยึดติดกับพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ที่อยู่ในใจของคนอีสาน
เรียกได้ว่าได้เพราะความเชื่อมั่นในนโยบายพรรค และสงสารตัวบุคคล ไม่ว่าจะเป็นพ.ต.ท.ทักษิณ และส.ส.พงษ์ศักดิ์ที่ถูกใบแดง จึงแสดงเจตจำนงออกมาชัดเจน เพราะในพื้นที่นี้ส.ส.พงษ์ศักดิ์ทำงานพื้นที่มากว่า 20 ปี ทำให้ทุกคนเห็นใจ
อีกอย่างจะต้องดูถึงการแข่งขันในพื้นที่ ดิฉันคงพูดไม่ได้มากนักว่าเขาทำกันอย่างไร เพราะตอนนี้กกต.ยังไม่รับรองผลการเลือกตั้ง แต่ทุกอย่างก็เป็นไปตามข่าว มีการใช้ทุกวิถีทาง
ซึ่งกลายเป็นมุมกลับที่ทำให้คนเขาสงสารเรา อยากให้โอกาส แล้วเห็นว่าเราเป็นฝ่ายถูกกระทำ จึงลุกขึ้นมาต่อสู้ด้วยหัวใจสีแดง
สิ่งที่เกิดขึ้นจะทำให้ผู้บริหารของพรรคอื่นได้รู้ถึงมาตรฐานของความคิดเรื่องประชาธิปไตยของคนในพื้นที่นี้
นายศุภชัย ศรีหล้า
ส.ส.อุบลราชธานี
พรรคประชาธิปัตย์
การเลือกตั้งที่จ.สกลนคร ผมมองตั้งแต่ต้นว่าโอกาสที่พรรคภูมิใจไทยจะชนะเป็นไปได้ยาก เพราะหลังจากนายพงษ์ศักดิ์ ถูกใบแดงแล้วมา กอดคอภรรยาร้องไห้ ถือว่าชนะไปแล้วเกินครึ่ง
ยิ่งพรรคภูมิใจไทยส่งคณะใหญ่ลงไปเหมือน จะเหยียบเจ้าถิ่นให้ได้ คะแนนจึงยิ่งตีกลับไปหา ผู้สมัครของพรรคเพื่อไทย
การโฟนอินของพ.ต.ท.ทักษิณ อาจมีส่วนบ้าง แต่ไม่มากเท่าคะแนนสงสารของชาวบ้านในพื้นที่
ผมตกใจมากที่พรรคภูมิใจไทยยกคณะใหญ่ลงไป ภาพมันเหมือนคนถิ่นอื่นจะเข้ามาเอาชนะเจ้าถิ่นให้ได้ แรงต้านจากชาวบ้านในพื้นที่จึงมีมาก
จึงไม่แปลกใจกับผลแพ้ชนะที่ห่างกันถึง 4 หมื่นกว่าคะแนน เพราะยุทธศาสตร์มันผิดพลาด วิธีเอาชนะที่ใช้ในบุรีรัมย์ เอามาใช้ที่สกลนครไม่ได้ เพราะคนละเผ่าพันธุ์กัน มีวิธีคิดแตกต่างกัน
ครั้งนี้จะเป็นบทเรียนให้แกนนำพรรคภูมิใจไทยนำไปปรับใช้กับการเลือกตั้งครั้งต่อไป โดยเฉพาะการเลือกตั้งใหญ่ ซึ่งพรรคประชาธิปัตย์หวังจะใช้พรรคภูมิใจไทยแบ่งจำนวนส.ส.ในภาคอีสานจากพรรคเพื่อไทย
การเลือกตั้งในอีสานจะใช้กำลังอย่างเดียวไม่ได้ เพราะมีเรื่องจิตใจเข้ามาด้วย
หากการเลือกตั้งครั้งนี้เป็นการเลือกตั้งทั่วไป ผลอาจต่างออกไป เพราะไม่มีเรื่องคะแนนสงสารเข้ามาเกี่ยวข้อง แต่จะสู้กันที่ตัวหัวหน้าพรรคและนโยบายพรรค ชาวบ้านจะนำมาวางเรียงกันเพื่อเลือกว่าพรรคไหนดีที่สุด
แต่ส่วนตัวยังสงสัยว่าถ้าหัวหน้าพรรคภูมิใจไทยยังเป็นนายชวรัตน์ ชาญวีรกูล ชาวบ้านจะเลือกหรือไม่
นางศุภมาส อิศรภักดี
รองโฆษกพรรคภูมิใจไทย
พรรควิเคราะห์สาเหตุที่แพ้ แม้ผลคะแนนเลือกตั้งล่วงหน้า พรรคชนะถึง 4 เท่าตัว แต่ช่วงโค้งสุดท้ายเริ่มเห็นอาการไม่ดี
เพราะเสื้อแดงจัดเวทีปราศรัยหลายทีม ทั้งกลุ่มบ้านเลขที่ 111 บ้านเลขที่ 109 กลุ่มร.ต.อ. เฉลิม และส.ส.พรรคเพื่อไทย ทุกเวทีให้พ.ต.ท. ทักษิณโฟนอินปลุกกระแสให้ประชาชนคลั่งไคล้
พ.ต.ท.ทักษิณยังโทร.สายตรงหากำนัน ผู้ ใหญ่บ้าน ขอให้ช่วยกลับบ้าน ให้เลือกเบอร์ 2 ทำให้ในพื้นที่ละลายหมด เพราะคนไทยใจอ่อน พรรคเริ่มจับปฏิกิริยาที่เปลี่ยนแปลงได้ในพื้นที่แต่คิดว่าจะยันไว้ได้ สุดท้ายพรรคแพ้
สรุปได้ว่าพ.ต.ท.ทักษิณไม่ได้ฟื้น แต่ไม่เคยตายต่างหาก
ยอมรับว่าเราแพ้กระแส แพ้กระสุนของ พ.ต.ท.ทักษิณ และพ.ต.ท.ทักษิณยังเป็นเทวดาของคนอีสาน ประกอบกับเขต 3 เป็นเขตใหญ่ ผู้สมัครเราสู้ไม่ได้จริงๆ
เราเป็นพรรคใหม่เกิดมา 4-5 เดือน นโยบาย ยังเป็นนโยบายลมปาก ไม่มีให้เห็นเป็นรูปธรรม เราต้องใช้เวลา ขณะที่พ.ต.ท.ทักษิณ ทำมา 7-8 ปี
ผู้ใหญ่ของพรรคอย่างนายเนวิน นายสมศักดิ์ เทพสุทิน อาจเสียใจบ้าง เพราะเราทุ่มเทมา 1 เดือน รัฐมนตรีวิ่งหาเสียงเหมือนเด็กแจกใบปลิว แต่ขวัญกำลังใจยังดีมาก อย่างน้อยพรรคก็เป็นที่รู้จัก ติดตลาด และทำให้สมาชิกพรรครักกันมากขึ้น
ยังมีการเลือกตั้งอีกหลายสนาม สมาชิกพรรคไม่ได้หวั่นไหว คนที่ตั้งใจจะย้ายมาอยู่กับเรา ยังยืนยันว่าจะย้ายมา เพราะไม่ได้มองว่าต้องมาเป็น ส.ส. แต่มาอยู่แล้วได้ทำงาน
หากพรรคภูมิใจไทยชนะจะโดนโจมตีว่าโกง ใช้เงินใช้อำนาจรัฐแทรกแซง เราจะโดนรุมสหบาทา โครงการต่างๆ จะถูกเบรกอีก เพราะถูกมองเป็นคู่แข่งที่น่ากลัว
การแพ้ครั้งนี้จึงแพ้แค่เขตเดียว ผู้สมัครแพ้ แต่พรรคไม่ได้แพ้ และผู้ใหญ่ในพรรคไม่พ่ายแพ้เสียใจ ทำให้เรารู้กระแสคนอีสาน
ถือเป็นบทเรียนปรับยุทธศาสตร์นโยบายพรรคในการเลือกตั้งครั้งหน้า
พ.ต.ท.สมชายเพศประเสริฐ
ส.ส.นครราชสีมา พรรคเพื่อไทย
พรรคเพื่อไทยชนะจากปัจจัย 3 ประการคือ 1.ประชาชนในพื้นที่สกลนคร เป็นนักต่อสู้ รักความเป็นธรรม เมื่อพรรคภูมิใจไทยใช้อำนาจรัฐลงไปในพื้นที่มากๆ ให้รัฐมนตรีลงไปช่วยหาเสียง จึงเกิดคำถามในใจประชาชน
2.พรรคเพื่อไทยลงพื้นที่อย่างหนัก จากผลสำรวจคะแนนนิยม ผู้สมัครของพรรคเป็นรองมาตลอด เพราะนายเนวินลงไปกำกับอยู่ในพื้นที่ พรรคจึงต้องปรับตัวอย่างหนัก
3.การเคลื่อนไหวเพื่อทำความเข้าใจกับประชาชน กรณีที่พรรคไม่ได้รับความเป็นธรรม รวมทั้งเรื่องของพ.ต.ท.ทักษิณที่ถูกกระทำ ส่งผล ให้คนที่ยังรักในพ.ต.ท.ทักษิณ และนโยบายพรรคไทยรักไทยที่ยังอยู่กับพรรคเพื่อไทยอย่างชัดเจน
เพราะรัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์เข้ามาแล้วไม่ได้ทำอะไร ไม่ดูแลคนรากหญ้า ซึ่งส่งผลกับการเลือกตั้งครั้งนี้มาก
ยิ่งชาวบ้านไม่ได้รับการดูแลแล้วยังต้องมีภาระหนี้สินจากการออกกฎหมายกู้เงิน จึงเป็นความล้มเหลวของรัฐบาล นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ทำให้ชาวบ้านรู้ว่านโยบายพรรคเพื่อไทย ดูแลประชาชนคนรากหญ้าอย่างเท่าเทียมกัน
นอกจากนี้คนเสื้อแดงและเครือข่ายยังช่วยเหลือพรรคอย่างเต็มที่ ทำให้ม่านสองพันบาทที่พยายามจะจ่ายให้กับประชาชน ไม่สามารถล้มล้างความนิยมของพ.ต.ท.ทักษิณได้
จึงชี้ให้เห็นว่าการเลือกตั้งทั่วไปครั้งหน้าพื้นที่ภาคอีสานจะต่อสู้กันอย่างหนัก พรรคเพื่อไทยไม่ควรมาดีใจ แต่ต้องขับเคลื่อนต่อเพื่อให้การเลือกตั้งประสบความสำเร็จโดยเฉพาะในภาคอีสาน
ผมจะเสนอให้พรรคปรับยุทธศาสตร์ใหม่ ลงไปลุยในพื้นที่ยุทธศาสตร์ของภาคอีสานมากขึ้นโดยเฉพาะในจ.บุรีรัมย์ นครราชสีมา และสุรินทร์ ที่มีการใช้อำนาจรัฐเข้าไปมาก
พรรคต้องเข้าไปทำพื้นที่เพื่อให้พรรคมีส.ส. ให้มากกว่านี้
นายชัย ชิดชอบ
ประธานรัฐสภา สมาชิกพรรคภูมิใจไทย
ไม่ถือเป็นความพ่ายแพ้ เราเหมือนนักมวยใหม่ที่เป็นเด็กเพิ่งขึ้นเวที จะไปสู้นักมวยเก่าที่ซ้อมมาอย่างดีคงไม่ได้ เมื่อขึ้นไปก็ถูกน็อก เป็นเรื่องธรรมดา
แม้พรรคจะมีพี่เลี้ยงดีอย่างนายเนวิน ชิดชอบ ก็ตามแต่ไม่ได้ขึ้นชกเอง
การแพ้ครั้งนี้ถือว่าแพ้ที่ตัวบุคคล ตัวนโยบาย พรรคไม่จำเป็นต้องปรับยุทธศาสตร์ แต่ความพ่ายแพ้จะทำให้ส.ส.ของพรรคเข้มแข็งขึ้น ลงพื้นที่มากขึ้น และไม่ได้หมายความว่าเราจะแพ้ทั้งภาคอีสาน เพราะที่จังหวัดบุรีรัมย์แค่มีชื่อชัย ชิดชอบ ก็ผ่านแล้ว
ไม่ห่วงว่าผลที่ออกมาจะส่งสัญญาณให้ส.ส. พรรคอื่นไม่กล้าย้ายมาอยู่ภูมิใจไทย ส.ส.แต่ละคน มีอุดมการณ์เป็นของตัวเอง อยากอยู่พรรคไหนก็อยู่ได้ มั่นใจว่าการเลือกตั้งหน้า ส.ส.ที่อยู่กับพรรค ภูมิใจไทยจะได้รับเลือกตั้งทุกคน
การที่พรรคเพื่อไทยเอาชื่อพ.ต.ท.ทักษิณ มาชูก็ขายได้แล้ว แต่อยากขอให้พ.ต.ท.ทักษิณกลับมาแก้ปัญหาของตัวเอง โดยเฉพาะคดีความต่างๆ ให้เรียบร้อย เมื่อพ้นตรงนั้นก็กลับมาเป็นนายกฯได้อีกครั้ง
มาแข่งขันให้ถูกต้องตามระบอบประชาธิปไตยจะดีกว่า การเมืองจะได้สงบ
กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
กระทู้ล่าสุด
รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
