วันนี้(21 มิ.ย.)นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง( กกต. )ชี้มูล ส.ว.และส.ส.
ที่ถือครองหุ้นในบริษัทที่เป็นคู่สัปทานกับรัฐว่าผิดมาตรา 265 ของรัฐธรรมนูญหรือไม่นั้น ซึ่งอยู่ระหว่างการรอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย แต่ก็มีนายวิชาญ มีนชัยนันท์ ส.ส.พรรคเพื่อไทย ออกมาระบุ มีส.ส.พรรคเดียวกันที่ถือครองหุ้นด้วย 7 คน อาจจะส่งผลกระทบต่อการทำหน้าที่ในการตรวจสอบรัฐบาลว่า ในวันที่พรรคเพื่อไทยมีส.ส.จำนวน 180 กว่าคน ก็เห็นทำงานไม่มีประสิทธิภาพในการตรวจสอบรัฐบาล แค่หายไป 7 คน ทำเป็นออกมาตีโพยตีพาย และกล่าวโทษรัฐธรรมนูญปี 50 ว่า เป็นต้นเหตุ เป็นนิสัยถาวรของกลุ่มคนเหล่านี้ที่มักจะโทษรัฐธรรมนูญปี 50 ทุกกรณี จึงน่าเห็นใจที่ตกเป็นจำเลยของนักการเมืองมาโดยตลอด อยากให้ทุกพรรคการเมืองยอมรับกฎกติกา เราใช้รัฐธรรมนูญปี 50 ซึ่งยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงแก้ไข ทุกคนก็ต้องยอมรับ ส่วนเรื่องการแก้ไขเป็นเรื่องของอนาคต
ส่วนที่หลายฝ่ายกังวลว่า พรรคร่วมรัฐบาลมีส.ส.ถือหุ้นหลายคนและอาจจะถูกตัดสิทธิ์ ส่งผลกระทบต่อเสถียรภาพของรัฐบาลนั้น นายเทพไท กล่าวว่า พรรคประชาธิปัตย์ไม่รู้สึกกังวล
เพราะวันนี้รัฐบาลมีเสียงสนับสนุน 269 เสียง เมื่อตัดส.ส.ในกรณีถือครองหุ้นออกไป ประมาณ 22 เสียง คือ พรรคประชาธิปัตย์ 16 เสียง ที่เหลือเป็นของพรรคร่วมรัฐบาล ก็ยังเหลือเสียงอยู่ 247 เสียง และถ้ารวมฝ่ายค้านอีก 7 จะทำให้เหลือสมาชิกทั้งสภา 441 คน กึ่งหนึ่งก็ 221 คน ถือว่ายังเกินอยู่ 25 คน ยืนยันว่า ไม่กระทบกับพรรคประชาธิปัตย์ แม้จะมีการปล่อยข่าวว่าจะมีการเปลี่ยนขั้วทางการเมืองของพรรคเพื่อไทย ส่วนตัวเห็นว่าเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ แต่เป็นการพูดเพื่อปลอบใจตัวเองมากกว่า และเพื่อสร้างกระแสที่จะให้สอดรับกับการโฟนอินของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่เน้นโฟนอินในช่วงหลังถี่มาก.
ยันไม่แก้รธน.เทพไทโว247เสียงยังปึ๊ก
เครดิต : ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ
ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!