ตั้งรับมานาน สุเทพลั่นเปิดเกมรุกดับไฟใต้ นายกฯ แจงส่งหน่วยรบเรื่องปกติ สั่งคุมเข้ม ชาวบ้าน-พระ-ครู

"นายกฯ"ย้ำไม่เปลี่ยนแปลงแนวทางแก้ปัญหาไฟใต้ แจงส่งหน่วยรบพิเศษลงพื้นที่เรื่องปกติ อนุพงษ์ เผย มาร์ค สั่งคุมเข้ม ชาวบ้าน พระ ครู "เทพเทือก" ประกาศเปิดเกมรุกหนัก หลังตั้งรับมานาน

 
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์เมื่อวันที่ 19 มิถุนายน กรณีการส่งกำลังทหารจากหน่วยบัญชาการสงครามพิเศษ จ.ลพบุรี จำนวน 3 กองร้อย ลงพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ว่าเป็นเรื่องที่ฝ่ายความมั่นคงจะต้องทำต่อเนื่อง เพื่อดูแลความปลอดภัยไม่ให้มีคนกระทำผิดอีก เป็นเรื่องปกติที่จะทำ แต่ไม่ได้หมายความจะไปเปลี่ยนแปลงแนวทางอะไร

พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีให้ดูแลเรื่องความปลอดภัยประชาชน และกลุ่มเป้าหมายที่ไม่สามารถป้องกันตนเองได้ ไม่ว่าเป็นครูหรือพระ ให้ดูแลอย่างเข้มข้น มีความรัดกุม ไม่ให้เกิดการสูญเสีย โดยให้กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน (กอ.รมน.) และกองทัพบก ร่วมกันปฏิบัติพร้อมพิจารณาเองว่าจะใช้กำลังจากส่วนใด

"กำลังจากหน่วยบัญชาการสงครามพิเศษที่ลงไป เพื่อดูแลประชาชนใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ สร้างความเข้าใจและดูแลความปลอดภัย โดยกำลังส่วนหนึ่งยังต้องทำหน้าที่ปฏิบัติการเชิงรุกอยู่"

ด้านนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง กล่าวว่า การส่งกำลังจากหน่วยบัญชาการสงครามพิเศษลงพื้นที่เป็นส่วนหนึ่งของมาตรการที่เพิ่มความเข้มข้นขึ้น เมื่อก่อนจะเน้นเรื่องการตั้งรับ มีการตั้งด่านตรวจตามแนวป้องกัน ทำให้ผู้ร้ายมีช่องว่างในการเข้ามาแทรกแซงได้ จึงได้เพิ่มมาตรการเข้มข้นมากขึ้น โดยจะขยายปิดล้อม ตรวจค้น จึงต้องการหน่วยที่มีความชำนาญเข้ามาเสริม

นายสุเทพยังกล่าวถึงคดีคนร้ายยิงชาวมุสลิมขณะละหมาดในมัสยิด ต.จวบ อ.เจาะไอร้อง จ.นราธิวาส ว่าเจ้าหน้าที่ได้รายงานมาว่าได้หลักฐานที่เป็นดีเอ็นเอแล้ว แต่ยังไม่ให้มีการเปิดเผยรายละเอียด ตอบไม่ได้ว่าเป็นใคร แต่ยืนยันว่าไม่ใช่เจ้าหน้าที่ ตำรวจ ทหาร และเจ้าหน้าที่ฝ่ายบ้านเมืองอย่างที่ใครต้องการให้เป็น "ผมได้เร่งรัดไปว่าต้องออกหมายจับดำเนินคดีให้ได้ และได้ย้ำคำสั่งของนายกรัฐมนตรีว่า 1.กระบวนการสืบสวนสอบสวนต้องมีความโปร่งใส 2.ต้องได้ตัวจริง ไม่มีแพะ 3.ต้องอธิบายกับสังคมได้"

พ.อ.ปริญญา ฉายดิลก โฆษก กอ.รมน.ภาค 4 กล่าวว่า เป้าหมายของการส่งทหารหน่วยบัญชาการสงครามรบพิเศษลงพื้นที่ เพื่อสนับสนุนการทำงานของชุดเฉพาะกิจ (ฉก.) ให้คุ้มครองความปลอดภัยของประชาชนได้มากขึ้น เพราะที่ผ่านมากำลังปกติต้องไปดูแลรักษาความปลอดภัยครู พระ โรงเรียน และประชาชน ทำให้เกิดช่องว่างในการปฏิบัติงานเชิงรุก จึงนำกำลังรบพิเศษเหล่านี้มาเสริมในมาตรการเชิงรุก เพื่อเพิ่มศักยภาพการทำงานให้เข้มข้นมากขึ้น

"ผู้บัญชาการชุดเฉพาะกิจ (ผบ.ฉก.) จะเป็นผู้พิจารณาการใช้กำลังรบพิเศษ บางชุดจะใช้ในการปิดล้อม ตรวจค้น ร่วมกับหน่วยปกติ บางชุดใช้วางกำลังในพื้นที่เสี่ยง เพื่อป้องกันการเคลื่อนไหวของแกนนำ ส่วนการกำหนดช่วงเวลาปฏิบัติงานในเสร็จสิ้นในวันที่ 30 มิถุนายนนั้น เป็นเพียงช่วงแรกของการทำงาน เพื่อประเมินผลการทำงานว่ามีความสำเร็จมากน้อยเพียงใด" พ.อ.ปริญญากล่าว

พล.ต.ท.พีระ พุ่มพิเชฎฐ์ ผู้บัญชาการศูนย์ปฏิบัติการตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ผบช.ศชต.) ให้สัมภาษณ์กรณีเจ้าหน้าที่ปะทะกับกลุ่มคนร้ายที่หมู่ 8 ต.บันนังสตา อ.บันนังสตา จ.ยะลา ทำให้คนร้ายเสียชีวิต 4 คน และจับได้ 5 คน เหตุเกิดเมื่อวันที่ 18 มิถุนายนที่ผ่านมา ว่ากลุ่มคนร้ายที่เสียชีวิตมีประวัติยิงรถตู้โดยสารสายหาดใหญ่-เบตง ที่ ต.ปะแต อ.ยะหา จ.ยะลา, ฆ่าตัดคอประชาชนในสวนยาง, ยิง ส.ต.ต.เกรียงไกร พานแก้ว สังกัดหน่วยปฏิบัติการพิเศษ สภ.บันนังสตา เสียชีวิต และขโมยอาวุธปืนไป โดยพบอาวุธปืนของ ส.ต.ต.เกรียงไกร เป็นของกลางที่คนร้ายนำมายิงต่อสู้กับเจ้าหน้าที่ รวมทั้งกลุ่มคนร้ายยังมีความเชื่อมโยงกับการคดียิง ร.ต.อ.ธรนิศ ศรีสุข หรือหมวดแคน และ ร.ต.ต.กฤติกุล บุญลือ หรือหมวดตี้ โดยพบอาวุธปืนขนาด 9 ม.ม. ของหมวดแคนในมือของคนร้ายที่เสียชีวิต

"กลุ่มคนร้ายชุดนี้มีพฤติกรรมโหดเหี้ยมมาก โดยเฉพาะนายมะซอบี ยะโก๊ะ อายุ 27 ปี ที่เสียชีวิต มีหมายจับ 16 คดี" พล.ต.ท.พีระกล่าว

พล.ท.พิเชษฐ์ วิสัยจร แม่ทัพภาคที่ 4 กล่าวว่า คนร้ายที่ถูกจับตาย 4 คน เป็นระดับแกนนำ โดยนายมะซอบีเป็นหัวหน้ากลุ่มคอมมานโด และนายยูนุ ลาต๊ะ เป็นหัวหน้ากลุ่มอาร์เคเคที่ปฏิบัติการฆ่าตัดคอทหารหน่วยรบพิเศษ และโจมตีอำเภอบันนังสตา "จากนี้ไปเจ้าหน้าที่ได้เปิดยุทธการเชิงรุกเพื่อกำจัดเสรีของกลุ่มก่อความไม่สงบ ป้องกันไม่ให้ก่อเหตุร้ายในพื้นที่ เพื่อสร้างความมั่นใจให้ประชาชน"

ด้านศูนย์ประสานงานเหตุฉุกเฉินแห่งชาติ จ.ยะลา ได้รับรายงานว่า เกิดเหตุการณ์ไม่สงบในพื้นที่ อ.กรงปินัง และ อ.ธารโต จ.ยะลา มีชาวบ้านผู้เสียชีวิต 3 ราย โดยเหตุการณ์แรกเกิดขึ้นเวลา 20.30 น. วันที่ 18 มิถุนายน คนร้ายใช้อาวุธปืนเอ็ม 16 ยิงนายดอแม อภิบาลแบ อายุ 29 ปี เสียชีวิต ขณะเดินทางกลับจากละหมาดที่มัสยิด เหตุเกิดที่หมู่ ต.สะเอ๊ะ อ.กรงปินัง อีกรายเกิดขึ้นในเวลา 21.30 น. คนร้ายใช้อาวุธสงครามยิงนายอุสมัน หาซิ อายุ 21 ปี และนายนูรดิน สาเมาะ อายุ 16 ปี เสียชีวิต ขณะกำลังนั่งรับประทานอาหารบริเวณหน้าบ้านไม่มีเลขที่ หมู่ 8 ต.บ้านแหร อ.ธารโต

นายอำนาจ บัวศิริ ผู้อำนวยการสำนักเลขาธิการมหาเถรสมาคม (มส.) สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) เปิดเผยภายหลังการประชุม มส.ว่า พศ.ได้รายงานเหตุการณ์พระสงฆ์ถูกคนร้ายลอบยิงขณะออกบิณฑบาตที่ อ.เมือง จ.ยะลา ทำให้พระสงฆ์มรณภาพ 1 รูป และบาดเจ็บสาหัส 1 รูป ต่อที่ประชุม มส. ซึ่งคณะกรรมการ มส.ได้แสดงความห่วงพระสงฆ์ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ จึงมีมติให้พระสงฆ์ในพื้นที่ 3 จังหวัดงดออกบิณฑบาตในช่วงนี้ออกไปก่อนเพื่อความปลอดภัย เนื่องจากเกรงว่ากำลังทหารและตำรวจที่มาคุ้มครองพระสงฆ์ขณะบิณฑบาตจะไม่เพียงพอ และอาจจะทำให้เกิดอันตรายได้ เพราะจากการสำรวจข้อมูลของสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัด (พศจ.) ในพื้นที่ 3 จังหวัด พบว่าขณะนี้พระสงฆ์ในพื้นที่ต้องงดออกบิณฑบาตแล้ว 936 รูป จากพระสงฆ์ในพื้นที่ทั้งหมด 1,000 รูป

นางจุฬารัตน์ บุณยากร ผู้อำนวยการ พศ. กล่าวว่า พศ.จะจัดปัจจัยถวายพระสงฆ์ที่ไม่ได้ออกบิณฑบาตรูปละ 100 บาท 20 วัน รวมงบประมาณ 1,800,000 บาท หากมีพระสงฆ์ที่ไม่ได้ออกบิณฑบาตเพิ่มเติมก็ให้แจ้งมาที่สำนักงาน พศ.ด้วย เพื่อจัดปัจจัยไปถวายเพิ่มเติม

นายธีรศักดิ์ สุวรรณยศ กรรมการผู้จัดการธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทยตั้งเป้าในการปล่อยสินเชื่อระดับรากหญ้าใน 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ในปี 2552 ประมาณ 1,115 ล้านบาท แยกเป็น จ.ปัตตานี 300 ล้านบาท ยะลา 200 ล้านบาท สงขลา 200 ล้านบาท นราธิวาส 300 ล้านบาท และ จ.สตูล 100 ล้านบาท

พล.ท.สมชาย วิรุฬผล ประธานกรรมการธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย กล่าวว่า โครงการปล่อยสินเชื่อระดับรากหญ้าใน 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เป็นโครงการแก้ปัญหาความยากจนและแก้ปัญหาการว่างงาน มุ่งสู่ช่องทางการทำธุรกิจ ผลดีจะทำให้ผู้มีรายได้น้อย เข้าถึงแหล่งทุนได้ เป็นการสร้างความมั่นคงในการประกอบอาชีพเพิ่มรายได้ให้ครอบครัว