ปรามกองหนุนว่าที่กกต. หยุดเชียร์รักชังให้อยู่ในใจ

นายเสรี สุวรรณภานนท์ สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) กรุงเทพมหานคร กล่าวถึงเรื่องการบล็อกโหวตการสรรหาคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ในรายการถึงลูกถึงคน ทางโมเดิร์นไนน์ ทีวี วานนี้ (16 ส.ค.) ว่า ตนเชื่อว่าหากคะแนนของนายแก้วสรร อติโพธิ อดีตสมาชิกวุฒิสภา กทม. น้อย เป็นการบล็อกโหวต มองว่า มีโอกาสเกิดขึ้นได้

ทุกฝ่ายมีความเป็นห่วง และข้อเสนอต่าง ๆ ก็ไม่ได้เป็นการดูถูกวุฒิสภา สิ่งต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น พฤติกรรมก่อนหน้าที่ทำให้วุฒิสภาถูกดูถูกมาตั้งนานแล้ว สิ่งที่เกิดขึ้น ถ้าหากว่ารองโฆษกพรรคไทยรักไทยไม่ออกมาพูด ทุกฝ่ายคงไม่มาแสดงออกอะไรตรงนี้ นายเสรี กล่าว

ส่วนการที่นายวิทยา มะเสนา ส.ว. มหาสารคาม ออกแถลงข่าวว่าจะไม่เลือก นายแก้วสรร นั้น ส.ว.กทม. กล่าวว่า ไม่ควรมีการเสนอความเห็นแบบนี้ หากมีเจตนาที่เป็นการกลางจริง ต้องไม่ออกแถลงข่าวว่า หมั่นไส้กองเชียร์ และจะไม่เลือกนายแก้วสรรด้วย ตนว่า หากให้ความเป็นธรรมจริงๆ ต้องเสนอความเห็นอย่างอื่น ก็ได้

การที่ผมออกมาเสนอเพียงคนเดียวไม่เรียกว่า บล็อกโหวต ผมไม่สามารถคุมเสียงในวุฒิสภาได้ ผมพูดด้วยเหตุผลมากกว่า นายเสรี กล่าว และว่า หากนายนาม ยิ้มแย้ม อดีตผู้พิพากษาหัวหน้าคณะในศาลฎีกา และนายแก้วสรร ไม่ได้เป็นกกต. มีความเป็นไปได้จะมีการบล็อกโหวต มีโอกาสสูง แต่ไม่ใช่ว่าจะ 100 เปอร์เซ็นต์ ต้องดูองค์ประกอบอื่นๆ อีก และการที่ตนออกมาพูดตรงนี้มิใช่ว่า ไม่รักองค์กร สิ่งที่พูดเพื่อต้องการให้องค์การดีขึ้น เลวร้ายที่สุดคือคนแจกเงิน คนที่นำเงินมาให้ และใครก็ตามที่เคยให้ผลประโยชน์ ให้หยุด อย่าแทรกแซง ให้วุฒิสภาทำหน้าที่โดยอิสระ

ด้านนายวิทยา กล่าวถึงเรื่องเดียวกันว่า ยังไม่มีการประชุมวุฒิสภา ในเวลานั้น มีการเล่นเกมกันแล้วว่า ต้องเลือก นายนาม และนายแก้วสรร ตนไม่เห็นด้วย โดยเห็นว่า จะต้องให้ความเป็นอิสระกับวุฒิสภา ความดีรู้อยู่แล้วว่า คนเหล่านั้นดี เพียงแต่ว่า ที่ต้องตรวจสอบเพื่อหาคนที่มีความบกพร่องน้อยที่สุด

ควรให้โอกาสวุฒิสภาได้ใช้วิจารณญาณ อย่าเพิ่งไปตัดสินว่า หาก 2 คนนี้ไม่ได้รับเลือกจะเป็นการบล็อกโหวต แสดงว่า รับสินบน เป็นการดูถูกกันเกินไป ส.ว. มหาสารคาม กล่าว และว่า อย่าเพิ่งไปวิตกจริตมากเกินไป ให้ได้เริ่มตรวจสอบประวัติเสียก่อน และที่ออกมาแถลงข่าว เพราะเห็นว่า ส.ว.ด้วยกันไม่ควรออกมาเชียร์ เราควรเป็นกลาง และกกต.ที่จะได้รับคัดเลือกเข้ามา ต้องพิสูจน์ให้ได้ว่า เป็นกลางกับทุกพรรคการเมืองจริง ๆ

นายวิทยา กล่าวด้วยว่า เรื่องการออกมาสนับสนุนของกลุ่มคนต่าง ๆ นั้นไม่ค่อยยุติธรรมกับคนดี ๆ อีก 8 คน ที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกาเสนอมาให้วุฒิสภา คัดเลือกให้เหลือ 5 คน ในการเข้าไปทำหน้าที่ ในองค์กรอิสระ จะรักจะชังก็ขอให้อยู่ในใจ เพราะอีกหลาย ๆ คนจะเสียกำลังใจ

ผมขอเสนอเพิ่มเติมการคัดเลือก กกต.ต้องดูเรื่องสุขภาพด้วย ว่าเป็นโรคอะไรบ้าง ที่เป็นอุปสรรคต่อการปฏิบัติหน้าที่ของกกต. โดยผมจะนำมาประกอบกับการตัดสินใจ และกรณีที่มีคะแนนก้ำกึ่งกัน มีคนออกมาเชียร์ออฟไซด์มาก ผมจะถือเป็นปัจจัยอาจไม่ลงคะแนนให้ นี่คือเหตุผลของผม ส.ว. มหาสารคาม กล่าว.