สุเทพควงอนุพงษ์และประวิตรตรวจมัสยิดอัลฟุรกอน ให้คำมั่นชาวบ้านจับคนร้ายลงโทษให้ได้ พ้อทำงาน 5 เดือนเหมือน 5 ปี ย้ำจะยุติปัญหาให้ได้ภายใน 3 ปี เย้ยรองนายกฯ-ผบ.ทบ.วางบึ้ม ขว้างบอมบ์ ตาย 1 เจ็บ 21
"สุเทพ-ผบ.ทบ."ตรวจมัสยิด10ศพ
เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 13 มิถุนายน นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง พร้อมด้วย พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ. และคณะ เดินทางมาถึงสนามบินนราธิวาส ต.โคกเคียน อ.เมืองนราธิวาส ท่ามกลางการรักษาความปลอดภัยอย่างแน่นหนา และมีเฮลิคอปเตอร์ขึ้นบินวนดูแลความปลอดภัยทางอากาศ
จากนั้น นายสุเทพนำคณะขึ้นเฮลิคอปเตอร์เดินทางไปยังมัสยิดอัลฟุรกอน บ้านไอร์ปาแย หมู่ 8 ต.จวบ อ.เจาะไอร้อง จ.นราธิวาส เพื่อตรวจจุดเกิดเหตุคนร้ายใช้ปืนกราดยิงใส่มัสยิดจนมีผู้เสียชีวิต 10 คน และผู้บาดเจ็บ 12 คน เหตุเกิดวันที่ 8 มิถุนายนที่ผ่านมา โดยมี พญ.คุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ ผู้อำนวยการสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ และ พล.อ.อนุพงษ์ ร่วมเข้าตรวจสอบและเก็บหลักฐานเพิ่มในมัสยิด
นายสุเทพกล่าวกับประชาชนที่มัสยิดตอนหนึ่งว่า ได้รับมอบหมายจากนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีให้เป็นตัวแทนรัฐบาลมาเยี่ยมพี่น้องประชาชน เรื่องที่เกิดขึ้นทำให้รู้สึกสลดใจเป็นอย่างยิ่ง รัฐบาลจะดำเนินทุกวิถีทางที่จะเอาตัวผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีให้ได้ ขอให้ทุกคนมั่นใจว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ใช่ฝีมือของคนรัฐบาล จะพยายามอย่างยิ่งไม่ให้เหตุการณ์เกิดขึ้นอีก ขอวิงวอนว่าให้พี่น้องตั้งสติให้มั่น อย่าหวั่นไหว อย่าฟังเสียงลือ เสียงคำยุแหย่
เทพเทือกบ่น5เดือนดั่ง5ปี-ขอ3ปีดับไฟ
ขอให้พี่น้องอดทน อดกลั้น เหมือนพวกผม ที่ต้องอดทนอดกลั้นมาทำงาน เป็นรัฐบาลก็ถูกกลุ่มคนเสื้อแดงล้อมทำเนียบรัฐบาล ไม่ให้เข้ามาทำงานเราก็ต้องอดทน ไม่คิดฆ่าฟัน เพราะเป็นพี่น้องเหมือนกัน ยืนยันว่า ทำงานมา 5 เดือนเหมือน 5 ปี และมีความเครียดมาก แต่ปัญหาที่เกิดขึ้นต้องร่วมมือกันแก้ไขให้ได้ รัฐบาลตั้งใจใน 3 ปี ต้องแก้ให้ได้ นายสุเทพกล่าวจบแล้วได้มอบเงินให้ครอบครัวผู้เสียชีวิตรายละ 30,000 บาท มอบเงินให้มัสยิด 1 แสนบาท
เวลา 11.15 น. นายสุเทพพร้อมคณะเดินทางมายังโรงพยาบาลนราธิวาสราชนครินทร์ เขตเทศบาลเมืองนราธิวาส เพื่อมอบเงินเยียวยาช่วยเหลือผู้ได้รับบาดเจ็บจากเหตุความไม่สงบรวม 28 คน เสร็จแล้วไปกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน (กอ.รมน.) ภาค 4 ส่วนหน้า ที่ค่ายจุฬาภรณ์ จ.นราธิวาส เพื่อรับฟังบรรยายสรุปสถานการณ์และการปฏิบัติที่สำคัญ
เผยหยดเลือด-กระสุนมัดมือยิง
ภายหลังการรับฟังบรรยายสรุป นายสุเทพให้สัมภาษณ์ว่า ได้ซักซ้อมกับเจ้าหน้าที่เพื่อเพิ่มมาตรการและปรับปรุงวิธีการดูแลคุ้มครองรักษาความปลอดภัยให้ประชาชน ครู พระ เป็นพิเศษ มีข้อเสนอแนะสร้างบ้านพักครูเพื่อป้องกันเหตุ นอกจากนี้ ยังได้ซักซ้อมการปฏิบัติการตามโครงการแผนพัฒนาพิเศษพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ตามที่รัฐกำหนดขึ้น
"จากการพูดคุย ทุกฝ่ายยืนยันตรงกันทั้งกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้นำศาสนา และประชาชนว่า เหตุที่เกิดขึ้นไม่ใช่ฝีมือของเจ้าหน้าที่บ้านเมือง แต่ผู้ร้ายเป็นใครนั้น รัฐบาลต้องเร่งรัดดำเนินการให้เร็วที่สุด หลักฐานบางส่วนพอจะเปิดเผยได้คือ ปลอกกระสุนปืนมีรอยเลือดตรงจุดเกิดเหตุ ในทางนิติวิทยาศาสตร์สามารถนำไปตรวจหาดีเอ็นเอได้ แต่ผมไม่สามารถจะบอกอะไรได้มากกว่านี้"
ระเบิดร้านชำเย้ย"สุเทพ"เจ็บ7
เวลา 11.20 น. ขณะที่คณะของนายสุเทพกำลังปฏิบัติภารกิจในพื้นที่ อ.เมืองนราธิวาส ปรากฏว่า ได้เกิดเหตุระเบิดขึ้นภายในร้านขายของชำ"หล่วนดง" ของนางปิยะนาถ ภูวนานนท์ อายุ 42 ปี เลขที่ 40 ถนนเพชรเกษม เขตเทศบาล ต.บาเจาะ อ.บาเจาะ จ.นราธิวาส แรงระเบิดทำให้ตู้เย็นแตกกระจาย ลูกค้าถูกสะเก็ดระเบิดบาดเจ็บ 7 คน ประกอบด้วย 1.ด.ช.ซอและ อูมาร์ อายุ 14 ปี 2.ด.ช.อับดุลมาเซร์ มะสะ อายุ 14 ปี 3.ด.ช.บูดอรี แวสาแม อายุ 14 ปี 4.นายซอฟลัน สาฮียา อายุ 16 ปี 5.นายลาเซ๊ะ สาและ อายุ 59 ปี 6.นายสับรี เซ็ง อายุ 25 ปี และ 7.นายซุลกิฟลี อาบู อายุ 15 ปี ทั้งหมดถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลบาเจาะ
พ.ต.อ.จำลอง งามเนตร ผกก.สภ.บาเจาะ ตรวจจุดเกิดเหตุพบเป็นระเบิดแสวงเครื่องชนิดแอมโมเนียไนเตรต บรรจุในกระป๋องน้ำอัดลม น้ำหนัก 3 กิโลกรัม จุดชนวนด้วยโทรศัพท์มือถือ คาดว่า คนร้ายได้แฝงตัวเป็นลูกค้าเข้ามาเปิดตู้เย็นภายในร้านแล้วแอบวางกระป๋องน้ำอัดลมบรรจุระเบิดปะปนกับกระป๋องอื่นๆ แล้วกดชนวนระเบิดทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บดังกล่าว
โยนบึ้มรถโดยสารตาย1เจ็บ14
ในช่วงเวลาไล่เลี่ยกัน ที่ อ.เมืองยะลา เกิดเหตุคนร้ายขว้างระเบิดใส่รถโดยสารสายบ้านนิคมกือลอง-นครยะลา บนเส้นทางลัดสายมาลายูบางกอก-พงยือไร หมู่ 2 ต.สะเตงนอก อ.เมืองยะลา ทำให้มีผู้เสียชีวิต 1 ราย และบาดเจ็บ 14 ราย ทั้งหมดถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลศูนย์ยะลา ผู้เสียชีวิต 1 ราย คือ นางเยาวนิตย์ เสมาพัฒน์ อายุ 50 ปี ผู้ได้บาดเจ็บจำนวน 14 ราย ประกอบด้วย 1.ด.ญ.สุจิตรา เพชรหึง อายุ 12 ปี บาดเจ็บสาหัส 2.นางจรัศ กาญจนา อายุ 70 ปี 3.น.ส.ลลิต บัวกิ่ง อายุ 25 ปี อาการสาหัส 4.นางแหวด จิตต์บุรุษ อายุ 60 ปี 5.นายอรุณ อินทไชย อายุ 60 ปี 6.นายภิญโซ เสมาพัฒน์ อายุ 65 ปี 7.นางล้อม แก้วเทียมทอง อายุ 70 ปี 8.นางมันทนา นิลกมล อายุ 55 ปี อาการสาหัส 9.นางปิยมาภรณ์ หล่อทอง อายุ 51 ปี อาการสาหัส 10.นางสุวรรณา เทพส่ง อายุ 35 ปี 11.น.ส.ลัดดา กรวยแก้ว อายุ 33ปี 12.น.ส.รัตนสุคนธ์ ทองโผ อายุ 22 ปี 13.น.ส.จริยา ธนาโธสา อายุ 19 ปี และ 14.นายสุนทร บัวหลวง อายุ 42 ปี
ใบปลิวคนร้ายอ้างเอาคืน
จากการสอบสวนทราบว่า ขณะที่รถวิ่งออกจากเขตเทศบาลนครยะลาไปยังนิคมกือลอง อ.บันนังสตา จ.ยะลา เมื่อถึงที่เกิดเหตุ คนร้าย 2 คนขี่จักรยานยนต์ตามประกบก่อนโยนระเบิดไม่ทราบชนิดใส่ท้ายรถ จนเกิดระเบิดขึ้น จากนั้นคนร้ายจึงหลบหนีไป หลังเกิดเหตุ พ.ต.อ.ชัยทัต อินทนูจิตร รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดยะลาสั่งการให้เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนลงพื้นที่เป้าหมายใกล้จุดเกิดเหตุเพื่อ
ติดตามกลุ่มคนร้ายแล้ว
ข่าวแจ้งว่า ในที่เกิดเหตุโยนระเบิดใส่รถโดยสาร เจ้าหน้าที่ได้พบใบปลิวที่คนร้ายทิ้งไว้เป็นกระดาษขนาดเอ 4 เขียนด้วยหมึกสีแดงเป็นภาษาไทยมีข้อความว่า "มึงฆ่าผู้บริสุทธิ์ที่หมู่บ้านไอปาร์แย กูฆ่าผู้บริสุทธิ์ของมึง"จำนวน 2 แผ่น และพบกระเดื่องระเบิดตกในที่เกิดเหตุ
บึ้มใส่ ตชด.ตั้งด่านรอดหวิว
ที่ด่านตรวจบริเวณถนนยะรัง หมู่ 8 ต.ตะลุโบะ อ.เมืองปัตตานี เวลา 10.30 น. ขณะที่ ด.ต.ธีระพงษ์ ซ้อมเจริญ อายุ 43 ปี สังกัดร้อย ฉก.ตชด.1201จ.สระแก้ว หัวหน้าชุดนำกำลัง 6 นาย ใช้รถยนต์กระบะมีหลังคาตั้งด่านตรวจ ปรากฏว่า คนร้ายไม่ทราบจำนวนได้กดชนวนระเบิดที่ฝังไว้น้ำหนักประมาณ 5 กิโลกรัม แรงระเบิดทำให้เกิดเสียงดังสนั่น ทำให้เจ้าหน้าที่ทั้ง 6 นาย ต้องหลบเอาตัวรอด ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต
ดักยิงสามีภรรยาตายทั้งคู่
เวลา 13.00 น. เกิดเหตุยิงกันทำให้สามีภรรยาเสียชีวิตพร้อมกันบนถนนสาย 410 (บันนังสตา-ธารโต) หมู่ 3 บ.บันนังกูแว อ.บันนังสตา จ.ยะลา ในที่เกิดเหตุพบศพนายจะกอ ยาป่า อายุ 37 ปี และห่างไปเล็กน้อยพบศพนางบัวหอม ปัญญาราก อายุ 52 ปี ภรรยาของนายจะกอ อยู่บ้านเลขที่ 114/9 หมู่ 1 ต.ตาเนาะแมเราะ อ.เบตง จ.ยะลา ทั้งคู่ถูกยิงเข้าที่ศีรษะ ส่วนจักรยานยนต์ของผู้ตายถูกคนร้ายที่คาดว่ามีไม่ต่ำกว่า 4 คนขับหลบหนีไปด้วย
กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
กระทู้ล่าสุด
รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
