คมชัดลึก :รมว.กลาโหม รับสลดใจเห็นพระถูกยิงจากเหตุไฟใต้ รับลูก "นายกฯ" กำชับหามือยิงกราดถล่มมัสยิด ย้ำไม่ขอขีดเส้นตายหาตัวการ
(12มิ.ย.) เวลา 08.30 น. พล.อ.ประวิตร วงศ์สุวรรณ รมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์กรณีที่ประชุมคณะกรรมการรัฐมนตรีพัฒนาพื้นที่พิเศษ 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้(ครม.ภาคใต้)
อนุมัติเงิน 5.4 หมื่นล้านบาท เพื่อพัฒนา 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ว่า เป็นแนวคิดของรัฐบาลในการที่จะพัฒนา 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้งบประมาณ 5.4 หมื่นล้านบาท เป็นระยะเวลา 3 ปี ซึ่งนายกฯ พยายามที่จะทำให้เกิดเป็นรูปธรรมให้ได้ในการพัฒนาพื้นที่ 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้
ส่วนกรณีที่นายถาวร เสนเนียม รมช.มหาดไทย เสนอกฎหมายโดยให้อำนาจศอบต.ในการแก้ไขปัญหาภาคใต้ รมว.กลาโหม กล่าวว่า เป็นเรื่องของทางรัฐบาล
ส่วนใหญ่กฎหมายที่ใช้เป็นกฎหมายทำในเรื่องการพัฒนาเป็นหลัก ไม่เกี่ยวกับงานด้านการทหาร เมื่อถามว่า กลุ่มมุสลิมโลกจี้รัฐบาลไทยให้หาตัวผู้กระทำผิดในการยิงมัสยิด พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า เรื่องนี้นายกฯ ได้สั่งการในที่ประชุมครม.ใต้ว่าจะต้องหาตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษให้ได้ ซึ่งเรื่องนี้เจ้าหน้าที่จะต้องดำเนินการไปตามที่นายกฯ ได้สั่งการ ซึ่งเจ้าหน้าที่ก็ไม่ได้มีการปล่อยปละละเลย และเรื่องที่เกิดขึ้น ถือเป็นเรื่องสะเทือนขวัญของประชาชนในพื้นที่ ทั้งนี้เราไม่ได้มีการกำหนดกรอบเวลา เพราะไปกำหนดไม่ได้ แต่เจ้าหน้าที่คงจะต้องเร่งรัดที่จะต้องดูแลเรื่องนี้เป็นพิเศษ เพราะทำให้ประชาชนเกิดความกลัว ทั้งนี้ผบ.ทบ.ได้ไปดูแลอย่างใกล้ชิดอยู่แล้ว และสั่งการเป็นพิเศษในพื้นที่อยู่แล้ว
ส่วนกรณีที่คนร้ายลอบยิงพระภิษุสงฆ์ เมื่อเช้านี้ เป็นการสร้างเหตุการณ์ ซึ่งเป็นการกระทำที่เห็นกันอย่างชัดเจน
ทั้งนี้เราพยายามดูแลในทุกพื้นที่ไม่ว่าจะเป็นพระสงฆ์ ครู หรือประชาชนผู้บริสุทธิ์ แต่ทหารที่เราปฏิบัติงานอยู่ในพื้นที่ภาคใต้ไม่สามารถที่จะกระจายไปได้ทั่วทุกพื้นที่ ซึ่งเป็นเรื่องลำบาก แต่ก็จะต้องทำ สิ่งที่จำเป็นที่สุดคือประชาชนต้องเข้าใจและช่วยกันดูแลรวมถึงชี้เบาะแสให้เจ้าหน้าที่ในการดำเนินการกับผู้กระทำผิด เมื่อถามว่า กองทัพจำเป็นจะต้องคุมเข้มสถานที่ราชการสำคัญๆ โดยเฉพาะวัดไทย และมัสยิด เพราะเกรงว่า กลุ่มก่อการร้ายจะสร้างเงื่อนไขด้วยการป้ายสีให้เกิดสงครามศาสนาเกิดขึ้น รมว.กลาโหม กล่าว่า ไม่ เรื่องนี้เราไม่ได้ดูแลพื้นที่ใดเป็นพิเศษ เพียงแต่ได้ปฏิบัติในทุกพื้นที่มานานแล้ว และป้องกันอยู่ตลอดเวลา เรื่องนี้คงไม่ต้องห่วงใย แต่สิ่งที่จำเป็นที่สุด คือ ประชาชนส่วนใหญ่จะต้องเข้าใจว่าขณะนี้เจ้าหน้าที่รัฐกำลังทำอะไรอยู่ เพราะเจ้าหน้าที่กำลังดูแลประชาชนผู้บริสุทธิ์ ทหารไม่ได้ไปรบกับใคร แต่เราไปป้องกันคนดี และให้เกิดความสงบในพื้นที่
ผู้สื่อข่าวถามว่า เท่าที่ดูแล้ว สถานการณ์จะปานปลายหรือไม่ โดยเฉพาะหากมีการนำเรื่องศาสนามาเป็นเงื่อนไข รมว.กลาโหม กล่าวว่า ตรงนี้ คงไม่ใช่ ประชาชนในพื้นที่เข้าใจไมน่ามีปัญหาอะไร
ทั้งนี้ในวันนี้พรุ่งนี้ตนจะลงพื้นที่ร่วมกับนายสุเทพ และผู้บัญชาการทหารบก ทั้งนี้การเพิ่มอาสาสมัคร เข้าไปช่วยสนับสนุนดูแลในพื้นที่ ก็น่าจะดีขึ้น ซึ่งนายกฯ ก็ไม่ได้ขัดข้องอะไร ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ ขณะนี้ยังไม่จำเป็นต้องเพิ่มกำลังทหารพราน แต่สิ่งสำคัญเจ้าหน้าที่จะต้องทำความเข้าใจกับประชาชน และประชาชนก็ต้องเข้าใจว่าเจ้าหน้าที่ทำอะไรอยู่
" ผมอยากฝากสื่อให้ช่วยกันด้วย เพราะเป็นเรื่องสำคัญ ทั้งนี้การทำงานของเจ้าหน้าที่ เพื่อไปดูแลประชาชนส่วนใหญ่ แต่ก็มีคนส่วนน้อยที่พยายามสร้างความปั่นป่วน อย่างไรก็ตามจากการข่าวทราบมาว่ามีขบวนการที่ก่อเหตุในพื้นที่ไม่มากขึ้นกว่าเดิม แต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เขาพยายามสร้างสถานการณ์เพื่อให้มองว่าเจ้าหน้าที่รัฐไม่สามารถควบคุมพื้นที่ได้ ซึ่งเป็นสิ่งที่เรากังวลอยู่"
เมื่อถามว่ากรณีที่มีข่าวว่ากลุ่มก่อการร้ายจะมีการนำรถแก๊ส และถังแก๊ส เข้าไประเบิดในพื่นที่ชนนั้น รมว.กลาโหม กล่าวว่า ข่าวแบบนี้ทำได้หมดทุกอย่าง อะไรที่จะทำให้เกิดความเสียหายในภาพรวม เขาสามารถทำได้หมด