พล.อ.ประวิตร ยอมรับยากที่จะทำให้คนใน 3 จ.ใต้ เข้าใจตรงกัน

กลาโหม 11 มิ.ย. – รมว.กลาโหม ยอมรับเป็นเรื่องยากที่จะป้องกันไม่ให้เกิดเหตุรุนแรงใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และคงลำบากที่จะทำความเข้าใจกับคนในพื้นที่ทุกคนให้เข้าใจตรงกัน  ยืนยันทหารจะดูแลความปลอดภัยประชาชน และรัฐมนตรีที่ลงพื้นที่อย่างเต็มที่  ด้าน ผบ.ทร. ย้ำการแก้ปัญหาใต้เดินมาถูกทางแล้ว โดยใช้หลักเข้าใจ เข้าถึง และพัฒนา


พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ให้สัมภาษณ์ถึงปัญหาความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ว่า เกิดจากประชาชนเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้น

ขณะที่ทหารเข้าพื้นที่ไปดูแลความปลอดภัยให้ประชาชนส่วนใหญ่  แต่คงลำบากที่จะให้ควบคุมถึงขั้นไม่มีเหตุการณ์เกิดขึ้นเลย  ทั้งนี้ ฝ่ายความมั่นคงไม่ได้ปล่อยปละละเลย  โดยได้ควบคุมและชี้แจงทำความเข้าใจกับประชาชนในพื้นที่ตลอดเวลา  เพียงแต่การทำความเข้าใจกับประชาชน 2 ล้านคน ให้เข้าใจตรงกันค่อนข้างลำบาก  อีกทั้งในพื้นที่มีคนหลายศาสนา  แต่ไม่เป็นปัญหา  สามารถอยู่ร่วมกันได้  และเป็นเรื่องที่ทุกฝ่ายต้องช่วยกัน


ส่วนกรณีที่กลุ่มผู้ก่อความไม่สงบยิงเข้าไปในมัสยิดนั้น พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า การก่อเหตุมักเกิดขึ้นในสถานที่ใหม่ ๆ ที่ไม่คาดคิด

และไม่รู้สึกกังวลว่าเป็นการสร้างสถานการณ์เพื่อให้เกิดความขัดแย้งทางศาสนา เพราะประชาชนส่วนใหญ่เข้าใจอยู่แล้วว่ารัฐบาลพยายามทำให้เกิดความสงบสุขในพื้นที่
ต่อกรณีที่ผู้บัญชาการทหารบก ระบุว่า มีการตั้งโครงสร้างอำนาจซ้อนอำนาจรัฐอยู่ในหมู่บ้านกว่า 200 แห่ง นั้น พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า เป็นสิ่งที่มีมานานแล้ว ซึ่งในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน (กอ.รมน.) สามารถเข้าไปดูแลในพื้นที่ที่เป็นสีแดงได้เพิ่มมากขึ้น ซึ่งเหตุการณ์ต่าง ๆ ก็ดีขึ้นเรื่อย ๆ แต่เมื่อเกิดเรื่องดังกล่าวขึ้นไม่ได้หมายความว่ากลุ่มผู้ก่อความไม่สงบได้รับการยอมรับจากประชาชนในพื้นที่ เพราะคนเหล่านั้นเป็นเพียงคนส่วนน้อย  แต่คนส่วนใหญ่ไม่ได้เกี่ยวข้อง  และทำมาหากินตามปกติ


 


รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ยืนยันว่า รัฐมนตรีทั้งด้านเศรษฐกิจและสังคม สามารถลงพื้นที่ได้ไม่มีปัญหา  รวมถึงนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง ที่จะลงพื้นที่ในวันที่ 13 มิถุนายนนี้

อย่างไรก็ตาม รัฐบาลได้แต่งตั้งรัฐมนตรีต่าง ๆ ขึ้นมาดูแลงานด้านการพัฒนา เน้นการยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน ขณะเดียวกัน รัฐบาลและกองทัพก็จะใช้แนวทางการเมืองนำการทหาร โดยเฉพาะหลักเข้าใจ เข้าถึง และพัฒนา เมื่อถามว่า มีการประเมินท่าทีขององค์การการประชุมอิสลาม (โอไอซี) บ้างหรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า รัฐบาลและกระทรวงการต่างประเทศ ดำเนินการอยู่ตลอดเวลา ไม่มีปัญหาอะไร และไม่มีการเข้ามาแทรกแซง สิ่งที่ต้องทำคือ การทำความเข้าใจกับประชาชนในพื้นที่มากกว่า ส่วนความร่วมมือของคณะกรรมการกลางอิสลามจังหวัดต่าง ๆ ก็ได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดี ทั้งนี้ กรณีที่มีข่าวนายกรัฐมนตรีไม่พอใจการแก้ไขปัญหาภาคใต้นั้น  ก็ไม่ใช่ไม่พอใจ แต่อาจกังวลที่ยังมีเหตุการณ์เกิดขึ้น  ซึ่งฝ่ายทหารทำเต็มที่อยู่แล้ว และขอยืนยันว่าขณะนี้รู้แล้วว่าต่อสู้อยู่กับใคร และมีรายชื่ออยู่ตลอด


ด้าน พล.ร.อ.กำธร พุ่มหิรัญ ผู้บัญชาการทหารเรือ กล่าวว่า ได้สั่งการให้กำลังพลในส่วนของกองทัพเรือดูแลครูและประชาชนอย่างเต็มที่ 

เพราะขณะนี้มีการลอบทำร้ายไปหมด ไม่ว่าจะเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ หรือประชาชน จึงต้องพยายามกวดขันทำความเข้าใจและให้ความคุ้มครองประชาชนมีความอุ่นใจมากที่สุด
“เรามาถูกทางแล้ว โดยใช้หลักเข้าใจ เข้าถึง พัฒนา และมีทหารเป็นพี่เลี้ยงคอยปกป้องคุ้มครอง ให้กระทรวงต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องเข้าไปทำหน้าที่ด้านการพัฒนาให้ประชาชนมีความสุข อย่างไรก็ตาม ก็ต้องใช้เวลาบ้าง โดยพยายามปรับปรุงยุทธวิธีต่าง ๆ อยู่เสมอ และยอมรับว่า ขณะนี้เราเป็นฝ่ายถูกกระทำ” พล.ร.อ.กำธร กล่าว


เมื่อถามว่า กรณีที่ผู้ก่อความไม่สงบพยายามใส่ร้ายทหารว่าใช้ความรุนแรงกับประชาชน จะกระทบต่อการทำงานหรือไม่ พล.ร.อ.กำธร กล่าวว่า

ประชาชนเข้าใจว่าทหารไปช่วยจะใส่ร้ายอย่างไรก็ไม่เป็นผล ส่วนที่ไม่สามารถดำเนินการไปถึงแกนนำระดับบังคับบัญชาได้นั้น เป็นเพราะคนเหล่านี้ไม่อยู่กับที่ แต่ไม่ได้หมายความว่าอยู่นอกประเทศ และเชื่อว่าจะไม่บานปลายเป็นสงครามศาสนา  เพราะคนส่วนใหญ่เข้าใจ.-สำนักข่าวไทย


เครดิต :

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์