เนวิน ส่งสัญญาณ ทางรอด-ทางเลือก ปชป.ถูกยื่นโนติส

แค่ปริแต่ยังไม่แตก!

สำหรับความขัดแย้งระหว่างพรรคประชาธิปัตย์ และพรรคภูมิใจไทย หลังโครงการระบายข้าว ข้าวโพด มันสำปะหลัง ถูกที่ประชุมคณะรัฐมนตรีตีกลับ

และโครงการเช่ารถเมล์เอ็นจีวี 4 พันคัน ที่ โสภณ ซารัมย์ รมว.คมนาคม จะออกหน้าดึงดันเสนอเรื่องผ่าน ครม.เพียงใด ก็ยังถูกคนที่นั่งหัวโต๊ะพลิกพลิ้วกระบวนยุทธยื้อแล้วยื้ออีก จนมีเสียงขู่กลับมาว่าถ้าตุกติกนัก "ภูมิใจไทยจะถอนตัว"

แต่หลายคนก็มองออกเช่นกันว่า ห้วงเวลานี้ ไม่ใช่เวลาที่พรรคร่วมรัฐบาลใดจะถอนตัวออกไปง่ายๆ เหมือนที่ "เสธ.หนั่น" พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ รองนายกรัฐมนตรี จากพรรคชาติไทยพัฒนา ประเมินว่า "ไม่มีใครกล้าแยกตัวไปหรอก เพราะเลือกตั้งครั้งต่อไปจะมีขึ้นเมื่อไร ก็ยังไม่มีใครรู้"

ส่วนที่แก่นแกนของภูมิใจไทย อย่าง โสภณ ซารัมย์, ประจักษ์ แกล้วกล้าหาญ, สมศักดิ์ เทพสุทิน หรือแม้แต่ "นายน้อย" เนวิน ชิดชอบ ดาหน้าออกมาแสดงบท "ร่วมกันตี" ผ่านหัวโขนต่างๆ ที่เจ้าตัวสวมใส่อยู่ ก็เป็นแค่การระบายความอึดอัด..??

แต่ก็น่าคิดไม่น้อยว่าการที่ สมศักดิ์ เทพ สุทิน เจ้าพ่อวังน้ำยม พูดดุเดือดฝากไปถึงพรรคแกนนำรัฐบาลว่า "ชอบทำตัวเป็นพระเอก" แล้วสะกิดให้สังคมเห็นว่า พรรคร่วมรัฐบาล "ส่อเจตนาทุจริต" เพื่อหวังกลบเกลื่อนความผิดพลาดของตัวเองนั้น ก็เป็นการระบายความอึดอัดที่เข้าสูตร "เล่นจริง-เจ็บจริง ไม่มีสแตนด์อิน" และเป็นการระบายความอึดอัดที่โจมตีพรรคประชาธิปัตย์ได้หนักหน่วงพอสมควร!!

นั่นอาจจะมองว่าเพราะ "เนวิน-สมศักดิ์" กำลังมุ่งหวังผลการเลือกตั้งซ่อมที่เกิดขึ้นในปลายเดือนนี้และพรรคภูมิใจไทยหวังว่าจะ "เตะสกัด" ไม่ให้ผู้สมัครของพรรคเพื่อไทย สามารถฝ่าด่านมาได้เลย ไม่ว่าจะเป็นเวทีเลือกตั้งซ่อมที่ จ.ศรีสะเกษ หรือ สกลนคร

การ "สยบฝ่ายค้าน" ไม่เพียงแต่ทำให้พรรคประชาธิปัตย์ และพรรคร่วมรัฐบาลสบายใจได้กับการได้เห็น "เพื่อไทยเสียงตก" แล้ว ผลงานดังกล่าวจะมีผลผูกพันสำหรับการทำการเมืองในอนาคตของพรรคภูมิใจไทยและกลุ่มเพื่อนเนวินด้วย ก็คือ สามารถสู้กับกระแส "ทักษิณฟีเวอร์" ได้แล้ว??

แน่นอนว่าเป็นการทดสอบกระแสที่มีตัวเองหลังสลับขั้ว "หักหลังนายใหญ่" มากอดคอกับพรรคประชาธิปัตย์ ในช่วง 5-6 เดือนที่ผ่านมา แล้วสามารถสร้างกระแส "น้ำเงินฟีเวอร์" กัดเซาะฐานเสียงของเพื่อไทย ดังที่ "เนวิน" เคยรับปาก สุเทพ เทือกสุบรรณ ผู้จัดการรัฐบาล ว่าจะทำให้คนอีสาน "ลืมทักษิณ" ภายในเวลา 1 ปี

ซึ่งปรากฏว่าเริ่มมีการย้อนความ-ทวงถามถึงสัญญาฉบับเก่าๆ ระหว่างกันเกิดขึ้นแล้ว เพราะการเซาะที่มั่นแต่ละแห่งจะต้องมีแรงสนับสนุนพื้นที่มีตัวเลขไม่น้อยกว่า 9 หลักเพื่อการันตีความสำเร็จ แต่ยังไม่ทันไร การอุดหนุน "แบบให้เปล่า" ก็สะดุด ไม่ว่าจะเป็นสายเพื่อนเนวิน หรือสายวังน้ำยม จนแกนนำภูมิใจไทยเผลอรำพึงออกมาว่า "สงสัยถูกเบี้ยว!!"

อาการหงุดหงิดที่แสดงออกมาในลักษณะ "ประกาศศักดา" จึงเกิดขึ้น ซึ่งส่งผลสั่นสะเทือนต่อเสถียรภาพของรัฐบาลอยู่ไม่น้อย

ดังที่ นโยบายประชานิยมขั้นเทพ 6 ประการ ที่คลอดออกมาหลังสัมมนาที่ จ.สกลนคร ไม่ว่าเป็น ลานกีฬา ธนาคารข้าว 1 ตำบล 1 โรงสี 1 ตำบล 1 รถพยาบาล ฯลฯ ที่ "เนวิน" เปิดไฟเขียวให้แล้วว่า "ให้ใช้งบฯท้องถิ่น" แต่หากยังไม่เพียงพอก็ให้มาขอที่กรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น กระทรวงมหาดไทยได้ เพราะ "ปู่จิ้น" ชวรัตน์ ชาญวีรกูล หัวหน้าภูมิใจไทย นั่งเก้าอี้ใหญ่ที่สุดของกระทรวง

"ประชานิยมตัวพ่อ" ขนาดนี้ หากประสบผลสำเร็จออกมา ย่อมทำให้ราคาคุยของพรรคภูมิใจไทยที่ชู "ปู่จิ้น" ให้เป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีคนต่อไป เพราะการเลือกตั้งครั้งหน้าพรรคภูมิใจไทยจะมาเป็นอันดับหนึ่งคงอยู่ไม่ไกล!!

แต่ก็ประเมินและให้ราคากันว่าจะเป็นแค่สำนวนโวหารทางการเมืองที่ต้องการบลั๊ฟฟ์คู่แข่ง เพราะการจะก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งพรรคอันดับหนึ่ง ขณะที่มีเสียงอยู่ 32 เสียงไม่ใช่เรื่องง่าย

และการเลือกตั้งครั้งหน้าพรรคภูมิใจไทยต้องถูกกระหนาบข้างอย่างหนัก จากคู่แข่งคนสำคัญทั้งพรรคประชาธิปัตย์และพรรคเพื่อไทย ประเมินให้เต็มที่ตัวเลขของพรรคภูมิใจไทยน่าจะอยู่ประมาณครึ่งร้อยบวกลบไม่เกิน 10 ที่นั่ง จากพื้นที่ฐานเสียงในเขตภาคอีสานและภาคเหนือ

จึงเท่ากับว่าภูมิใจไทยอยู่ในฐานะไม่ต่างไปจากการเป็น "อะไหล่ชั้นดี" สำหรับการตั้งรัฐบาลเท่านั้น!!

มีหรือที่กูรูทางการเมืองอย่าง "สุเทพ" จะไม่รู้เท่าทัน ไม่เช่นนั้นคงไม่พยายามเจรจาต้าอวยกับแกนนำเพื่อนเนวินมาตลอด

เกมการ "โชว์วิสัยทัศน์" ในการคลอดแผนประชานิยม "ของจริง" ซึ่งมองกันว่าสามารถสัมผัสได้ และ "มีความเป็นไปได้" เหนือโครงการของพรรคประชาธิปัตย์ การเกทับบลั๊ฟฟ์แหลกแบบ "กูไม่กลัวมึง" ขณะที่ตัวเองตกอยู่สภาพเป็น "เบี้ยล่าง" ของพรรคแม่พระธรณีบีบมวยผม เพราะโครงการของภูมิใจไทยจะผ่าน ครม.ได้ ขึ้นอยู่กับความกรุณาของประชาธิปัตย์แทบทั้งสิ้น แถมยังไม่ทันจะทำอะไรก็ถูกตราหน้าแล้วว่ามีนอกมีในกับโครงการยักษ์ใหญ่ที่นำเสนอเสียแล้ว

จึงไม่แปลกหากจะจับสัญญาณที่ "เนวิน" ส่งสะท้อนมาจากอาการสู้หัวชนฝาได้ว่า ถ้า "ภูมิใจไทย" ไม่สมหวัง ก็พร้อมที่จะสละเรือ!!