คมชัดลึก :กกต.จัดงานครบรอบ 11 ปี “สดศรี"ยุ“เพื่อไทย”ขับ“จุมพฏ”วางบรรทัดฐานงูเห่า ยอมรับเอาผิดซาก ทรท. มาเป็น กก.บห.“ภูมิใจไทย” ไม่ได้ โบ้ย อนุฯปฏิรูปการเมืองหาทางแก้
(8มิ.ย.) นางสดศรี สัตยธรรม กรรมการการเลือกตั้ง ด้านกิจการพรรคการเมืองและการออกเสียงประชามติ
กล่าวถึงกรณีที่ที่นาย จุมพฏ บุญใหญ่ ส.ส.สกลนครเขต 2 พรรคเพื่อไทย ที่ได้ไปร่วมกิจกรรมทางการเมืองกับพรรคภูมิใจไทยในการลงพื้นที่ ที่มีการจัดสัมมนาพร้อมทั้งใส่เสื้อพรรคภูมิใจไทย ว่า การดำเนินกิจกรรมทางการเมือง โดยไม่ทำงานด้วยใจ หรือใจย้ายไปแล้วไม่เป็นไร แต่หากนายจุมพฏลาออกจากพรรคเพื่อไทย ก็จะถือว่าพ้นจากสมาชิกภาพ ส.ส. ทันที เพราะตามกฎหมาย ส.ส. ไม่สามารถย้ายพรรคได้ คงต้องรอให้มีการยุบสภา เสียก่อน
นางสดศรี กล่าวต่อว่า อย่างไรก็ตามหากที่ประชุมใหญ่ของพรรคได้มีการประชุมและมีมติให้ขับออกจากการเป็น สมาชิกพรรค ผู้ที่เป็นส.ส.ก็ต้องยื่นร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญภายใน 60 วัน
ซึ่งศาลรัฐธรรมนูญจะเป็นผู้พิจารณาวินิจฉัยว่า การดำเนินการขับออกจากพรรคนั้นเป็นการดำเนินการโดยชอบหรือไม่ หากศาลรัฐธรรมนูญเห็นว่า เป็นการดำเนินการโดยชอบก็จะขาดจากการเป็นสมาชิกภาพทันที แต่หากศาลรัฐธรรมนูญเห็นว่าการดำเนินการของพรรคไม่ชอบก็ สามารถที่จะย้ายไปสังกัดพรรคอื่นได้ อย่างไรก็ตามกรณีนี้ยังไม่ได้มีบรรทัดฐานมาก่อน จึงอยากให้ส.ส.ในพรรคมีการดำเนินการ ซึ่งเรื่องก็จะได้ไปสู่ศาลรัฐธรรมนูญว่าจะพิจารณากรณีนี้อย่างไร เพื่อไว้เป็นบรรทัดฐานต่อไป
ผู้สื่อข่าวถามว่า กรณีที่มีกรรมการบริหารพรรคที่ถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง ไปมีบทบาทเปรียบเสมือนเป็นกรรมการบริหารภูมิใจไทยนั้น
นางสดศรี กล่าวว่า ในเบื้องต้นต้องดูข้อบังคับพรรคและพฤติกรรมว่าการกระทำดังกล่าวเข้าข่ายการทำหน้าที่ประหนึ่งกรรมการบริหารพรรคหรือไม่ ทั้งนี้ ในกรณีผู้ที่ถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งมีผู้ร้องเรียนและอยู่ระหว่างการพิจารณาของอนุกรรมการ ดังนั้นจึงจะนำข้อมูลดังกล่าวจะมาพิจารณาด้วย พร้อมตั้งข้อสังเกตว่า กฎหมายไม่สามารถดำเนินการอะไรได้ในเรื่องของบทบาทแอบแฝง ดังนั้นคณะอนุกรรมการปฏิรูปการเมืองควรที่จะไปดำเนินการเรื่องนี้ มากกว่าที่จะมาดำเนินการเสนอยุบ กกต.
ส่วนกรณีที่พรรคภูมิใจไทยขึ้นป้ายนโยบายและการที่นายกรัฐมนตรีออกมาในทำนองที่พร้อมที่จะยุบสภานั้น นางสดศรี กล่าวว่า ในเรื่องดังกล่าวคงยังบอกไม่ได้ว่าเป็นนัยทางการเมืองว่าจะมีการยุบสภาเพื่อเลือกตั้งใหม่
จนกว่าจะมีพระราชกฤษฎีกาเลือกตั้ง จะคาดว่านายกรัฐมนตรีจะยุบสภาไม่ได้ แต่การที่พรรคการเมืองจะมีการขึ้นป้ายหาเสียงขณะนี้ก็สามารถทำได้ เพราะเป็นการที่พรรคจะได้พูดเรื่องนโยบายให้กับประชาชนรับทราบ โดย กกต.ไม่มีอำนาจเข้าไปห้าม ซึ่ง กกต.ก็เปรียบเสมือนพี่เลี้ยงหากทำอะไรเกินเลยไปก็จะมีการเตือนพรรคการเมือง ไม่ใช่เป็นการไปจับผิด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในช่วงเช้าวันนี้ สำนักงาน กกต.ได้จัดงานสถาปนาครบรอบ 11 ปี หลังการก่อตั้งองค์กรหลังรัฐธรรมนูญปี 2540
โดยนาย อภิชาต สุขัคคานนท์ ประธาน กกต. นาง สดศรี สัตยธรรม และนาย ประพันธ์ นัยโกวิท พร้อมด้วยพนักงานระดับสูง ได้บวงสรวงสิ่งศักดิ์สิทธิประจำศูนย์ราชการ พร้อมจัดพิธีสงฆ์ โดยได้นิมนต์พระเทพปริยัติเมธี เจ้าอาวาสวัดชลประทานรังสฤษฏิ์ ซึ่งการจัดงานก็ได้มีผู้มาร่วมงานจำนวนมาก ทั้งนี้ได้มีการประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจท้องที่มาดูแลความเรียบร้อย พร้อมกับนำเครื่องตรวจวัตถุระเบิด มาตรวจผู้ที่เข้าออกเป็นราบบุคคล เนื่องจากทางสำนักงาน กกต.เกรงว่าจะมีความไม่ปลอดภัยเกิดขึ้น เพราะสำนักงาน กกต.เองก็ตกเป็นเป้าหมายทางการเมือง