ถึงแม้จะมี ส.ส.จากเพื่อไทยเข้ามาเพิ่ม ขณะที่ "ปู่จิ้น" คุยฟุ้งกลัวกลั้นไม่อยู่หากภูมิใจไทยจะกลายเป็นพรรคอับดับ 1 หลังเลือกตั้ง หากเป็นจริงจะขอตัดสินใจเรื่องนั้นเก้าอี้นายกฯอีกครั้ง..
วันนี้ (7 มิ.ย.) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีพรรคภูมิใจไทย ติดต่อทาบทาม ส.ส.ของพรรคเพื่อไทย ให้เข้ามาร่วมงานว่า เป็นแนวทางการทำงานของพรรคการเมือง แต่ยืนยันว่า หากจำนวน ส.ส.ของพรรคภูมิใจไทยเพิ่มขึ้น ก็จะไม่มีผลต่อจำนวนรัฐมนตรี เพราะไม่ได้จัดตำแหน่งรัฐมนตรีตามโควตา พร้อมกับเชื่อว่า จำนวน ส.ส.ที่เพิ่มขึ้น จะไม่สร้างแรงกดดันในพรรคร่วมรัฐบาล ส่วนการที่แกนนำพรรคภูมิใจไทยลงพื้นที่ จ.สกลนคร ช่วงมีการเลือกตั้ง ต้องดูว่าลงไปในส่วนไหน หากใครมองว่าเป็นการใช้อำนาจไม่ถูกต้อง สามารถร้องเรียนกับคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ให้พิจารณาได้
ทางด้านนายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวระหว่างการสัมมนาพรรค ที่ จ.สกลนคร ถึงกรณีวานนี้ (6 มิ.ย.) นายจุมพฏ บุญใหญ่ ส.ส.สกลนคร เขต 2 พรรคเพื่อไทย ได้แสดงตัวจะย้ายมาสังกัดพรรคภูมิใจไทยว่า ถือเป็นจุดเริ่มต้นสำหรับคนที่มีอุดมการณ์ทางการเมืองและชอบนโยบายพรรคเหมือนกัน ซึ่งพรรคภูมิใจไทยเป็นพรรคที่เปิดกว้าง อาจจะมี ส.ส.ย้ายเข้ามาสังกัดพรรคเพิ่มขึ้น แต่อาจจะไม่สามารถรับ ส.ส.ที่สนใจได้ทั้งหมด เนื่องจากพรรคจะต้องพิจารณาเป็นรายๆ ไป อย่างไรก็ตาม ไม่ได้ถือเป็นการดูดตัว ส.ส. หรือส่งสัญญาณว่าจะมีการเลือกตั้ง เพราะอนาคตเป็นเรื่องที่ไม่แน่นอน
"เดิม พรรคภูมิใจไทยตั้งเป้าทางการเมืองให้เป็นพรรคอันดับ 3 แต่ก็กลัวว่า จะยั้งไม่อยู่และกลายเป็นพรรคอันดับ 1 ในที่สุด" นายชวรัตน์ กล่าว และว่า ไม่ได้ฝันถึงขั้นจะเป็นนายกรัฐมนตรีคนต่อไป แต่หากกลายเป็นพรรคอันดับ 1 จริงแล้วต้องทำหน้าที่เป็นนายกรัฐมนตรี ก็ถือเป็นเรื่องอนาคตที่จะตัดสินใจอีกครั้ง
นอกจากนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ยังกล่าวถึงการโยกย้ายรองผู้ว่าราชการจังหวัด 24 จังหวัดว่า เป็นไปตามความเหมาะสม และเป็นอำนาจสั่งการของปลัดกระทรวงมหาดไทย ไม่เกี่ยวข้องกับการปูทางให้เป็นฐานเสียงของพรรคภูมิใจไทย