ขย่มรัฐบาล สมศักดิ์ฉุนจุ้นเจ๊วา


ทุลักทุเล"ชวรัตน์"นำทีมรัฐมนตรีภูมิใจไทยลงทุ่งดำนาดูดอีกส.ส.เพื่อไทยสกลนคร"จุมพฏ บุญใหญ่" ขอร่วมชายคา อ้างไม่พอใจผู้มีบารมีนอกพรรคที่สนิท"แม้ว"สั่งห้ามซักฟอกนายกฯ ท้าพรรคขับออก "สมศักดิ์ เทพสุทิน"ฉุนปชป.ล้วงลูก"เจ๊วา" ฉะยับรัฐบาลไม่มีแผนงานบริหาร ทำงานมา 5 เดือนไร้น้ำยา ทำพรรคร่วมช้ำ อัดเช็คช่วยชาติ เรียนฟรี 15 ปี ต้นกล้าอาชีพล้วนล้มเหลว "เนวิน"ค้าน"มาร์ค"เปลี่ยนระบบรับจำนำมาใช้การประกันราคาสินค้า ฟันธงรัฐขาดทุนล้านเปอร์เซ็นต์ ชี้ทางแก้ต้องทำคอนแทรคฟาร์มมิ่ง ด้าน "อภิวันท์-ไพจิต"ยอมรับมีส.ส.อีสานเพื่อไทยร่วม 10 คนรอย้ายซบภท. ขณะที่"มาร์ค" ย้ำรถเมล์ 4 พันคันต้องเดินหน้าไม่ว่าจะเช่าหรือซื้อ มั่นใจปชป.-ภท.ไร้ปัญหาคาใจถ้าใช้เหตุผลมากกว่าอารมณ์ ยันประชาธิปัตย์ไม่ใช่พระเอก รัฐบาลต้องรับผิดชอบร่วมกัน"ชวรัตน์"โยนสภาพัฒน์ตัดสินใจทั้งวิธีการและการทำประชาพิจารณ์ สื่อต่างชาติตีข่าวเยอรมนียกเลิกวีซ่า"ทักษิณ" หลังพบได้มาโดยมิชอบ แอบอ้างชื่อหน่วยข่าวกรองบีเอ็นดี ขอวีซ่า

"มาร์ค"เดินหน้ารถเมล์4พันคัน


วันที่ 6 มิ.ย. เวลา 09.30 น. ที่ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุม อิมแพ็ค เมือง ทองธานี นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ภายหลังเป็นประธานเปิดงานวันสหกิจศึกษาไทยครั้งที่ 1 ถึงกรณีนายเนวิน ชิดชอบ แกนนำพรรคภูมิใจไทยระบุโครงการเช่ารถเมล์เอ็นจีวี 4 พันคันควรจะเช่ามากกว่าซื้อ สวนทางกับข้อเสนอของนายกฯ ว่า เรื่องนี้ทุกฝ่ายต้องให้ข้อมูล ขณะนี้มีคนกลางคือคณะกรรมการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ(สศช.) เป็นผู้ศึกษาและจะให้คำตอบกับรัฐบาลและสังคม ซึ่งทุกคนเสนอความคิดเห็นได้ หลายคนได้ส่งข้อมูลมาให้ตนจำนวนมาก มีทั้งเชียร์ให้ซื้อและเชียร์ให้เช่า

ส่วนที่หลายฝ่ายมีการจัดสัมมนาเพื่อแสดงความคิดเห็น เช่น สำนักงานนโยบายและแผน การขนส่งและจราจร (สนข.) จะทำให้ประเด็นแตกไปหรือไม่นั้น นายกฯ กล่าวว่า คงไม่ ซึ่งทุกคนมีส่วนร่วมได้แต่สภาพัฒน์จะรวบรวมความคิดเห็น หากใครมีความเห็นอะไรให้ส่งไปยังสภาพัฒน์ เพื่อให้มีข้อมูลรอบด้านที่สุด

เมื่อถามว่ากระทรวงคมนาคมเสนอว่าอาจต้องทำประชาพิจารณ์ นายกฯ กล่าวว่า ก็ทำได้ การทำประชาพิจารณ์จะยิ่งดี หากทุกอย่างทำได้ภายใน 1 เดือนก็ยิ่งดี เพราะมีประชาชนจำนวนมากที่อยากแสดงความคิดเห็น แต่ขอให้นำข้อมูลมาเทียบเคียงกัน ใช้เหตุผล อย่าใช้อารมณ์

ย้ำทุกพรรครับผิดชอบร่วมกัน

เมื่อถามว่าแกนนำพรรคภูมิใจไทยโจมตีพรรคประชาธิปัตย์ว่านำโครงการนี้มาหาเสียงกับคนในกทม.เพื่อเอาความดีเข้าตัว นายอภิสิทธิ์ หัวเราะและกล่าวว่า งานของรัฐบาลเป็นงานของทุกพรรครับผิดชอบร่วมกันอยู่แล้ว ไม่ว่าจะรับผิดหรือรับชอบก็ต้องรับ ด้วยกัน

"ผมรู้สึกว่าหลายครั้งพอมีประเด็นถกเถียงกันมักไม่เอาข้อเท็จจริงหรือเหตุผลมาพูดกัน แต่เป็นเรื่องของอารมณ์ความรู้สึกมากกว่า จึงขอให้ทุกฝ่ายนำข้อเท็จจริงมา พูดกัน ผมยืนยันว่ารัฐบาลจะทำโดยยึดประโยชน์ของส่วนรวม ของประชาชนเป็นที่ตั้ง กรณีนี้คือต้องการมีรถเมล์ที่ดีให้บริการประชาชน เป็นรถเมล์ที่ใช้พลังงานสะอาด อยู่ในสภาพที่ทำให้ประชาชนรู้สึกมั่นใจและอยากใช้ในราคาสมเหตุสมผล และรัฐต้องไม่สูญเสียเงินมากกว่าที่ควรในการจัดหารถ เป้าหมายอยู่ ตรงนี้ ไม่ได้คิดเรื่องอื่น" นายกฯ กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่ามั่นใจหรือไม่ว่าจะไม่เป็นปัญหาคาใจกันระหว่างพรรคภูมิใจไทยกับพรรคประชาธิปัตย์ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ตนไม่มีอะไรคาใจ

ปชป.ไม่ใช่พระเอก

เมื่อถามว่าพรรคภูมิใจไทยมองว่าพรรคประชาธิปัตย์เล่นบทพระเอกอยู่คนเดียว นายกฯ กล่าวว่า ไม่มีใครเป็นพระเอก ทุกคนทำงานด้วยกัน รับผิดรับชอบด้วยกันอยู่แล้ว สิ่งที่เกิดขึ้นเพื่อให้สังคมมีความมั่นใจว่าเมื่อตัดสินใจแล้ว มีข้อมูลรองรับ ผ่านการกลั่นกรองโดยคนที่เป็นกลาง เมื่อได้คำตอบออกมาคงไม่มีใครคาใจ โครงการนี้ต้องเกิด เพราะเราคงไม่ปล่อยให้ ขสมก.อยู่ในสภาพเช่นนี้ไปเรื่อยๆ ซึ่งการให้บริการประชาชนควรจะดีขึ้น มีรถใหม่ สะอาด ใช้พลังงานประหยัด ดังนั้น รัฐบาลต้องทำ โครงการต้องเดินหน้าภายใน 1 เดือนนี้ ส่วนกรอบเวลา ขึ้นอยู่กับขั้นตอนอื่นๆ เพราะไม่ว่าจะเช่าหรือซื้อ ยังต้องมีกระบวนการเปิด ประมูล การแข่งขัน หรือถ้าซื้อก็ต้องมีงบลงทุนโดยต้องผ่านขั้นตอนตามกฎหมาย

เมื่อถามว่าพรรคร่วมได้พูดคุยถึงการทำงานกันบ้างหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ช่วงเปิดสมัยประชุมสภา วิปจะประสานงานกันและมีการประชุมครม.ทุกสัปดาห์เพื่อหารือการทำงานกันอยู่แล้ว ซึ่งตนเป็นคนที่เปิดโอกาสให้ทุกคนได้แสดงความเห็นอย่างเต็มที่ มีอะไรพูดจากันได้อยู่แล้ว

ชี้คนวิจารณ์ไม่ได้สัมผัสงานจริง

ต่อข้อถามถึงนายสมศักดิ์ เทพสุทิน แกนนำพรรคภูมิใจไทย วิจารณ์การทำงานของพรรคประชาธิปัตย์ทำให้ภาพลักษณ์ที่ดีตกไปอยู่กับตัวเอง ขณะที่งานของพรรคร่วมไม่รับการพิจารณา นายกฯ กล่าวว่า ไม่ทราบ เมื่อถามว่ามองอย่างไรที่คนวิจารณ์ไม่ได้อยู่ในรัฐบาลแต่มีบทบาทในการจัดตั้งรัฐบาล นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า อาจเป็นเพราะคนที่วิจารณ์ไม่ได้มาสัมผัสจากการทำงานโดยตรง

ผู้สื่อข่าวถามว่าจำเป็นต้องทำความเข้าใจนอกรอบกับแกนนำพรรคร่วมรัฐบาลหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า การพบปะกับแกนนำพรรคร่วมมีเป็นระยะแต่ไม่มีอะไรเป็นพิเศษ

เมื่อถามว่าตอนจัดตั้งรัฐบาลนายกฯ มีการพูดคุยและรับประทานอาหารกับแกนนำพรรคร่วมทุกเดือนยังจำเป็นต้องทำต่อไปหรือไม่ เพราะดูเหมือนว่าพรรคร่วมยังคาใจพรรคประชาธิปัตย์ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ก่อนเปิดสมัยประชุมสภาวิสามัญเข้าใจว่าแต่ละพรรคร่วมคงจะพูดคุยกันอยู่แล้ว ตนไม่คาดคิดว่าจะมีปัญหา เพราะงานทุกเรื่องต้องผ่านการประชุมครม. ซึ่งทุกพรรคร่วมรัฐบาลมีรัฐมนตรีเข้าร่วมประชุมอยู่แล้ว และเปิดโอกาสให้พูดคุยแสดงความคิดเห็นอย่างเต็มที่และหลากหลาย

ยันไม่มีใครกดดันได้

เมื่อถามว่าถือเป็นการกดดันรัฐบาลเพื่อให้เกิดการแลกเปลี่ยนโครงการต่างๆ หรือไม่ที่ออกมาวิจารณ์ช่วงก่อนเปิดประชุมสภาสมัยวิสามัญ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า "ผมไม่ทราบ แต่ยืนยันได้ว่าไม่มีอะไรมากดดันผมได้ ผมมีเรื่องกดดันเพียงอย่างเดียวคือปัญหาของประเทศ เพราะเป็นปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน สิ่งนี้เป็นสิ่งเดียวที่ผมต้องเร่งทำงานแก้ไขปัญหา ผมไม่สนใจแรงกดดันอย่างอื่นเลย"

นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ยืนยันว่างานของรัฐบาลเดินหน้า ช่วง 5-6 เดือนที่ผ่านมางานใหม่ของรัฐบาลเดินหน้าอย่างมาก แต่ปัญหายาเสพติด และปัญหาภาคใต้ ตนอยากเห็นการแก้ไขที่ดีกว่าเดิม สิ่งเหล่านี้คือตัวกดดัน เรื่องการเมืองไม่ได้ให้ความสำคัญและไม่มีใครสร้างปัญหา มีแต่ร่วมกันแก้ปัญหา ความเห็นแตกต่างกันเป็นเรื่องธรรมดาและไม่คาดคิดว่าทุกคนจะต้องเห็นตรงกันเราซักซ้อมกันตั้งแต่ตั้งรัฐบาลแล้วว่าการมาทำงานครั้งนี้เพื่อมาแก้ปัญหาวิกฤตซึ่งถือว่าสำคัญที่สุด

"ชวรัตน์"รอสภาพัฒน์ชี้ขาด

นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รมว.มหาดไทย และหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงโครง การเช่ารถเมล์ 4,000 คันของพรรคภูมิใจไทยว่า ที่ผ่านมายังไม่มีมติค รม.ว่าให้ยกเลิก เพียงแต่นำไปศึกษาทบทวนว่ามีความโปร่งใสและคุ้มค่าแค่ไหน และขณะนี้อยู่ระหว่างการศึกษาของสภาพัฒน์ ส่วนจะมีการทำประชาพิจารณ์เกี่ยวกับโครงการเช่ารถเมล์หรือไม่ นายชวรัตน์กล่าวว่า ขึ้นอยู่กับสภาพัฒน์ว่าจะมีความคิดเห็นอย่างไร เพราะเราโยนลูกให้เขาไปแล้ว

เมื่อถามว่าที่ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ส่วนหนึ่งออกมาคัดค้าน แต่นายกฯกลับมีท่าทีเห็นด้วยกับโครงการนี้ จะมองว่าเป็นการกลบข่าวของพรรคประชาธิปัตย์หรือไม่ นายชวรัตน์ ย้อนถามว่า "คิดแบบการเมือง" เมื่อถามว่าการแสดงความเห็นของนายเนวิน ชิดชอบ ควรเป็นเสียงที่พรรคประชาธิปัตย์ต้องรับฟังหรือไม่ นายชวรัตน์กล่าวว่า เป็น การแสดงความคิดเห็นของประชาชนคนหนึ่ง ไม่เกี่ยวกับพรรค

ปัด"สมศักดิ์"วิจารณ์ไม่เกี่ยวพรรค

นายชวรัตน์กล่าวถึงการออกมาวิจารณ์รัฐบาลของนายสมศักดิ์ เทพสุทิน แกนนำพรรคภูมิใจไทยว่า ไม่เกี่ยวข้องกับพรรค เพราะนายสมศักดิ์ติดเป็นหนึ่งใน 111 อดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย การแสดงความคิดเห็นเป็นธรรมดาในฐานะประชาชน ส่วนการให้สัมภาษณ์ทางการเมืองของนายเนวิน ชิดชอบ แกนนำพรรคภูมิใจไทย โดยเฉพาะข้อเสนอที่เห็นว่ารถเมล์เอ็นจีวีควรเช่ามากกว่าซื้อนั้น ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของสภาพัฒน์ ยืนยันว่าพรรคภูมิใจไทยไม่ได้กดดันพรรคประชาธิปัตย์ และไม่ว่าโครงการรถเมล์เอ็นจีวีจะใช้การเช่าหรือซื้อพรรคภูมิใจไทยยอมรับได้ เพื่อประโยชน์ของคนกรุงเทพมหานครและประเทศชาติ

40 ส.ว.ดาหน้าโต้"เนวิน"

น.ส.รสนา โตสิตระกูล ส.ว.กทม. กล่าวถึงรัฐบาลให้สภาพัฒน์ศึกษาจุดคุ้มทุนของโครงการรถเมล์เอ็นจีวี 4 พันคันว่า รัฐบาลกำลังเล่นกล บีบให้ทางเลือกอยู่ที่การเช่าหรือการซื้อ ทั้งที่การแก้ปัญหาหนี้สินของขสมก. ต้องดูแผนการจราจรทั้งระบบแล้วจึงตัดสินใจ ไม่ใช่ยึดเอาการเช่าหรือซื้อรถเมล์มาเป็นธงนำแล้วบังคับให้สังคมคล้อยตาม กรณีนายเนวิน บอกคนที่มาค้านไม่เคยขึ้นรถเมล์ ขอบอกว่าตนเคยขึ้นรถเมล์มานาน เห็นความล้มเหลวมาตลอด นายเนวินอยู่บุรีรัมย์เคยขึ้นรถเมล์หรือไม่ เพราะที่นั่นบริหารรถเมล์เจ๊งจนไม่เหลือให้นั่ง มีแต่รถสองแถว ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าบริหารอย่างไร

นายวรินทร์ เทียมจรัส ส.ว.สรรหา กล่าวว่า ตนเกิดในกทม.รู้เรื่องรถเมล์มากกว่านายเนวิน เพราะนั่งรถเมล์ตั้งแต่เด็กจนจบมหาวิทยาลัย ขอถามนายเนวินว่าทำเพื่อประชาชนจริงหรือ กลุ่มส.ว.ไม่ได้ขัดขวางพวกท่านแต่ขัดขวางคนที่คิดโกงบ้านกินเมืองทำชาติเสียหาย ถ้าพวกท่านแน่ขอให้ดำเนินการโครงการนี้ต่อไป แล้วค่อยมาคุยเรื่องการถอดถอนกัน ขอท้าด้วยว่าให้มาออกรายการผ่านทีวีช่องใดก็ได้ มานั่งคุยถามตอบกันต่อหน้าประชาชนทั่วประเทศไปเลย การทำหน้าที่ของเราไม่ได้เข้าไปก้าวก่าย ชี้นำหรือแทรกแซงการทำหน้าที่ของฝ่ายบริหาร แต่ส.ว.มีหน้าที่ตรวจสอบรัฐบาล เราชี้นำรัฐบาลไม่ได้คนนอกที่ไม่เกี่ยวก็ทำไม่ได้เช่นกัน อย่ามาเล่นเกมหลังฉากแน่จริงก็ให้ออกมายืนหน้าฉากเลยดีกว่า เพราะพวกเราชอบตัวจริงไม่ชอบพวกทำตัวเป็นอีแอบคอยชักใย

ปชป.แฉบิ๊กพท.ดูถูกคนกทม.

เวลา 11.00 น. ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายชนินทร์ รุ่งแสง ส.ส.กทม. พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงนายเนวิน ระบุผลักดันโครงการเช่ารถเมล์ 4 พันคัน เพื่อคะแนนเสียงในกทม.ว่า ยินดีที่นายเนวินให้ความสำคัญกับคนกทม. ซึ่งตนไม่ติดใจ แต่อยากเน้นย้ำว่าคนกทม.ต้องการโครงการที่โปร่งใส บริสุทธิ์เท่านั้น ทั้งนี้ในสัปดาห์หน้า ส.ส. กทม.จะเข้าพบผู้ว่าฯกทม. เพื่อหารือโครงสร้างของระบบขนส่งมวลชนในกทม. เพื่อให้การแก้ปัญหาอย่างมีระบบ ไม่ใช่การไปแยกผลงานของพรรคร่วม

นายชนินทร์ กล่าวว่า ในการประชุมสัมมนาพรรคเพื่อไทยเมื่อวันที่ 5 มิ.ย.ที่ผ่านมา มีคนระดับรองหัวหน้าพรรคแสดงการ ดูถูกคนกทม. และยังขาดภาวะผู้นำ ด้วยการไปบนบานศาลกล่าวแล้วแช่งให้พรรคประชาธิปัตย์ไม่ได้เป็นรัฐบาล ถือว่าล้มเหลวทางภาวะผู้นำมาก

เพื่อไทยไม่เชื่อรัฐบาลบริสุทธิ์ใจ

เวลา 10.00 น.ที่พรรคเพื่อไทย นาย อนุดิษฐ์ นาครทรรพ ส.ส.กทม. พรรคเพื่อไทย แถลงว่า โครงการเช่ารถเมล์เอ็นจีวี ไม่ว่ารัฐบาลจะใช้วิธีเช่าหรือซื้อ คงไม่มีทางฟอกโครงการนี้ให้ขาวสะอาดได้อย่างแน่นอน การที่โยนให้คณะกรรมการสภาการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติไปศึกษานั้น เป็นเพียงการซื้อเวลา และเกรงว่าหากไม่ให้ผ่าน พรรคภูมิใจไทยจะไม่พอใจและอาจไม่ยกมือ ผ่านร่างพ.ร.ก.กู้เงิน หรืออาจจะถอนตัวจากการร่วมรัฐบาล ถ้าเป็นเช่นนั้นแสดงว่ารัฐบาลห่วงเสถียรภาพของตัวเองมากกว่าประโยชน์ของประเทศ ที่จะเสียหายจากผู้ไม่หวังดีที่เข้ามาหาประโยชน์จากโครงการนี้ เนื่องจากเม็ดเงินโครงการนี้ถือว่าสูง

"พรรคไม่แน่ใจว่ารัฐบาลมีความจริงใจเนื่องจากสมัยที่เป็นฝ่ายค้าน รัฐบาลในขณะนั้นพยายามจะขับเคลื่อนโครงการนี้แต่ถูกคัดค้านและอภิปรายว่าโครงการนี้เป็นการโกงอย่าง มโหฬาร แต่วันนี้กลับมีท่าทีที่เปลี่ยนไป" นายอนุดิษฐ์ กล่าว

นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ คณะโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า แม้พรรคจะเห็นว่าโครงการดังกล่าว ถือเป็นสวัสดิการให้กับคนกทม. แต่โดยหลักการเห็นว่ายังคงขัดแย้งกันอยู่ โดยเฉพาะการให้สภาพัฒน์ และสนข.ไปศึกษารายละเอียด เนื่องจาก 2 หน่วยงาน อยู่ภายใต้การดูแลของรัฐบาล อาจมีการเอื้อประโยชน์ จึงอยากให้รัฐบาลกล้าเปิดโอกาสให้ภาคเอกชนที่ทำงานด้านวิจัยมาศึกษา เพื่อตีแผ่ข้อมูลทั้ง 2 ด้าน

วิปมั่นใจพรรคร่วมไม่ป่วนโหวตงบ

นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิป รัฐบาล) กล่าวว่า เชื่อว่าการประชุมสภาเพื่อพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี พ.ศ.2553 รวมถึงพ.ร.ก.และพ.ร.บ.กู้เงิน 8 แสนล้านบาท วันที่ 15-18 มิ.ย.นี้ ไม่น่าจะมีปัญหา เชื่อว่าส.ส.รัฐบาลทุกคนจะยกมือโหวตให้ เพราะเป็นความรับผิดชอบร่วมกัน ในฐานะเสียงข้างมากจะต้องทำให้กฎหมายการเงินทั้ง 3 ฉบับผ่านไปให้ได้ ไม่เช่นนั้นรัฐบาลจะต้องแสดงความรับผิดชอบด้วยการยุบสภาหรือลาออก

เมื่อถามมีโอกาสที่พรรคร่วมรัฐบาลจะ ยึกยักใช้การพิจารณากฎหมายทั้ง 3 ฉบับนี้เป็นเกมต่อรองโครงการใดๆ ที่ครม.ไม่อนุมัติหรือไม่ นายชินวรณ์ กล่าวว่า ไม่น่าจะมี เพราะทุกคนจะได้งบฯ ลงไปพัฒนาท้องที่อย่างเท่าเทียมกัน เพื่อขับเคลื่อนนโยบายให้เดินหน้าไปได้ พูดง่ายๆ ว่าหากไม่โหวตให้ก็จะไม่มีเงินเอาไปใช้

ประธานวิปรัฐบาล กล่าวว่า ได้เรียกประชุม วิปรัฐบาลวันที่ 8 มิ.ย.นี้ เพื่อพิจารณาผู้ที่จะอภิปราย เวลาอภิปราย รวมถึงสัดส่วนกรรมา ธิการวิสามัญเพื่อพิจารณางบฯปี 2553 ด้วย นอกจากนี้ยังนัดวิปฝ่ายค้านมาพูดคุยกันในวันที่ 11 มิ.ย. เพื่อตกลงเรื่องจำนวนผู้อภิปราย และเวลาอภิปราย เพื่อให้การพิจารณาเรียบ ร้อย ไม่มีเหตุวุ่นวายใดๆ ส่วนที่ฝ่าย ค้านเตรียมผู้อภิปรายไว้ 20 คน เน้นการชำแหละ พ.ร.ก.กู้เงินนั้น ก็ไม่ได้กังวลอะไร

"จุมพฏ"โผล่เปิดตัวภูมิใจไทย

วันเดียวกัน ผู้สื่อข่าวรายงานจากวัดโนนสวรรค์ บ้านหนองไผ่-นาดี ต.นาหัวบ่อ อ.พรรณานิคม จ.สกลนคร ซึ่งพรรคภูมิใจไทยจัดสัมมนาพรรคเป็นวันที่ 2 โดยในช่วงเช้ารัฐมนตรี ส.ส.พรรคได้ร่วมกันตักบาตร ซึ่งแต่ละคนมีสีหน้ายิ้มแย้ม หลังจากได้นอนค้างที่บ้านชาวบ้านมาแล้ว 1 คืน โดยเมื่อเวลา 09.00 น. นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รมว.มหาด ไทย หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ได้ทักทายลูกพรรคว่า"หลับดี หลับสบาย อากาศเย็นสบาย ให้นอนทุกคืนยังนอนได้"

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างการสัมมนาพรรค นายจุมพฏ บุญใหญ่ ส.ส.สกลนคร พรรคเพื่อไทย ได้โผล่มาร่วมด้วยท่ามกลางเสียงปรบมือต้อนรับอย่างเป็นกันเอง โดยนายชวรัตน์และนางพรทิวา นาคาศัย เลขา ธิการพรรค ได้เดินไปต้อนรับและมอบเสื้อพรรคภูมิใจไทย ทั้งเสื้อสูทและเสื้อโปโลของพรรคให้ ซึ่งนายจุมพฏได้ถอดเสื้อเชิ้ต สีส้มที่ใส่มาแล้วสวมเสื้อพรรคภูมิใจไทยทันที ทำให้บรรยากาศชื่นมื่น

นายเนวิน ชิดชอบ ในฐานะประธานวิทยากร พูดบนเวทีว่า ให้นายจุมพฏ มาร่วมสัมมนาพรรคด้วยการไปปักดำนาเป็นงานแรก ทำให้สมาชิกพรรคปรบมือต้อนรับอย่างครึกครื้น จากนั้นนายเนวินเดินกอดคอกับนายจุมพฏพูดด้วยสีหน้ายิ้มๆว่า กลับบ้านแล้ว ก่อนที่นายเนวินจะหันมาบอกผู้สื่อข่าวว่า "ลูกน้องเก่าทั้งนั้น จากนี้พรรคจะจัดคาราวานทุกจังหวัด เดือนละครั้ง"

อ้างไม่พอใจถูกสกัดซักฟอก

ขณะที่นายจุมพฏกล่าวว่า ตนใช้เวลา 2-3 วันตัดสินใจมาภูมิใจไทยโดยไม่มีใครชวน แต่ที่มาเพราะไม่พอใจการทำงานของพรรคเพื่อไทยที่ผิดหลักการทำงานของตน 2 เรื่องคือ กรณีนายวิทยา บุรณศิริ ประธานวิปฝ่ายค้าน มอบให้ตนร่างกฎหมายถอดถอน 3 รัฐมนตรีต่อศาลรัฐธรรมนูญ ได้แก่ นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รมว.ยุติธรรม นายโสภณ ซารัมย์ รมว.คมนาคม และนายเกื้อกูล ด่านชัยวิจิตร รมช.คมนาคม ในการโหวตสนับสนุนร่างพ.ร.บ.งบประมาณกลางปี 2552 และมีการล่ารายชื่อส.ส.ได้ 120 รายชื่อเรียบ ร้อยแล้วตั้งแต่วันที่ 5 มี.ค. จึงอยากถามว่าพรรคเพื่อไทยทำไมไม่ดำเนินการเรื่องนี้

นายจุมพฏกล่าวว่า อีกกรณีคือพรรคมอบให้อภิปรายไม่ไว้วางใจนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกฯ แต่ก่อนอภิปรายเพียง 10 นาที กลับห้ามตนอภิปราย ขณะที่นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วน นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล ส.ส.เชียงใหม่ สามารถอภิปรายได้ 2 รอบ ซึ่งเชื่อว่าข้อมูลของตนมีประโยชน์กับประชาชนมากกว่า ซึ่ง 2 เหตุการณ์นี้เป็นผู้มีบารมีนอกพรรคที่อยู่ใกล้พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ เป็นผู้จัดการ รวมทั้งพรรคฝ่ายค้านไม่ยอมทำตามหน้าที่ในฐานะส.ส. ไม่เข้าร่วมประชุม ซึ่งการทำแบบนี้ไม่สมควรมารับเงินเดือนประชาชน

เผย"อนุทิน"คนดึงร่วมพรรค

นายจุมพฏกล่าวว่า หลังจากนี้ตนจะมาร่วมกิจกรรมพรรคภูมิใจไทยอย่างเต็มตัว และหากพรรคสนับสนุนการเลือกตั้งครั้งหน้าก็พร้อมจะลง ตนไม่ห่วงว่าออกจากพรรคเพื่อไทยแล้ว กระแสของพ.ต.ท.ทักษิณจะทำให้ตนไม่ได้รับการเลือกตั้งกลับมา เพราะขึ้นอยู่กับชาวบ้านจะตัดสิน ก่อนหน้านี้ตนเคยสอบตกมา 3 ครั้ง ทั้งนี้ ต้องรอดูว่าพรรคเพื่อไทยจะขับตนออกจากพรรคหรือไม่ หากขับออกตนก็พร้อมจะมาสมัครเป็นสมาชิกพรรคภูมิใจไทยทันที

"ผมจะไม่ลาออกจากพรรคเพื่อไทย เพราะลาออกก็จะหมดสมาชิกภาพ ดังนั้นต้องรอให้ขับออก ที่ผ่านมาผมไม่ได้ร่วมกิจกรรมกับพรรคเพื่อไทยตั้งแต่ผิดหวังจากเรื่องเหล่านี้ แต่ยังทำหน้าที่ในฐานะส.ส.ของพรรค" ส.ส. สกลนคร พรรคเพื่อไทยกล่าว

รายงานข่าวจากคนใกล้ชิดนายเนวินเปิดเผยว่า นายอนุทิน ชาญวีรกูล แกนนำพรรคภูมิใจไทย เป็นผู้ไปทาบทามนายจุมพฏมาร่วมงานด้วยตนเอง เนื่องจากรับทราบมาว่านายจุมพฏต้องการมาร่วมด้วยกับพรรค แต่ยังไม่มีหลักประกันว่าเข้ามาแล้วจะทำงานให้กับพรรคได้แค่ไหน เพราะกลัวว่าเข้ามาแล้วจะเปรียบเหมือนหมาหัวเน่าเหมือนตอนอยู่พรรคเพื่อไทย แต่ตัดสินใจมาเพราะเห็นว่านโยบายพรรคภูมิใจไทยทำได้จริง ไม่ใช่นโยบายเพ้อฝันของพรรคเพื่อไทยที่ขณะนี้เป็นฝ่ายค้าน

"ปู่จิ้น"นำทีมรมต.ดำนา

ต่อมาเวลา 10.30 น. รัฐมนตรีและส.ส. พรรคภูมิใจไทยได้แบ่งกลุ่มไปตามฐานต่างๆ เพื่อเรียนรู้วิถีชีวิตชาวบ้าน อาทิ กลุ่มทำนาปลูกข้าว กลุ่มเลี้ยงปลา กลุ่มทอผ้า กลุ่มเลี้ยงโค-กระบือ ประมาณ 30 นาที ซึ่งระหว่างการร่วมกิจกรรม นายเนวินจะคุมเข้มการทำกิจกรรมของพรรคอย่างใกล้ชิดทุกขั้นตอน โดยนายเนวินจะตะโกนพร้อมเป่านกหวีดประจำกายเป็นระยะว่า "นักเรียนเข้าห้อง เรียนได้แล้ว ดูปัญหาได้แล้ว ช่วยทำเวลา กันหน่อย"

โดยนายชวรัตน์ได้ลงดำนาด้วยสีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส ขณะที่นางพรทิวาได้รับเสียงเชียร์จากนายอนุชา นาคาศัย สามี โดยนายศุภชัย ใจสมุทร โฆษกพรรคพูดกระเซ้าว่า "รมว. พาณิชย์ลงมาปักดำนาเองจะได้รู้ว่าปลูกข้าวแต่ละเม็ดยากเย็นแค่ไหน เวลาประกันราคาข้าวจะได้ให้กิโลละ 100 บาทไปเลย" ส่วนนายประจักษ์ แกล้วกล้าหาญ รมช.คมนาคม ถึงกับถอดเสื้อปักดำนา และเมื่อจะขึ้นคันนาปรากฏพลาดลื่นนอนหงายท้องหล่นลงไปในท้องนา สร้างความครื้นเครง ทำให้กองเชียร์ส่งเสียงเอาใจช่วยดึงขึ้นมา ซึ่งรมช.คมนาคม ยังคงมีสีหน้ายิ้มแย้ม

นายชวรัตน์ให้สัมภาษณ์ภายหลังการปักดำนาว่า ถือเป็นครั้งแรกในชีวิต ซึ่งการจัดสัมมนาของพรรคต้องการให้ส.ส.ได้รู้ชีวิตจริงของชาวบ้าน และนำความรู้ที่ได้ไปช่วยชาวรากหญ้า เพื่อประยุกต์เอานโยบายของพรรคเข้าไปดูแลแก้ปัญหา และในอนาคตอาจจัดสัมมนาเช่นนี้ขึ้นอีกในทุกภูมิภาค

ครูใหญ่"เนวิน"เช็กชื่อเรียงตัว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังการเปิดสัมมนาพรรควัดโนนสวรรค์ บ้านหนองไผ่-นาดี วันแรกเสร็จสิ้นเมื่อเวลา 22.00 น. ของวันที่ 5 มิ.ย. นายเนวินได้กล่าวปิดสัมมนา พร้อมทั้งสั่งการให้รัฐมนตรีและส.ส.ในพรรคทำการบ้านสรุปปัญหาของชาวบ้านส่งตนในวันที่ 6 มิ.ย. โดยนายเนวินกล่าวแสดงความมั่นใจว่า การสัมมนาจะไม่มีรัฐมนตรีและ ส.ส.คนใดกล้าหนีออกจากบ้าน

จากนั้นนายเนวินได้เช็กชื่อแบบรายคนเรียงตัว โดยแนะนำตัวให้ชาวบ้านรู้จัก เมื่อเสร็จสิ้นช่วงแนะนำตัว ส.ส.และรัฐมนตรีต่างแยกย้ายเข้าบ้านพัก โดยนายเนวินได้เดินถือไฟฉายตรวจตราทุกบ้านว่ามีรัฐมนตรีและส.ส.หลบออกจากบ้านหรือไม่ โดยเริ่มต้นที่บ้านพักของนายชวรัตน์ จากนั้นเดินไปยังบ้านพักนางพรทิวา แต่เมื่อไปถึงกลับไม่พบนางพรทิวา ซึ่งเจ้าของบ้านพักบอกว่ายังไม่มีรัฐมนตรีมาพัก ทำให้นายเนวินมีสีหน้าไม่ค่อยดีพร้อมโทรศัพท์สอบถามนายอนุชา สามีนางพรทิวาทันทีว่าอยู่ที่ไหน จึงได้รับคำตอบว่าพักอยู่บ้านอีกหลังหนึ่ง นายเนวินจึงยิ้มออกแล้วพาสื่อไปพบนางพรทิวาในที่สุด

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันที่ 7 มิ.ย. ซึ่งตรงกับวันเกิดของนายชวรัตน์ จะมีการจัดงานเลี้ยงวันเกิดที่ศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงน้ำจืด ถนนใสสว่าง อ.เมืองสกลนคร ในเวลา 15.30 น. ภายใต้ชื่องาน "ฮักแพง แบ่งปัน อายุมั่นขวัญยืน" ก่อนจะเดินทางกลับกรุงเทพฯด้วยเครื่องบินเช่าเหมาลำในเวลา 18.30 น.

"มาร์ค"ฝากอปท.อุดรูงบรั่วไหล

เวลา 15.15 น. ที่รัฐสภา นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกฯ กล่าวในการสัมมนาเรื่องการเสริมสร้างและการเผยแพร่ความรู้ความเข้าใจในการเมืองการปกครอง ในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นพระประมุข แก่ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น(อปท.) และผู้ปกครองท้องที่ว่า งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2553 การจัดเก็บภาษีต่ำกว่าเป้ามาก เงินจะหายไปประมาณ 2 แสนล้านบาท เราต้องปรับเท่าที่ทำได้ อะไรที่ฟุ่มเฟือยเราไม่ทำ แม้สถานการณ์งบประมาณจะเป็นเช่นนี้ รัฐบาลยังมองว่าเราควรลงทุนต่อ จึงออกกฎหมายกู้เงิน 8 แสนล้านบาทเพื่อลงทุนใน 3 ปีข้างหน้า

"สิ่งที่ผมจะทำคือกลางเดือนมิ.ย.นี้ เมื่อกฎหมายด้านการเงินผ่านผมจะให้สมาชิกรัฐสภาได้ทราบว่า ถนน แหล่งน้ำ จะกระจายไปยังจังหวัดต่างๆอย่างไร แต่ต้องขอความร่วมมือผู้บริหารท้องถิ่น 2 เรื่องคือ 1.ให้ช่วยติดตามเร่งรัดให้โครงการเหล่านี้ ให้เข้าไปในพื้นที่เร็วที่สุด 2.ขอให้ติดตามดูแลเรื่องความโปร่งใส อย่าให้รั่วไหล" นายอภิสิทธิ์กล่าว

นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ทั้งหมดที่ทำเพื่อหวังให้เศรษฐกิจไทยฟื้นและมีความเข้มแข็ง ถ้าเราทำสำเร็จจะช่วยประชาชน จะช่วยให้เราผ่านช่วงยากลำบากนี้ ส่วนการช่วยเหลือประชาชนเราใช้เงิน 1.3 แสนล้านบาทแทรกแซงสินค้าเกษตร ตนไปดูตัวเลขในปี 2551 เรารับจำนำมาก ตั้งราคาไว้สูง คนจึงแห่เอาของมาขาย ตอนนี้ของล้นสต๊อก พ่อค้ารู้ว่ารัฐบาลมีของเยอะก็กดราคา แล้วปีต่อไป ถ้ารับจำนำอีกก็ขาดทุนเรื่อยๆ ซึ่งปี 2551 รัฐบาลขาดทุน 3.5 หมื่นล้านบาท

เล็งประกันราคาแทนรับจำนำ

"ผมจึงคิดว่าถ้าเราไม่ใช้วิธีการแทรกแซง แล้วเอาเงิน 3.5 หมื่นล้านบาทมาแจกเกษตรกรเลย จะได้คนละหลายพันบาทอยู่ แล้วไม่กระทบตลาดด้วย ส่วนเรื่องรับจำนำข้าวนาปรัง รัฐบาลทำต่อ ไม่ต้องห่วง แต่พอจบส่วนนี้แล้วรัฐบาลจะพิจารณาว่าจะมีวิธีช่วยเหลือเกษตรกรที่ดีกว่านี้หรือไม่ เราจะเริ่มแนวคิดให้เกษตรกรมาจดทะเบียนตั้งแต่ต้นฤดูกาล เริ่มที่มันสำปะหลัง ต่อไปเป็นข้าว จดทะเบียนว่าใครมีพื้นที่ปลูกเท่าไหร่ แล้วพอช่วงที่จะขายของออกไปก็กำหนดราคาเลยว่ารัฐบาลจะประกันราคาให้เกษตรกร ส่วนที่ขาดก็มาเอาจากรัฐบาลเติมให้เต็มราคาประกัน ไม่ต้องมาบริหารเรื่องสต๊อก ทุกคนได้ประโยชน์ เพราะเรื่องจำนำเอาเข้าจริง คนที่มาร่วมโครงการจำนำไม่เยอะ แค่ร้อยละ 20-30 ของเกษตรเท่านั้น แต่เราต้องช่วยเหลือเกษตรกรทั้งหมด" นายกฯกล่าว

นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ยืนยันว่าในเรื่องเศรษฐกิจรัฐบาลทุ่มเทเต็มที่ หาวิธีการที่จะไปตรงให้มากที่สุด ตนเข้ามาทำงานให้กับคนทุกพื้นที่อย่างเสมอภาค ไม่เลือกที่รักมักที่ชัง ไม่สร้าง 2 มาตรฐานแน่นอน ไม่ว่าจะเป็นคดีการเมืองหรือเรื่องตลาดคลองเตย รวมทั้งเรื่องสถานีโทรทัศน์ หากสถานีโทรทัศน์ใดดำเนินการแล้วผิดกฎหมาย รัฐก็เข้าไปดำเนินการ ตนเป็นนักประชาธิปไตย สามารถวิจารณ์ได้ แต่ที่ทำไม่ได้คือใช้สื่อยุยงให้คนไปทำผิดกฎหมาย เช่น ก่อจลาจล ปิดถนน ใช้ความรุนแรง ประกาศไล่ล่าฆ่าคน เพราะไม่ใช่ส่วนหนึ่งของประชาธิปไตยและเสรีภาพ

"เนวิน"ค้านทันควัน

นายเนวิน ชิดชอบ แกนนำพรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงรัฐบาลเตรียมแก้ปัญหาราคาพืชผลเกษตร โดยเปลี่ยนนโยบายจากการรับจำนำมาเป็นการประกันราคาสินค้าว่า การประกันราคาสินค้าทำให้รัฐบาลขาดทุนล้านเปอร์เซ็นต์อย่างแน่นอน หากกลุ่มพ่อค้ารวมหัวกันกดราคารับซื้อข้าวให้ต่ำกว่าราคาที่รับประกัน รัฐบาลก็ต้องรับภาระเต็มๆ 100 เปอร์เซ็นต์ แต่การรับจำนำรัฐบาลจะนำเอาข้าวมาเก็บไว้ เมื่อเกิดปัญหาราคาข้าวรัฐบาลจะควบคุมกลไกตลาดในการระบายสินค้าให้สอดคล้องกับอุปสงค์ความต้องการซื้อ-ขาย ซึ่งรัฐบาลจะไม่ได้รับความเสียหายมากต่อการรับภาระจ่ายราคาเต็มเหมือนการประกันราคา

"การแก้ปัญหาพืชผลถ้าทำได้เหมือนในต่างประเทศ ด้วยวิธีการคอนแทร็กฟาร์มมิ่ง คือทำสัญญากับเกษตรกร โดยระบุจำนวนผลิตผลที่ผลิตได้ และจำนวนรับซื้อที่แน่นอนว่าต่อไร่จะมีผลิตผลเท่าใดและรับซื้อตามจำนวน จะทำให้เกษตรกรได้รับประโยชน์ ขณะที่ผลิตผลมีการระบายออกสู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง โดยสภาพของประเทศไม่มีอุปสรรคที่จะทำคอนแทร็กฟาร์มมิ่ง ซึ่งทำได้กับผลิตผลการเกษตรทุกประเภท" นายเนวินกล่าว

"สมศักดิ์"ฉุนรัฐบาลล้วงลูก

นายสมศักดิ์ เทพสุทิน แกนนำกลุ่มมัชฌิมา พรรคภูมิใจไทย กล่าวว่ารัฐบาลไม่มีการวางแผนงานที่ดีพอในการบริหารประเทศ ทำให้ต้องคอยตามแก้ปัญหาต่างๆไปทีละโครงการ เช่น ปัญหาโครงการการระบายข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ปัญหาการรับจำนำราคาข้าว รวมถึงปัญหาความขัดแย้งในโครงการเช่ารถเมล์เอ็นจีวี 4,000 คัน การที่รัฐบาลมาคอยแก้ปัญหาทีละโครงการเช่นนี้ จะส่งผลเสียต่อภาพลักษณ์ของรัฐบาลโดยรวม เพราะรัฐบาลจะไม่มีผลงานใดๆ ออกไปสู่ประชาชน และยังทำลายภาพลักษณ์ของพรรคร่วมรัฐบาลที่พยายามเสนอโครงการต่างๆเข้ามาด้วย

"ผมไม่ได้มาให้ร้ายใคร ผมอยากให้รัฐบาลนี้อยู่นานๆ แต่เห็นว่ารัฐบาลนี้อยู่มา 5 เดือนแล้ว ยังไม่มีการสร้างงานเลย แล้วมาคอยดักจับโครงการต่างๆ ที่เสนอเข้ามาทีละเรื่อง ไม่ค่อยแฟร์ เพราะถ้าการทำงานมีแผนอะไรล่วงหน้าก็จะไม่ต้องเข้าๆออกๆในครม. อย่างนี้พรรคร่วมช้ำหมด" นายสมศักดิ์กล่าว

ฉะโครงการปชป.ล้มเหลว

นายสมศักดิ์กล่าวว่า ท่าทีที่ออกมาจากรัฐบาล เป็นเพราะกระทรวงการคลังเก็บภาษีไม่เข้าเป้า ทำให้ต้องกู้เงิน ประกอบกับ โครงการต่างๆ ตามนโยบายของพรรคประชาธิปัตย์ที่ออกมาก่อนหน้านี้ก็ไม่ประสบความสำเร็จ ทั้งโครงการเช็คช่วยชาติ โครงการต้นกล้าอาชีพ หรือโครงการเรียนฟรี แต่จะไม่พูดว่าเป็นเรื่องการเมืองหรือไม่ แต่จะถามว่าการที่โครงการต่างๆไม่ได้ทำเพราะต้องการเอาอะไรมาปิดบังความล้มเหลวหรือไม่

นายสมศักดิ์กล่าวถึงทางออกกับรัฐบาลว่า ถ้ารัฐบาลมีการวางแผนจะเห็นได้ว่าประเทศไทยมีสินค้าเกษตรหลัก 3 ชนิดคือ ข้าว ข้าวโพด และมันสำปะหลัง ซึ่งเป็นสินค้าที่ทดแทนกันในตลาดได้ โดยยกตัวอย่างว่าถ้ารัฐบาลนำมันสำปะหลังไปผลิตเป็นพลังงานทดแทน หรือเอทานอลทั้งหมดจะทำให้มันสำปะหลังหายไป และนำข้าวโพดหรือปลายข้าวไปแทนสัดส่วนในการทำเป็นอาหารสัตว์ ปัญหาสินค้าล้นตลาดก็จะหมดไป โดยที่ไม่ต้องถกเถียงกันว่าจะใช้แนวทางการรับจำนำ หรือการประกันราคา ที่เห็นได้ชัดว่ารัฐบาลจะต้องขาดทุนทั้ง 2 แนวทางตั้งแต่เริ่มแล้ว

"เจ๊วา"หนุนไอเดีย"เนวิน-สมศักดิ์"

นางพรทิวา นาคาศัย เลขาธิการพรรคภูมิใจไทย และรมว.พาณิชย์ ใ

เครดิต :
เครดิต : เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์ข่าวสด


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์