เกาเหลารถเมล์ ลุ้น"สศช."ชี้ขาด "เรดนิวส์"เบรก! บทความทักษิณ
"มาร์ค" โต้ข่าวซดเกาเหลารมต.ภูมิใจไทย กรณีโครงการรถเมล์ 4 พันคัน ย้ำส่งสภาพัฒน์ศึกษาใน 1 เดือนว่าซื้อหรือเช่าคุ้มที่ให้ไปศึกษาใน 1 เดือน อ้างไม่ได้ซดเกาเหลารมต.ภูมิใจไทย เพราะเข้าใจกันดี ปัดข้อเสนอส.ว.ให้ยืดเวลาเป็น 3 เดือนและทำประชาพิจารณ์ บอกไม่จำเป็น "ชวรัตน์"ยังยืนกรานเช่าคุ้มกว่า ยืนยันไม่เกี่ยวเกมต่อรองผ่านพ.ร.บ.งบประมาณ "สุเทพ"ยันสัมพันธ์พรรคร่วมยังเหนียวแน่น มั่นใจพ.ร.ก.กู้เงินและ พ.ร.บ.งบประมาณฯปี"53 ผ่านสภาแน่ "ถาวร" ลูบหลังภูมิใจไทย ชมใจกว้างยอมรับฟังข้อท้วงติง ส.ส.รัฐบาลห่วงกระทบโครงการอื่น จี้แกนนำ 2 พรรคเจรจาลดหวาดระแวง เพื่อไทยฉะนายกฯ-รมว.คมนาคม เลิกเล่นละครน้ำเน่า "จตุพร"อ้างมีข้อมูลเชิงลึกพร้อมแฉในการชุมนุมใหญ่คนเสื้อแดง "เรดนิวส์"เบรกบทความ"ทักษิณ" เผยมีเนื้อหาแรงจนเอามาลงไม่ได้ แกนนำพันธมิตรฯยื่นกกต.จดตั้ง"พรรค การเมืองใหม่"แล้ว
มาร์คย้ำรถเมล์ต้องโปร่งใส
วันที่ 4 มิ.ย. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกฯ ให้สัมภาษณ์กรณี 40 ส.ว.เสนอขยายเวลาศึกษาโครงการเช่ารถเมล์เอ็นจีวี 4 พันคัน จาก 1 เดือนเป็น 3 เดือน และให้หน่วยงานอื่นมาช่วยศึกษาร่วมกับสภาการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ว่า เราไม่ได้เจาะจงที่ตัวสำนัก งานสศช. แต่ส่งเรื่องให้คณะกรรมการของสศช. ซึ่งมีผู้ที่มีประสบการณ์ เชี่ยวชาญและน่าจะมีเครือข่าย ถ้าใช้เวลาศึกษา 1 เดือน หากจำเป็นต้องดึงฝ่ายอื่นเข้ามาก็รายงานมาได้ รัฐบาลยินดี ส่วนการเสนอให้ทำประชาพิจารณ์นั้น เรื่องปรับ ปรุงรถเมล์ทุกคนน่าจะยอมรับได้ ไม่มีใครคิดว่าควรปล่อยให้เป็นอย่างนี้ต่อไป ต้องมีการเปลี่ยนแปลง
"สิ่งที่คนต้องการคือการมีรถใหม่ สะอาด บริการที่ดี ระบบที่สะดวก เชื่อมโยงกับขนส่งมวลชนอื่นได้ในอนาคต ประเด็นเหล่านี้ไม่ควรมาตั้งคำถามว่าควรทำหรือไม่ วันนี้ติดอยู่เพียงว่าการจะได้รถเพื่อเข้าสู่ระบบนั้นวิธีการใดดีที่สุด การเช่าหรือซื้อสิ่งไหนคุ้มค่ามากที่สุด ถ้าตัดสินใจเลือกวิธีการใดแล้ว ต้องไปสู่กระบวนการที่โปร่งใสที่สุดในเชิงการบริหาร สมมติว่าการซื้อดีที่สุด ก็ไม่ใช่ว่าซื้อราคาไหนก็ได้ ต้องเข้าไปสู่กระบวนการที่โปร่งใสว่าจะซื้อในราคาใด ต้องตรวจสอบอีกครั้งหนึ่ง" นายกฯกล่าว
เมื่อถามว่าจะให้ความมั่นใจกับสังคมอย่างไร ว่าโครงการดังกล่าวไม่ใช่แค่การตกลงกันได้ของนักการเมือง โดยประชาชนไม่ได้ประโยชน์ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า เวลานี้ไม่ใช่เรื่องของนักการเมือง แต่ให้สศช.ดูในเชิงเทคนิคและการบริหารว่าวิธีการใดดีที่สุด การจะเดินหน้าในโครงการนี้ได้ ความโปร่งใสสำคัญที่สุด
ปชป.เปล่าจ้องแย่งผลงาน
ต่อข้อถามว่าทำไมรัฐบาลไม่มีนโยบายของตัวเอง นายกฯกล่าวว่า ตนไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญที่จะตอบได้ว่าเช่าหรือซื้อดีกว่ากัน มันมีทั้งข้อดีข้อเสีย ถ้าซื้อก็เป็นสินทรัพย์ของเรา แต่ระบบการซ่อมบำรุงดูแลก็มีปัญหาอย่างที่เป็นอยู่ ถ้าเรามีคนเข้ามารับผิดชอบทุกอย่างได้จะเป็นข้อดี แต่ความยืดหยุ่นและคล่องตัวน้อยกว่า และผลศึกษาก่อนหน้านี้ไม่สามารถบ่งชี้ได้ว่าวิธีไหนดีกว่ากัน
เมื่อถามว่าทำไมรัฐบาลไม่กล้าตัดสินใจแต่ใช้วิธียืดเวลาออกไป นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า รัฐบาลให้เวลาเพียงเดือนเดียว ความจริงเรื่องนี้ค้างมานาน พูดกันตั้งแต่ต้นหรือกลางปีที่แล้วและมีปัญหาด้านตัวเลขมาตลอด มาถึงรัฐบาลนี้เมื่อเสนอโครงการเข้ามา ก็ใช้เวลา 2 สัปดาห์ไปไล่ดูตัวเลขการเช่า สามารถลดเงินลงทุนไปได้มากประมาณ 5 พันล้านบาท แต่ยังมีข้อสงสัยว่าถ้าซื้อจะดีกว่านี้หรือไม่ ต้องไปดูกัน
ส่วนพรรคภูมิใจไทยตั้งแง่ว่ารัฐบาลไม่ผ่านโครงการนี้เพราะต้องการดึงไปเป็นผลงานของพรรคประชาธิปัตย์ นายอภิสิทธิ์ปฏิเสธว่า ไม่มีการพูดถึงตรงนั้น เรื่องโอนรถเมล์ไปให้กรุง เทพมหานครทำ มีมาก่อนจนถึงขั้นมีมติ ครม. ไปแล้ว แต่ทำไม่สำเร็จเพราะมีปัญหาเรื่องหนี้สินที่ค้างอยู่ อย่างไรก็ตามการดำเนินโครงการครั้งนี้จะปฏิรูปองค์การขนส่งมวลชนไปด้วย เพราะระบบตั๋วต้องเปลี่ยนแปลง ต้องเสนอทางออกให้พนักงานเพราะต้องปรับเปลี่ยนจำนวนคนพอสมควรเพื่อลดต้นทุน ต้องมีโครงการที่รองรับพร้อมกับการปรับเปลี่ยนตรงนี้
เห็นด้วย"ซื้อ"ดีกว่า"เช่า"
"ครั้งนี้ไม่ใช่แค่เปลี่ยนรถอย่างเดียว ต้องเปลี่ยนระบบตัวบริการ เหมือนที่ ครม.เมื่อวันที่ 3 มิ.ย. มีมติเรื่องรถไฟให้ชัดเจนเลยว่าต่อไปการรถไฟฯ ที่เป็นตัวแม่ทำในเรื่องของราง แต่การเดินรถ การบริหารทรัพย์สินเรื่องที่ดินต้องแยกออกมา จะทำให้การขาดทุนลดลงเยอะ" นายกฯกล่าว
เมื่อถามว่าเรื่องนี้ต้องเคลียร์ใจกับพรรคภูมิใจไทยหรือไม่ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ทุกอย่างมีเหตุผลชัดเจน และรัฐมนตรีทุกคนเข้าใจดี ไม่มีข้อโต้แย้งอะไร เมื่อถามว่าในรายละเอียดโครงการจับได้บ้างหรือไม่ว่ามีการทุจริต นายกฯกล่าวว่า เรื่องตัวเลขมีการถกเถียงกัน ยังมีที่เห็นต่างกันอยู่ เช่น ดอกเบี้ย โดยเฉพาะค่าซ่อมเป็นปัญหามาก เนื่องจากฝ่ายหนึ่งอิงสภาพที่เป็นอยู่ อีกฝ่ายหนึ่งอิงเอาการศึกษาของสถาบันพระปกเกล้า ซึ่งความจริงไม่ได้ศึกษาเรื่องนี้โดยตรง แต่ศึกษาเรื่องการกำหนดค่าตอบแทนว่ารัฐควรชดเชยเท่าไหร่กรณีรถเมล์ให้บริการฟรีหรือให้บริการ ต่ำกว่าต้นทุน อีกทั้งมีปัญหาถกเถียงกันเรื่องการซ่อม มาตรฐานเรื่องยาง และเรื่องต่างๆ จึงยังมีตัวเลขที่เป็นข้อถกเถียง แต่กระทรวงคมนาคมยืนยันว่าได้ปรับลดลงมาถึงที่สุดแล้ว แต่ยังมีคำถามว่าแล้วถ้าใช้วิธีการซื้อจะถูกกว่ากันหรือไม่ ผู้สื่อข่าวถามว่าหลักในวันนี้คือการรักษาความรู้สึกของพรรคภูมิใจไทย หรือรักษาความรู้สึกของประชาชน นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ตนทำในสิ่งที่คิดว่าจะได้สิ่งที่ดีที่สุดสำหรับประชาชน ขสมก.ต้องฟื้นมาให้ได้และมีการบริการที่ดี ถือเป็นเป้าหมายสำคัญที่สุด
มั่นใจพ.ร.บ.งบฯผ่านฉลุย
เมื่อถามว่าส่วนราชการหลายแห่งใช้วิธีการเช่า นายกฯกล่าวว่า มีทั้งสองกรณีทั้งเช่าและซื้อ หลายหน่วยงานเปลี่ยนจากการซื้อมาเช่า ขณะเดียวกันเริ่มมีหลายหน่วยงานบ่นว่าแพง อย่างกระทรวงยุติธรรมหยิบยกมาพูดว่าพอเช่าไปได้ระยะหนึ่งต้องทบทวนว่าการซื้อถูกกว่าหรือไม่ อย่างไรก็ตาม การเช่ายังมีปัญหาเรื่องอายุการเช่าที่นานถึง 10 ปี ดูจะยาวกว่าอายุการใช้งานของรถ ผู้สื่อข่าวถามว่าดูเหมือนนายกฯ เห็นด้วยกับการซื้อมากกว่า นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ใช่ แต่มีข้อกังวลว่าถ้าซื้อแล้วการซ่อมบำรุง การรักษารถยังคงเป็นอย่างในปัจจุบันก็ลำบาก ช่วงเริ่มต้นการซื้อจะดูถูกกว่า แต่ถ้าค่าซ่อมเป็นอย่างที่เป็นอยู่ กว่าจะครบ 10 ปีตามอายุการเช่าอาจจะแพงกว่า จึงต้องให้กลับไปดูให้ชัดเจนว่าวิธีใดน่าจะดีที่สุด
นายอภิสิทธิ์กล่าวถึงการกำชับส.ส.เข้าประ ชุมสภาสมัยวิสามัญเพื่อพิจารณาพ.ร.ก.กู้เงิน 4 แสนล้านบาท ร่างพ.ร.บ.กู้เงิน 4 แสนล้านบาท และร่างพ.ร.บ.งบประมาณฯ 2553 ว่า วิปรัฐบาลดูแลอยู่ และแต่ละพรรคต้องประชุม ส.ส. โดยเราขอตัวเลขส.ส.และรายชื่อที่ขาดประชุมในการประชุมสมัยที่ผ่านมาแล้ว คงให้แต่ละพรรคไปช่วยดูแล ส่วนที่มีส.ส. บางส่วนไปดูงานต่างประเทศกับคณะกรรมาธิ การ ได้ขอความร่วมมือจากประธานรัฐสภาไปแล้ว การเปิดประชุมสภาสมัยวิสามัญครั้งนี้ตนตั้งใจว่าพ.ร.ก.กู้เงิน 4 แสนล้านบาทจะได้รับความเห็นชอบ รวมถึงร่างพ.ร.บ.กู้เงิน 4 แสนล้านบาทและร่างพ.ร.บ.งบประมาณฯจะผ่าน การพิจารณาในวาระที่ 1 กำหนดเป้าหมายไว้อย่างนั้น และยังเชื่อว่าทำได้ เมื่อถามว่ามีส.ว.บางส่วนประกาศจะคว่ำกฎหมายการเงินเหล่านี้ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า เป็นความคิดเห็นที่เราต้องไปอธิบาย
"เทือก"ปัดดอดหารือ"เนวิน"
นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯ ให้สัมภาษณ์ถึงโครงการเช่ารถเมล์ว่า รัฐมนตรีส่วนใหญ่เห็นว่าโครงการนี้ช่วยให้ ขสมก.ทำ งานได้ดีขึ้น และจัดหารถที่มีคุณภาพดีมาให้บริการกับประชาชน ยืนยันว่าโครงการนี้ต้องทำแน่นอน แต่ปัญหาอยู่ว่าทำอย่างไรจึงจะได้ผลดีที่สุด ซึ่งเป็นปัญหาที่ ครม.ต้องรับผิดชอบร่วมกัน ส่วนการตั้งข้อสังเกตว่ารัฐบาลดึงเรื่องนี้เพื่อรอการเสนอร่างพ.ร.บ.งบประมาณฯ ปี 2553 เข้าสภา นายสุเทพกล่าวว่า รัฐบาลทำทุกอย่างตรงไปตรงมา ครม.ทุกคนทำงานเต็มที่ แม้แต่ รมว.กลาโหมซึ่งปกติไม่ค่อยอภิปรายก็แสดงความเห็นอย่างชัดเจน ไม่มีใครดึงเกมหรือซื้อเวลา ทุกคนทำตามหน้าที่ของแต่ละคน
เมื่อถามถึงกรณีที่มีข่าวว่าได้ไปหารือนอกรอบกับนายเนวิน ชิดชอบ แกนนำพรรคภูมิใจไทย ก่อนนำเรื่องนี้เข้าครม. นายสุเทพกล่าวว่า มีแต่ข่าว พูดกันไปเรื่อย ตนอ่านจากข่าวระบุว่าตนถือโอกาสนำเรื่องนี้ไปคุยในที่ประชุมกับนายเนวินเพราะนายกฯไม่อยู่ บางคนบอกว่าตนไปตกลงกับนายเนวินจึงรีบนำเรื่องเข้าครม. ต้องบอกว่าเรื่องนี้พิจารณากันมาหลายครั้งแล้ว เมื่อครบกำหนดที่กระทรวงคมนาคมต้องเสนอเรื่องเข้าครม. และอยู่ในช่วงที่ตนรักษาการแทนนายกฯ เรื่องนี้ก็ถูกส่งมาให้พิจารณาจึงอนุมัติและนำเสนอ ครม.ตามปกติ ต่อข้อถามว่าความสัมพันธ์ระหว่างพรรคประชาธิปัตย์กับภูมิใจไทยยังเหมือนเดิมหรือไม่ เพราะมีข่าวว่านายเนวิน สั่งให้พรรคภูมิใจไทยตรวจสอบโครงการของพรรคประชาธิปัตย์ รองนายกฯกล่าวว่า ไม่เป็นปัญหา เราตรวจกันไปมาถือว่ารอบคอบดี และเป็นประโยชน์กับบ้านเมือง
มั่นใจ"พรรคร่วม"ยังแน่นปึ้ก
เมื่อถามว่าโครงการนี้ถูกตีกลับอีกจะมีผลต่อการยกมือโหวตพ.ร.ก.กู้เงินหรือไม่ นาย สุเทพกล่าวว่า ไม่มีผล เพราะส.ส.รัฐบาลต้องยกมือสนับสนุนกฎหมายของรัฐบาลอยู่แล้ว เมื่อถามว่ารัฐบาลจะอยู่ได้หรือไม่ถ้าผลการพิจารณาของสภาพัฒน์ไม่เป็นที่พอใจของพรรคภูมิใจไทย นายสุเทพกล่าวว่า ทำไมรีบถาม ไม่รอถามตอนครบ 1 เดือน ส่วนข้อสังเกตว่าถ้างบประมาณผ่านสภาต่างฝ่ายจะแยกย้ายกันไป นายสุเทพกล่าวว่า อย่ามองโลกในแง่ร้ายมาก ให้มองอะไรดีๆ ว่าต่อจากนี้จะเหนียวแน่นกันกว่าเดิมก็ได้
นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึง ครม.มีมติมอบให้สภาพัฒน์ไปศึกษาโครงการเช่ารถเมล์เอ็นจีวี 4 พันคันว่า เป็นเรื่องที่ดี จะได้โปร่งใส เมื่อครบ 1 เดือนเชื่อว่าทุกฝ่ายจะยอมรับได้ ส่วนที่พรรคเพื่อไทยพยายามฉวยโอกาสยุแยงให้เกิดความแตกแยกในพรรคร่วมรัฐบาล ยืนยันว่าเป็นไปไม่ได้ รัฐบาลยังมีเสถียรภาพเหนียวแน่น ทุกพรรคร่วมรัฐบาลมีจุดยืนนำพาบ้านเมืองให้พ้นวิกฤต อีกทั้งกระแสสังคมก็สนับสนุนรัฐบาล สำหรับกรณีศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่าพ.ร.ก.กู้เงิน 4 แสนล้านไม่ขัดรัฐธรรมนูญ อยากถามหาความรับผิดชอบจากฝ่ายค้านที่ยื่นให้ศาลตี ความ เมื่อผลวินิจฉัยออกมาแล้วยังมีส.ส.พรรคเพื่อไทยประกาศจะคว่ำพ.ร.ก.ในสภาด้วย หากเปรียบเทียบบ้านเมืองขณะนี้จะเหมือนคนป่วยขั้นโคม่า ต้องได้รับการเยียวยาส่งโรงพยา บาล แต่กลับมีคนจำนวนหนึ่งอยากจะกระทืบซ้ำ จึงอยากให้สังคมตรวจสอบว่าคนกลุ่มนี้หวังดีต่อบ้านเมืองหรือไม่ หรือจะฉุดรั้งรัฐบาลไม่ให้แก้วิกฤตเศรษฐกิจได้
ลูบหลัง-ชม"ภท."ใจกว้าง
ด้านนายถาวร เสนเนียม รมช.มหาดไทย กล่าวว่า ตนคัดค้านโครงการเช่ารถเมล์มาตั้งแต่เป็นฝ่ายค้าน แต่ตอนนั้นเป็นการเช่า 6 พันคัน วงเงิน 1.1 แสนล้านบาท ซึ่งได้รับการทักท้วงมาจากประชาชน จำเป็นต้องสอบถามพร้อมทั้งอภิปรายไม่ไว้วางใจในโครงการดังกล่าว ต่อมามีการตั้งพล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ รองนายกฯมาเป็นประธานทบทวนโครงการ ได้ปรับลดจำนวนรถเมล์ที่จะเช่าและวงเงินของโครงการลงมา จนมาถึงสมัยรัฐบาลนี้ได้เสนอเรื่องเข้าครม. ซึ่งหลายคนเห็นว่าแม้จะปรับลดลงมาแล้วแต่วงเงินยังสูงอยู่ จึงสอบถามและขอให้ทบทวน ตนจึงเสนอให้ตั้งคณะกรรมการที่เป็นกลาง แต่นายกฯบอกว่าน่าจะหายาก จึงขอให้หน่วยงานที่เป็นที่เชื่อถือคือสภาพัฒน์เข้ามาทำหน้าที่นี้ ทุกคนก็เห็นด้วย
นายถาวรกล่าวว่า เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับการพิจารณาพ.ร.บ.งบประมาณฯ เพราะส.ส.ทุกคนมีวุฒิภาวะและรู้ว่าพ.ร.บ.งบประมาณมีความสำคัญในการบริหารประเทศอย่างไร อย่างไรก็ตามในที่ประชุมครม.ทุกคนพูดกันด้วยดี เห็นใจนายโสภณ ซารัมย์ รมว.คมนาคม และพรรคภูมิใจไทย ไม่มีใครไปพูดหรือสงสัยว่าโครงการนี้จะทุจริต แต่ย้ำว่ามีข้อทักท้วงจากประชาชน จึงต้องรับฟัง พรรคภูมิใจไทยยอมให้สภาพัฒน์ไปศึกษา แสดงให้เห็นถึงความใจกว้างและยอมรับความเห็นคนอื่น พรรคประ ชาธิปัตย์และภูมิใจไทยยังทำงานร่วมกันได้ดี ยิ่งในกระทรวงมหาดไทย รมว.มหาดไทยเห็นตนเป็นน้อง แม้จะต่างพรรคกันแต่มาทำงานให้ประเทศชาติเหมือนกัน
"ชวรัตน์"ยืนกรานเช่าดีกว่า
เวลา 08.30 น. ที่วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รมว.มหาดไทย นายชำนิ บูชาสุข ที่ปรึกษา รมว.มหาดไทย นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ ประธานคณะทำงาน รมว.มหาดไทย นายวิชัย ศรีขวัญ ปลัดกระ ทรวงมหาดไทย นายอนุวัฒน์ เมธีวิบูลวุฒิ อธิบดีกรมที่ดิน นายอุดม พัวสกุล อธิบดีกรมโยธาธิการและผังเมือง พร้อมข้าราชการระดับสูงของกระทรวง ทำบุญถวายสังฆทานแด่พระสาสนโสภณ เจ้าอาวาส พร้อมพระภิกษุรวม 9 รูป เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันเกิดครบอายุ 73 ปีวันที่ 8 มิ.ย.
จากนั้นเวลา 09.00 น. ที่กระทรวงมหาด ไทย นายถาวร เสนเนียม รมช.มหาดไทย พร้อมทั้งปลัดกระทรวงมหาดไทย นำผู้บริหารกระทรวงและผู้ว่าราชการจังหวัดเข้าอวยพร โดยนายชวรัตน์มอบของที่ระลึกเป็นพระสมเด็จเกศไชโย รุ่นสบายใจ วัดเกศไชโยวรวิหาร จ.อ่างทอง เหรียญครบรอบ 100 ปี กระทรวงมหาดไทย เจลล้างมือป้องกันโรคหวัดสายพันธุ์ใหม่ 2009 ให้ผู้มาอวยพร
นายชวรัตน์กล่าวถึงกรณี ครม.มีมติให้สภาพัฒน์ไปศึกษาโครงการเช่ารถเมล์เอ็นจีวีว่า ไม่ใช่การซื้อเวลา แต่นายกฯ อยากให้มีการศึกษาให้ถ่องแท้ถึงผลดีผลเสียของการเช่าหรือซื้อ แล้วจึงเสนอใหม่อีกครั้งภายใน 30 วัน ตนและพรรคภูมิใจไทยก็พอใจ และหากผลการ พิจารณาของสภาพัฒน์ระบุว่าซื้อดีกว่าเช่า เราก็ต้องยอมรับและทำตาม เพราะจุดประสงค์ของเราคือการให้มีรถวิ่งเพื่อประโยชน์ของประเทศ จะซื้อหรือเช่าก็ได้ แต่ส่วนตัวคิดว่าการเช่าจะดีกว่า เพราะอย่างตนตอนนี้ก็ใช้รถเช่าเพราะควบคุมงบประมาณได้ ค่าใช้จ่ายหลายอย่างไม่ว่าค่าประกัน ค่าซ่อมไม่ต้องเสีย ถ้าดีดลูกคิดแล้วเห็นว่าคุ้มกว่าก็น่าสนใจ
อัด 40 ส.ว.ไม่เข้าใจปัญหา
ส่วนที่มีการวิจารณ์ว่ารัฐบาลชะลอโครง การเช่ารถเมล์ดังกล่าวออกไป เพื่อรอให้สภาสมัยวิสามัญพิจารณาผ่านร่างพ.ร.บ.งบประ มาณฯ ปี 2553 ไปก่อนหรือไม่ รมว.มหาด ไทยและหัวหน้าพรรคภูมิใจไทยกล่าวว่า ไม่เกี่ยวกัน เป็นคนละเรื่อง พ.ร.บ.งบประมาณฯ กับเรื่องรถเมล์ไม่มีความเกี่ยวพันกันเลย
เมื่อถามว่าแต่กลุ่ม 40 ส.ว.นำมาเป็นประเด็นเชื่อมโยงโดยระบุหากรัฐบาลผ่านโครงการเช่ารถเมล์ก็จะไม่โหวตให้พ.ร.บ.งบประมาณฯ นายชวรัตน์กล่าวว่า คิดว่ากลุ่ม 40 ส.ว.นั้นไม่เข้าใจการเมือง และเรื่องรถเมล์เกิดจาก ขสมก.ต้องขาดทุนวันละ 15 ล้านบาท คิดเป็น 450 ล้านบาทต่อเดือน ขาดทุนสะสมอีก 4-7 พันล้านบาท การเสนอโครงการนี้เพื่อแก้ปัญหาของขสมก. และทำให้ประชาชนได้ประโยชน์ ได้ใช้รถเมล์ที่มีประสิทธิภาพ คิดว่า 40 ส.ว.คงไม่เข้าใจ เพราะที่บอกว่าให้รอไปอีก 3 เดือนนั้น ไม่เข้าใจว่าให้รอไปทำไม มีประ โยชน์อะไร และจะแตกต่างอะไรกับที่จะตัดสินใจเลย บางทีตนยังเห็นว่า 30 วันช้าไปเสียด้วยซ้ำ
ผู้สื่อข่าวถามว่าเป็นไปได้หรือไม่ว่าพรรคประชาธิปัตย์จะเล่นเกมการเมือง โดยให้พรรคภูมิใจไทยโหวตผ่านร่างพ.ร.บ.งบประมาณฯ ก่อน แต่ ครม.จะไม่ผ่านโครงการเช่ารถเมล์ให้ นายชวรัตน์กล่าวว่า อย่ามองคนในแง่ร้าย เรื่องนี้ไม่ใช่การยื่นหมูยื่นแมว มีแต่ยื่นโครงการให้กัน
สุวิทย์อ้างติดธุระ-เปล่าชิ่ง
ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสุวิทย์ คุณกิตติ รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม หัวหน้าพรรคกิจสังคม ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่มีข่าวว่าเดินออกจากห้องประชุม ครม.ไปก่อน เพราะไม่ต้องการอยู่ร่วมรับผิดชอบในการพิจารณาโครง การเช่ารถเมล์ 4 พันคันว่า ตนไม่ได้ตั้งใจจะหนีไปไหน แต่จำเป็นต้องเดินทางไปราชการที่จังหวัดอุดรธานี และขอน แก่น ตนพยายามอยู่ร่วมประชุมกับ ครม.จนวินาทีสุดท้ายก่อนเครื่องบินจะออก แต่ยังไม่ถึงการพิจารณาโครงการดังกล่าว จึงได้ขอออกจากห้องประชุมไปก่อนในเวลาประมาณเที่ยงเศษ เพราะต้องไปขึ้นเครื่องที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิในเวลา 13.30 น. ซึ่งเท่าที่พูดคุยกันเห็นว่าไม่มีปัญหา จึงไม่จำเป็น ต้องอยู่
"เรื่องนี้ในพรรคร่วมรัฐบาลไม่มีปัญหาขัดแย้งกัน ทุกโครงการสามารถทำได้แต่ต้องดูให้รอบคอบ มีเหตุผล และชี้แจงกับประชาชนได้" นายสุวิทย์กล่าว เมื่อถามว่ามีหลายคนประเมินว่าหากโครงการนี้ไม่ผ่านแล้วรัฐบาลจะพัง นายสุวิทย์กล่าวว่า ไม่มี เพราะทุกคนบอกว่าแล้วว่าไม่มีปัญหา และเชื่อมั่นว่าเรื่องนี้จะไม่เป็นการจุดชนวนทำให้เกิดปัญหาในรัฐ บาล วันนี้ทุกคนทราบดีว่าบ้านเมืองต้องการความรู้รักสามัคคี การหันหน้าเข้าหากัน และช่วยกันแก้ปัญหาบ้านเมือง ซึ่งตนยังเชื่อมั่นว่ารัฐบาลจะบริหารประเทศได้อย่างดีและมีประ สิทธิภาพ
ห่วงกระทบโครงการอื่น
นายชนินทร์ รุ่งแสง ส.ส.กทม. พรรคประชาธิปัตย์ แถลงว่า ขอเรียกร้องให้ทุกฝ่ายที่หวังดีกับบ้านเมือง และมีข้อมูลโครงการเช่ารถเมล์เอ็นจีวี 4 พันคัน ร่วมมือกับสศช. ตนไม่คัดค้านหากจะใช้วิธีการเช่า เช่าซื้อ หรือซื้อรถเมล์ อยากให้ทุกฝ่ายยอมรับในผลสรุปที่เกิดขึ้น เนื่องจากคน กทม.รอโครงการนี้อยู่ ขอให้รัฐบาลมอบให้หน่วยงานใดหน่วยงานหนึ่งศึกษาระบบขนส่งมวลชนให้เป็นระบบและให้มีการบริหารงานที่มีประสิทธิภาพ ลดการขาดทุนในอนาคต รวมถึงศึกษาแนวทางการฟื้นฟูระบบขนส่งมวลชนที่อาจเชื่อมโยงกันได้ เช่น กทม. ขสมก. และรฟม.
นายชนินทร์กล่าวว่า ตนเป็นห่วงพรรคร่วมรัฐบาลที่อาจมีผลข้างเคียงบ้าง อยากให้แกนนำไปคุย และประสานเรื่องการทำงานระหว่างกระทรวง หรือกระทรวงเดียวกันแต่มีรัฐมนตรีต่างพรรค ตนเป็นห่วงเรื่องความหวาดระแวงการทำงาน จึงควรประสานให้เรียบร้อยก่อนที่สภาจะพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณฯ ปี"53 การพูดถึงความหวาดระแวง หมายถึงการประสานงานกันที่อาจมีความไม่เข้าใจ หากไม่คุยกันให้ชัดเจนอาจทำให้โครงการอื่นๆ เห็นไม่ตรงกัน เกิดความล่าช้า เช่น กระทรวงมหาดไทยและกระทรวงพาณิชย์ ไม่ได้หมายถึงโครงการใหญ่ๆ และไม่ได้หมาย ความว่ามีความขัดแย้งกันแต่มองว่าอาจมีความหวาด ระแวงกัน
กมธ.ฉุนขสมก.เบี้ยวชี้แจง
ที่รัฐสภา นายวิลาศ จันทรพิทักษ์ ประ ธานคณะกรรมาธิการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ สภาผู้แทนฯแถลงกรณีนายปิยะพันธ์ จัมปาสุต ประธานบอร์ดขสมก.อ้างเหตุที่ไม่มาชี้แจงโครงการเช่ารถเมล์เพราะไม่ได้รับหนังสือเชิญว่า พูดจาคลาดเคลื่อน เอาดีเข้าตัว กรรมาธิการทำหนัง สือเชิญล่วงหน้า 3 วันตามระเบียบ ตั้งแต่วันที่ 29 พ.ค. ให้มาชี้แจงวันที่ 2 มิ.ย. มีหลักฐานว่านายปิยะพันธ์มอบหมายให้นายชัยรัตน์ สงวนซื่อ รองประธานบอร์ดมาชี้แจงแทน แต่เมื่อถึงเวลาได้รับแจ้งจากนายชัยรัตน์ว่าติดประชุมกับ รมว.คมนาคมไม่สามารถมาได้ ตนจึงพูดกับนายชัยรัตน์ว่าทำอย่างนี้เสียหาย ปล่อยให้กรรมาธิการ 15 คนนั่งรอได้อย่างไร ถือว่ามีเจตนาบ่ายเบี่ยง ดังนั้น จะเชิญมาชี้แจงอีกวันที่ 9 มิ.ย. ถ้ายังบ่ายเบี่ยงจะมีโทษ
นายชาญชัย อิสระเสนารักษ์ รองประธานกรรมาธิการ กล่าวว่า วันนี้ที่ประชุมกรรมาธิ การเชิญนายสุพจน์ ทรัพย์ล้อม ประธานบอร์ดรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) นายชูเกียรติ โพธยานุวัต รองผู้ว่าฯ รฟม. และนางสร้อยทิพย์ ไตรสุทธิ์ กรรมการสรรหาผู้ว่าฯ รฟม. มาชี้แจงโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีม่วง ปรากฏว่าไม่มาชี้แจงแม้ แต่คนเดียว ทั้งที่รัฐธรรมนูญมาตรา 135 ให้อำนาจกรรมาธิการเรียกผู้มีอำนาจ ข้าราชการและเอกสารใดๆได้ บุคคลเหล่านี้จะต้องมา ไม่เช่นนั้นจะถูกลงโทษจำคุก 6 เดือน ส่วนกรณีนายปิยะพันธ์ อ้างว่าการเช่ารถเมล์เอ็นจีวี 4 พันคันเคยถามสภาพัฒน์แล้วนั้น ขณะนั้นโครงการมีมูลค่าแสนล้านบาท แต่สภาพัฒน์ใช้เวลาตรวจสอบและส่งกลับไม่ถึง 24 ชั่ว โมงว่าทำได้ ถือว่าผิดปกติมาก ส่วนที่ ครม.มีมติให้สภาพัฒน์พิจารณาอีกจะเป็นการซื้อเวลาหรือไม่ไม่ทราบ เป็นดุลยพินิจของสื่อและประชาชน
ส.ว.แนะเปลี่ยนวิธีประมูล
ที่รัฐสภา นายธวัช บวรวนิชกุล ส.ว.สรร หา ในฐานะเลขานุการคณะกรรมาธิการคมนา คม วุฒิสภา ให้สัมภาษณ์ถึงการที่ ครม.ตีกลับโครงการเช่ารถเมล์ให้สภาพัฒน์ไปศึกษาว่า เป็นการซื้อเวลาของรัฐบาล ไม่ใช่การแก้ปัญหา ยอมรับว่าเป็นโครงการที่ดีและมีการศึกษามานานแล้วว่าขสมก.ควรใช้วิธีเช่า ไม่ควรซื้อมาบริหารเอง เนื่องจากการบริหารจัดการภายในขสมก.มีปัญหา รัฐบาลต้องกล้าตัดสินใจให้เร็วที่สุด เพราะจะเกิดประโยชน์ต่อประชาชนผู้ใช้บริการอย่างแท้จริง แต่ต้องเปลี่ยนวิธีการประมูล เปิดโอกาสให้เอกชนเข้าร่วมแข่งขันอย่างกว้างขวาง ไม่ใช่กำหนดให้มีธนาคารค้ำประกันเป็นวงเงินสูงถึง 3,500 ล้านบาทเหมือนปัจจุบัน รัฐบาลควรศึกษาวิธีการประมูลใหม่ คณะกรรมาธิการศึกษาเรื่องนี้มานาน เป็นโครง การที่ดีแต่ไม่เปิดกว้างในการประมูล หากลดให้บริษัทที่มีทุนจดทะเบียน 100 ล้านบาทเข้าร่วมประมูลได้ จะมีเอกชนจำนวนมากแย่งเสนอราคา
เมื่อถามถึงหลายฝ่ายวิจารณ์เรื่องค่าซ่อมบำรุงที่สูงเกินไป นายธวัชกล่าวว่า เครื่องยนต์เอ็นจีวีมีการสึกหรอมากกว่าเครื่องยนต์ธรรม ดา แต่คุ้มกว่าในเรื่องราคา ยอมรับว่าราคาที่กำหนดสูงเกินไป หากคิดว่าระยะเวลาเช่านานเกินไปสามารถแบ่งการเช่าออกเป็น 2 ช่วงให้เหลือ 5 ปีได้ และจะได้รถใหม่มาให้บริการ รับประกันได้เลยว่ามีเอกชนจำนวนมากต้อง การนำรถเมล์ของบริษัทตัวเองเข้าร่วมบริการ จึงไม่อยากให้แก้ปัญหาด้วยการซ้ำเติมขสมก. ให้มีภาระมากขึ้น
ขสมก.แจงข้อเสียซื้อแทนเช่า
นายปิยะพันธ์ จัมปาสุต ประธานบอร์ดขสมก. กล่าวว่า ยังไม่ทราบว่ารัฐบาลต้องการให้ขสมก.เช่ารถเมล์เอ็นจีวีหรือซื้อ ต้องรอผลการศึกษาจาก สศช.ก่อน หากผู้มีอำนาจว่าอย่างไรขสมก.พร้อมปฏิบัติตาม ถ้าถามขสมก. เห็นว่าการเช่าดีกว่า เพราะเอกชนจะเข้ามาบริการจัดการด้านการซ่อมแซมรถให้ขสมก. ด้วย ซึ่งเรื่องนี้ขสมก.ไม่มีความชำนาญเหมือนกับบริษัท ขนส่ง จำกัด (บ.ข.ส.) เนื่องจาก บ.ข.ส.มีเงินมากกว่า และมีศูนย์ซ่อมรถที่ดีมีประสิทธิภาพ
"หากเห็นชอบให้ขสมก.ซื้อแทนการเช่า เราคงต้องกลับมาตั้งหลักใหม่เพราะไม่เป็นไปตามแผนการที่วางไว้ เพราะจะบริหารจัดการเดินรถ และต้องมาจ้างซ่อมรถแยกส่วนอีกต่างหาก หากรถเสียหรือพังจะไม่มีรถมาเปลี่ยน ทำให้ขสมก.ขาดรายได้ในเส้นทางที่มีรถเสีย" นายปิยะพันธ์กล่าว
ประธานบอร์ดขสมก.กล่าวต่อไปว่า ถ้ารัฐ บาลต้องการให้ขสมก.ซื้อรถเมล์เอ็นจีวี คาดว่าในช่วงปีที่ 1-2 คงไม่มีปัญหาในการซ่อมรถ แต่ถ้าใช้ไปนานๆ โดยเฉพาะในปีที่ 3-7 หากรถเสียจะทำให้ขสมก.มีปัญหาจัดหาค่าซ่อมรถ เมื่อถึงเวลานั้นใครจะเข้ามาช่วยดูแลรับผิดชอบ จะกลายเป็นปัญหาวนเวียนกันไม่จบ เช่นเดียวกับปัญหาที่เกิดขึ้นกับขสมก.อยู่ทุกวันนี้
พท.ฉะเลิกเล่นละครน้ำเน่า
ที่รัฐสภา นายวิชาญ มีนชัยนันท์ ส.ส. กทม. พรรคเพื่อไทย แถลงถึงมติ ครม. ให้ทบทวนโครงการเช่ารถเมล์เอ็นจีวี 4,000 คัน พร้อมมอบหมายให้คณะกรรมการ สศช. ไปศึกษาว่า โครงการดังกล่าวเคยผ่านการพิจารณา จาก สศช.ไปแล้ว ตั้งแต่สมัยรัฐบาลนายสมัคร สุนทรเวช และนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ เป็นนายกฯ ก่อนหน้านี้ผู้ประกอบการเดินรถร่วมภาคเอกชนเคยเรียกร้องให้รัฐบาลเปิด ช่องให้รถร่วมภาคเอกชนมีโอกาสเสนอราคาเข้าแข่งขัน ในราคา 2,500 บาทต่อคันต่อวันเท่านั้น ควรนำเรื่องนี้เป็นส่วนหนึ่งในการศึกษาด้วย หากอนุมัติตามโครงการที่กระ ทรวงคมนาคมเสนอจะยิ่งทำให้ขสมก.ขาดทุน อยากให้สังคมจับตาโครงการรถบีอาร์ทีของ กทม.งบ 1,500 ล้านบาทที่กำหนดการเดินรถปลายปีนี้ เนื่อง จากส่อเค้าว่าไม่โปร่งใส เช่นเดียวกับกรณีรถและเรือดับเพลิงสมัยนายอภิรักษ์ โกษะโยธิน เป็นผู้ว่าฯ กทม.
นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล ส.ส.เชียง ใหม่ พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ขอเรียกร้องให้นายอภิสิทธิ์ และนายโสภณ ซารัมย์ รมว.คม นาคม เลิกเล่นละครน้ำเน่า รัฐบาลชุดนี้ไม่สามารถพิสูจน์ความโปร่งใสโครงการรถเมล์เอ็นจีวีได้อย่างแน่นอน ขอฟันธงว่ารัฐบาลกำลังนับถอยหลังเพื่อนำไปสู่การยุบสภา ฝากไปยังพรรคภูมิใจไทย ว่าพรรคประชาธิปัตย์กำลังเล่นเกมเอาความดีใส่ตัวเอาความชั่วให้คนอื่น
"จตุพร"อ้างมีข้อมูลเชิงลึก
นายไพโรจน์ อิสระเสรีพงษ์ ส.ส.กทม. พรรคเพื่อไทย แถลงกรณีการรับประมูลข้าวของรัฐบาลว่า พรรคติดตามการประมูลข้าวของกระทรวงพาณิชย์ พบข้อมูลทำให้รัฐบาลเสียหาย เพราะเอื้อประโยชน์ให้ผู้ประมูลข้าวได้รับส่วนต่างของราคาที่ทำสัญญาซื้อขายกับรัฐกว่าหมื่นล้านบาท โดยเฉพาะการประมูลข้าวของกระทรวงพาณิชย์ ที่ยอมให้เอกชนร่วมประมูล มีการผูกมัดกับรัฐบาลด้วยการเซ็นสัญญาซื้อขายโดยไม่ผ่านมติครม. ส่งผลให้รัฐขาดทุน 20,000 ล้านบาท ส่งผลเสียหายต่อราคาในปัจจุบันที่มีส่วนต่างกว่า 10,000 ล้านบาท เช่น การประมูลข้าวที่ จ.ปทุมธานี ที่ปัจจุบันมีราคาอยู่ที่ 24,000 บาทต่อตัน แต่ราคาประมูลเฉลี่ยอยู่ที่ 16,000 บาทต่อตัน ทำให้มีส่วนต่างของราคาปัจจุบันอยู่ที่ 8,000 บาทต่อตัน เป็นต้น รวมความเสียหายทั้งหมดจากการประมูลหลายหมื่นล้านบาท จึงมีพฤติ กรรมส่อไปในทางทุจริต ขณะนี้อยู่ระหว่างรวบรวมหลักฐานและปรึกษาพรรคว่าจะดำ เนินการอย่างไรต่อไป เรื่องนี้สามารถยื่นอภิ ปรายไม่ไว้วางใจและยื่นถอดถอนรัฐมนตรีได้ ตนมีพยานซึ่งเป็นผู้เข้าร่วมประมูลข้าวด้วย
ที่ จ.อุดรธานี นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส. สัดส่วน พรรคเพื่อไทย แกนนำคนเสื้อแดง ให้สัมภาษณ์ถึงการชุมนุมใหญ่วันที่ 27 มิ.ย.ว่า มีหลายเรื่องที่จะตีรัฐบาล เรามีข่าวเชิงลึกอยู่มากโดยเฉพาะเรื่องรถเมล์ แต่ในวันที่ 14 มิ.ย.แกนนำทั้งหมดจะยกพลมาปราศรัยที่เวทีทุ่งศรีเมืองอุดรฯ จะเหมือนกับที่สนามหลวงทุกอย่าง นอกจากนี้ยังจัดปราศรัยย่อยตามภาคต่างๆ ทั้งภาคเหนือและภาคกลาง ก่อนจัดงานใหญ่วันที่ 27 มิ.ย.
ฟันธงรัฐบาลอยู่อีกไม่นาน
ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ประธานส.ส.พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงโครงการเช่ารถเมล์เอ็นจีวี 4,000 คันว่า เชื่อว่าโครงการนี้จะไม่สามารถผ่านความเห็นชอบของรัฐบาลได้ เพราะจากรายชื่อคณะกรรมการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ที่ครม.มีมติมอบให้ไปศึกษาเรื่องนี้ มีหลายฝ่ายตั้งข้อสังเกตว่ามีความใกล้ชิดกับรัฐบาล คงไม่ยอมให้โครง การนี้ผ่านความเห็นชอบ ซึ่งจะสร้างความขัดแย้งให้เกิดขึ้นในพรรคร่วม รวมทั้งปัญหาข้าวโพดและการรับจำนำข้าว ส่งผลให้รัฐบาลเกิดปัญหาเสถียรภาพ และทำให้บริหารประเทศได้อีกไม่นาน ถ้านายกฯ ยังไม่รีบตัดสินใจอย่างใดอย่างหนึ่งจะยิ่งทำให้สถานภาพของรัฐบาลย่ำแย่ลงเรื่อยๆ
ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวถึงกรณีศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่าการออกพ.ร.ก.กู้เงิน 4 แสนล้านบาทไม่ขัดรัฐธรรมนูญ ว่า พรรคเพื่อไทยยอม รับมติของศาลรัฐธรรมนูญ แต่พรรคจะนำคำวินิจฉัย ของศาลรัฐธรรมนูญเป็นบรรทัด ฐานในการทำงานหากต้องออกพ.ร.ก.กู้เงิน เมื่อเกิดปัญหาขึ้น เช่นเดียวกับที่พรรคประชาธิปัตย์ทำ หากได้กลับมาทำหน้าที่ฝ่ายรัฐบาลอีกครั้ง