กกต. 4 มิ.ย. - “สดศรี สัตยธรรม” ไม่พอใจ อนุกรรมการปฏิรูปการเมืองกดดันให้ กกต.ลาออก อ้างมีที่มาไม่ชอบ ย้อนถาม กกต.ไม่ชอบ แล้ว ส.ส.-ส.ว. ที่ กกต.รับรองชอบหรือไม่ เตรียมหารือที่ประชุม กกต. เพิกถอนหนังสือรับรอง ส.ส.-ส.ว. ชี้ เป็นประเด็นการเมืองที่เห็นว่า ออกกฎหมายนิรโทษกรรมยาก ล้มคนทำหน้าที่ง่ายกว่า
นางสดศรี สัตยธรรม กกต. ให้สัมภาษณ์ กรณีที่อนุกรรมการปฏิรูปการเมือง เสนอให้ กกต. ลาออก เพราะมาจากแต่งตั้งของ คมช. และไม่ได้รับการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง ว่า เป็นเรื่องของการเมือง และนักการเมือง ที่เวลาไม่พอใจ กกต. หรือ ป.ป.ช. ก็จะพูดเช่นนี้ พร้อมย้อนถามว่า หาก กกต.มาโดยไม่ชอบ ส.ส.และ ส.ว. ที่ กกต.รับรอง จะชอบหรือไม่ ก็ต้องไม่ชอบเช่นกัน
“ถ้าอนุกรรมการที่ต้องขึ้นมาเพื่อสร้างความสมานฉันท์ ไม่อยากให้เกิดความสมานฉันท์ ก็สามารถทำได้ กกต.จะหารือกันว่า จะต้องเพิกถอนหนังสือรับรอง ส.ส.-ส.ว.ทั้งหมดหรือไม่ เรื่องนี้เป็นอำนาจของ กกต. เมื่อหารือแล้วก็ต้องลงมติ และเมื่อเพิกถอนแล้ว ส.ส.-ส.ว. ก็จะไม่มีสถานภาพ” นางสดศรี กล่าว
นางสดศรี กล่าวว่า ที่พูดเช่นนี้ไม่ใช่ขู่ แต่เป็นการตีความกฎหมาย ถ้าบอกว่า คมช. ไม่มีอำนาจแต่งตั้งองค์กรใด ๆ เลย ทุกอย่างจะเสียหายไปหมดไปทั้งประเทศ และย้ำว่า จะนำเรื่องนี้เข้าสู่ที่ประชุมเพื่อหารือว่า ถ้า กกต. มาโดยไม่ชอบ การเลือกตั้ง วันที่ 23 ธันวาคม 2550 จะถูกต้องหรือไม่
ต่อข้อถามว่า หากนายกรัฐมนตรีพ้นสภาพการเป็น ส.ส. ระหว่างรักษาการจะยุบสภาได้หรือไม่ นางสดศรี กล่าวว่า จะต้องให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความ เพราะ กกต. จะให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยเช่นกันว่า กกต. มีที่มาโดยชอบหรือไม่ เพราะถือว่ามีการโต้แย้งในข้อกฎหมายเกิดขึ้นแล้ว กกต. ก็จะต้องดูว่า การปฏิบัติหน้าที่ของเราถูกต้องหรือไม่
ผู้สื่อข่าวถามว่า มองว่าอนุกรรมการปฏิรูปการเมืองเสนอเช่นนี้ มีจุดประสงค์อะไร นางสดศรี ย้ำว่า เป็นประเด็นการเมือง ที่เห็นว่า กกต. เป็นปัญหา เพราะมีการเจาะจงเพียง 2 องค์กร ที่มาจาก คมช. เท่านั้น คือ มองแล้วว่า แก้กฎหมายนิรโทษกรรมยาก ก็ต้องล้มบุคคลที่ทำหน้าที่ ที่นำไปสู่การยุบพรรค ซึ่งไม่ยากเย็นอะไร
“อย่าทำอะไรในลักษณะที่แบ่งแยกว่า เฉพาะ 2 องค์กรนี้ ที่มาจาก คมช. แล้วไม่ชอบ แต่องค์กรอื่นที่ทำเรื่องของกระบวนการยุติธรรมชอบหรือไม่ เพราะ คมช. แต่งตั้งเหมือนกัน และถ้าเราไม่ชอบ แล้วอนุกรรมการที่แก้ไขรัฐธรรมนูญ ถือว่าชอบหรือไม่ เมื่อรัฐธรรมนูญ ปี 50 ที่มาจาก ส.ส.ร. ชอบหรือไม่” นางสดศรี กล่าว