เฉลิมชัยสยบข่าวร้าว ยันไม่เคยคิดย้ายพรรค

เรียกร้องตำแหน่ง เชื่อผู้ใหญ่ในพรรคเข้าใจดี หยอดคำหวานกับนายกฯ แค่มองตาก็รู้ใจแล้ว ย้ำชัดจะไม่เอาศักดิ์ศรีคนประจวบฯ แลกตำแหน่ง เหตุไม่ได้เล่นการเมืองแค่ปีเดียว ส่วนปรับครม.ไม่มีชื่อในโผ ก็ไม่มีปัญหา...

นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และส.ส.ประจวบคีรีขันธ์ กล่าววันนี้ (2 มิ.ย.) ถึงกระแสข่าวการย้ายพรรค และการถูกขึ้นแบล็คลิสจากผู้ใหญ่ในพรรคว่า

เรื่องทั้งหมดไม่มีอะไรเลย ทั้งประเด็น 40 ส.ส. ซึ่งส่วนตัวเองก็ไม่ทราบว่าข่าวออกมาจากไหน ส่วนเรื่องการย้ายพรรคก็เป็นเพียงข่าวที่ออกมาตลอดเวลา เช่นเดียวกับข่าวที่ออกไปเรื่องการต่อรองเรียกร้องตำแหน่ง ทั้งที่ตนได้ยืนยันมาตลอดว่า คำว่าย้ายพรรคในวันนี้ยังไม่มีอยู่ในหัวสมองเลยแม้แต่เสี้ยววินาทีเดียว

“ขอชี้แจงผ่านสื่ออีกครั้งไปถึงประชาชนว่า ตลอดชีวิตทางการเมืองมา 8 ปีกว่าที่อยู่พรรคประชาธิปัตย์ ไม่เคยมีการเรียกร้องต่อรองตำแหน่งใดๆ ในพรรคแม้แต่ครั้งเดียว เพราะมีศักดิ์ศรีพอที่จะไม่ทำเช่นนั้น” รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่า หลังจากข่าวออกมาอีกรอบจะมีการชี้แจงต่อผู้ใหญ่ในพรรคอีกครั้งหรือไม่ นายเฉลิมชัย กล่าวว่า
 
ส่วนตัวคิดว่าผู้ใหญ่ในพรรคเข้าใจที่ผ่านมาได้มีการพูดคุยกับนายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ โดยได้เรียนข้อเท็จจริงให้ท่านทราบทั้งหมด ซึ่งท่านก็เข้าใจว่าอะไรเป็นอะไร ส่วนผู้ใหญ่ท่านอื่นก็คิดว่าหลายๆ คนคงจะเข้าใจ เพราะทุกคนรู้จักตัวตนของตนดี ว่าตนมีนิสัยและพฤติกรรมอย่างไร

เมื่อถามต่อว่านายไตรรงค์ สุวรรณคีรี ส.ส.สัดส่วน ซึ่งเคยดูแลพื้นที่ภาคกลางมาก่อน ระบุว่า

นายวิรัช ปิยะพรไพบูลย์ พี่ชายนายเฉลิมชัย ได้ประสานเพื่อขอเข้าชี้แจงกับนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯ และเลขาธิการพรรค นายเฉลิมชัย กล่าวว่า  คงไม่ใช่อย่างนั้น ข้อเท็จจริงพี่ชายของตนสนิทกับนายไตรรงค์ ก็คงเป็นการชี้แจงข้อเท็จจริงทั้งหมดให้นายไตรรงค์ทราบ และก็เชื่อว่านายสุเทพ ก็คงเข้าใจตนเช่นเดียวกับนายกฯ จึงไม่ได้คุยกันเพราะคิดว่าไม่ใช่ปัญหาใหญ่ เพราะเคยบอกว่าแล้วว่าสำหรับตนกับนายกฯ แค่มองตาก็รู้ใจแล้ว

และเมื่อถามต่อว่า แต่ก็มีข่าวปล่อยออกมาเป็นระยะๆ นายเฉลิมชัย กล่าวว่า ก็ไม่เข้าใจข่าวที่ออกมา เพราะทุกข่าวไม่เคยมีตัวตนของคนพูด เพียงแต่อ้างแหล่งข่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่า มองหรือไม่เป็นกระบวนการทำลายทางการเมืองภายในพรรคประชาธิปัตย์นายเฉลิมชัย กล่าวว่า

สำหรับตนไม่อยากคิดไกลไปขนาดนั้น แต่ขอให้สังคมเป็นผู้หาคำตอบ และสรุปความเห็นเองดีกว่า แต่สำหรับตนแล้วยืนยันว่าไม่มีความคิดอคติใดๆ กับพรรคแม้แต่นิดเดียว

“ขณะนี้คงต้องทำงานหนักขึ้นกว่าเดิม เพราะเป็นรองหัวหน้าพรรค โดยจะทำให้พรรคเดินไปข้างหน้าได้ และทำให้ส.ส.ในพรรคอบอุ่นที่อยู่ในพรรคนี้” นายเฉลิมชัย กล่าว และเมื่อถามย้ำว่า ในการปรับ ครม.ครั้งต่อไปของพรรคอาจไม่มีชื่อนายเฉลิมชัยอยู่ในโควตาของพรรคคิดว่าอย่างไร นายเฉลิมชัย กล่าวว่า ไม่มีปัญหา เพราะตนเป็นรองหัวหน้าพรรคอย่างไรก็ต้องทำงานในพรรคต่อไป เพราะในชีวิตการเมืองของตนไม่เคยมีการต่อรอง หรือไปขอตำแหน่งใคร ถ้ามีพฤติกรรมอย่างนั้น สำหรับตนให้เลิกเล่นการเมืองดีกว่า ตนมีศักดิ์ศรี และไม่ได้เล่นการเมืองแค่ปีเดียว ยืนยันว่าจะไม่เอาศักดิ์ศรีของคนประจวบฯ ทั้งหมดมาขายกินอย่างแน่นอน ขอรับรอง และยืนยันว่าทั้งกลุ่มยังร่วมทำงานกับพรรคประชาธิปัตย์ อยู่ด้วยกันทั้งหมด ส่วนที่มีพวกมากตนก็พยายามถามทุกคนว่าการมีพวกมาก มีคนให้เกียรติมาเป็นเพื่อนมากผิดตรงไหน สังคมต้องตอบให้ตนด้วย สำหรับตนก็ยังจะเป็นเช่นนี้ เพราะเชื่อมั่นว่าที่ผ่านมาตนไม่เคยทำอะไรให้พรรคเสียหาย