ชูวิทย์ มั่นใจนายกฯไม่เว้นวรรค

รักษาการรองหัวหน้าพรรคชาติไทย


นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ รักษาการรองหัวหน้าพรรคชาติไทย กล่าวว่า ขณะนี้ พ.ต.ท.ทักษิณทั้งอ่วมทั้งน่วม เพราะท่านบอกว่าแค่หายใจแรงก็ผิดแล้ว ยังบอกอีกว่าคน กทม.ถูกหลอก แต่ก็ไม่รู้ว่านายสุรนันทน์ เวชชาชีวะ และนายพงษ์เทพ เทพกาญจนา ถูกหลอกมาใช้ด้วยหรือไม่ ไม่รู้จริงๆ ส่วนที่นายกฯบอกว่าไม่รู้ว่าจะเว้นวรรคหรือไม่นั้น แต่ว่าถึงจะเอาปืนมาจี้หัวท่านก็ไม่เว้นวรรค
ท้านายกฯลงสู้ศึกเลือกตั้งใน กทม.



ส.ส.พรรคไทยรักไทยตก


มีคนมาไล่ก็ไม่เว้นวรรค เอาคำพูดของตนเก็บใส่กระเป๋าไว้ได้เลย ท่านสู้แน่นอน ขอให้ดูลีลาและการทำงานต่อไปว่า จะขยับและเลื่อนไปเรื่อยๆ เพราะไทยรักไทยคงตายไปแล้ว ถ้านายกฯทักษิณไม่ลง บอกได้เลยว่า ส.ส.พรรคไทยรักไทยตกครึ่งสภาฯ เพราะรากหญ้าเขาเอานายกฯทักษิณ ถ้าไม่ลง ส.ส.ก็ตกหมด ขวัญหนีดีฝ่อไม่เหลือ จึงบอกว่าวันนี้ถึงเอาปืนมาจี้หัว นายกฯทักษิณก็ไม่ไป ถึงอย่างไรก็ต้องสู้

สนับสนุนให้มีพรรคใหญ่ 2 พรรค


ผมอยากบอกนายกฯทักษิณว่าที่ปืนจี้ไม่ออกแน่นอน และอยากจะบอกด้วยว่า ท่านพูดอะไร ทำอะไรไป ต้องเข้าใจว่าในเมืองไทยศาลก็ถือเป็นสถาบันที่สำคัญ ที่บอกว่าไม่เป็นกลางเป็นสิ่งที่ต้องระวัง เพราะคนระดับผู้นำประเทศ เมื่อพูดสิ่งใดจะมีผลกระทบกระเทือน ยิ่งใกล้ช่วงเลือกตั้ง ขอบอกว่าผมชอบของแรง เบาๆผมไม่ชอบ เพราะฉะนั้นถ้าท่านนายกฯ แรงไป 1 ผมจะแรงไป 2 ถ้าใครแรงมา 2 ผมจะแรงไป 4 มันไม่มีทางสมานฉันท์ และสมานฉันท์ไม่เกิด ตราบใดที่มีพรรคใหญ่ 2 พรรค และเป็นความโง่ของนักวิชาการที่ออกรัฐธรรมนูญ 40 โดยไม่เท่าทัน สนับสนุนให้มีพรรคใหญ่ 2 พรรค แล้วมันจะสมานฉันท์ได้อย่างไร จึงต้องมีพรรคชาติไทย อย่างไรก็ตามใครจะสมานก็สมานกันไป แต่การเลือกตั้งคราวนี้ผมไม่สมานกับใครแน่ นายชูวิทย์กล่าว

นักการเมืองอย่างชาวบ้าน เรียนปริญญาโท


ก็ระบุลูกผู้ดี แล้วต้องจบแบบแฮปปี้เอ็นดิ้ง ทั้งๆที่รัฐธรรมนูญชัดแล้วว่าชายและ
เหน็บ ปชป.ออกแคมเปญฝันหวาน

รักษาการรองหัวหน้าพรรคชาติไทยกล่าวว่า ส่วนกรณีที่พรรคประชาธิปัตย์ออกมาชูให้นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคเป็นนายกรัฐมนตรี แต่แคมเปญและนโยบายที่แถลงมา นักการเมืองอย่างชาวบ้าน เรียนปริญญาโทธรรมศาสตร์อย่างตน อยากจะขอบอกพรรคประชาธิปัตย์สักหน่อย ว่าการที่บอกว่าจะให้สิทธิสตรีเพิ่มขึ้น สงสัยว่าเป็นละครไทยหรือไม่ที่พระเอกต้องจบเมืองนอก นางเอกต้องเป็นหญิงมีสิทธิเท่าเทียมกัน แล้วนายอภิสิทธิ์จะมาทำอะไรอีก ส่วนกรณีที่บอกว่าจะขึ้นค่าแรง เคยเป็นจับกังมาก่สนับสนุนให้มีพรรคใหญ่ 2 พรรคอนจึงสงสัยว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องไตรภาคีระหว่างรัฐ นายจ้างและลูกจ้าง ลูกจ้างอยากขึ้นค่าแรงอยู่แล้ว แต่อยู่ที่นายจ้างด้วยว่าเขาเอาด้วย

นายชูวิทย์ตั้งแค้มหาเสียง


หรือไม่ ไม่ใช่เรื่องที่รัฐบาลอยากจะขึ้นเองได้ ถ้าอยู่ๆรัฐไปขึ้นค่าแรง ในขณะที่นายจ้างไม่เอาด้วย ก็อาจมีการปลดลูกจ้างได้

แย้มแคมเปญจี๊ด รู้นะ...คิดอะไรอยู่

นายชูวิทย์กล่าวต่อว่า การเลือกตั้งครั้งนี้ มีจุดยืนที่แน่ชัด ตั้งแคมเปญหาเสียงของตัวเอง เพราะเข้ากับใครไม่ได้ มีความคิดเป็นของตัวเอง อิสระเสรี แม้จะเคารพหัวหน้าพรรคและผู้ใหญ่ในพรรค แต่ก็มีจุดยืนของตัวเอง ถ้าอยู่ก็ต้องสู้ ส่วนแคมเปญยังไม่อยากบอกใคร เพราะเงินไม่เยอะ แต่นโยบายสำหรับพื้นที่ใน กทม.นั้นจะออกมาภายใน 1-2 สัปดาห์นี้ และนโยบายดีกว่า 3 ประการของพรรคประชาธิปัตย์

แคมเปญที่มีสีสันจี๊ดจ๊าด ไม่จืดชืด


ก็แล้วกัน เมื่อเห็นเวลาที่เหมาะสมแล้วจะบอกให้ทราบ จะทำให้คน กทม.เมื่อคิดถึง กทม.ต้องคิดถึงนายชูวิทย์ โดยจะเริ่มแคมเปญที่ว่า รู้นะ...คิดอะไรอยู่ จะเป็นประเด็นที่จะให้ความรู้กับประชาชน เพราะประชาชนต้องรู้ทันนักการเมือง ว่าเขาคิดอะไร จะเป็นแคมเปญที่มีสีสันจี๊ดจ๊าด ไม่จืดชืดหรือดูละครปัญญาอ่อน ขณะนี้พลพรรคชาติไทยให้ชื่อว่า พรรค 3 เขี้ยว กันแล้ว คิดเอาแล้วกันว่าเขี้ยวไหนเป็นเขี้ยวไหน


แหล่งที่มาของข่าว ไทยรัฐ

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์