ศาลฯ ไม่อนุญาตให้ทนายฯ พ.ต.ท.ทักษิณ แถลงเปิดคดียึดทรัพย์

กรุงเทพฯ 28 พ.ค. - ศาลฎีกาฯ ยกคำร้อง “พ.ต.ท.ทักษิณ” ขอให้ทนายความแถลงเปิดคดียึดทรัพย์ 7.6 หมื่นล้านแทน แต่อนุญาตให้ส่งบัญชีพยานเพิ่มเติม เพื่อประโยชน์ความยุติธรรม นัดไต่สวนพยานครั้งแรกเช้าวันที่ 16 ก.ค. นี้

ที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง สนามหลวง วันที่ 28 พ.ค. นายสมศักดิ์ เนตรมัย ผู้พิพากษาอาวุโสในศาลฎีกา

เจ้าของสำนวนคดีพร้อมองค์คณะรวม 9 คน ออกนั่งบัลลังก์นัดตรวจพยานหลักฐาน คดีหมายเลขดำที่ 14/2551 ที่อัยการสูงสุด (อสส.) ยื่นคำร้องขอให้ศาลมีคำสั่งยึดทรัพย์สินที่ร่ำรวยผิดปกติและได้มา เนื่องจากการกระทำที่เป็นการขัดกันระหว่างประโยชน์ส่วนบุคคลและประโยชน์ส่วนรวมของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นเป็นผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง จำนวน 76,621,603,061.05 บาท พร้อมดอกผลตกเป็นของแผ่นดิน

โดยศาลพิเคราะห์คำร้องของ พ.ต.ท.ทักษิณ ที่ยื่นเมื่อวันที่ 28 พ.ค. ขอให้ศาลมีคำสั่งอนุญาตให้ผู้รับมอบอำนาจของผู้ถูกกล่าวหา เป็นผู้แถลงเปิดคดีด้วยวาจา

เห็นว่ายังไม่มีเหตุเปลี่ยนแปลงคำสั่งเดิม เนื่องจากศาลได้มีคำสั่งก่อนหน้านี้อนุญาตให้ผู้ถูกกล่าวหาทำคำแถลงเปิดคดีเป็นลายลักษณ์อักษรแล้วจึงมีคำสั่งยกคำร้อง ส่วนที่ผู้ถูกกล่าวหายื่นคำร้องเมื่อวันที่ 26 พ.ค. ขออนุญาตศาลส่งบัญชีรายชื่อพยานและเรียกเอกสารหลักฐานที่อยู่ในความครอบครองของบุคคลภายนอกเพิ่มเติมนั้น พิจารณาแล้วเห็นว่าเพื่อประโยชน์ความยุติธรรม จึงอนุญาตตามคำร้อง

สำหรับผู้คัดค้านที่ 7, 8 และ 19 ยื่นคำร้องขอให้ศาลวินิจฉัยชี้ขาดข้อกฎหมายเกี่ยวกับทรัพย์สินของผู้คัดค้าน

เนื่องจากในชั้นคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) วินิจฉัยแล้วมีคำสั่งเพิกถอนการอายัดทรัพย์สินของผู้คัดค้านที่ 7, 8 และ 19 ไปแล้วเห็นว่ายังมีข้อวินิจฉัยอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับทรัพย์สินของผู้คัดค้านและผู้ถูกกล่าวหา เห็นควรให้ผู้คัดค้านฟังคำวินิจฉัยในส่วนนี้พร้อมคำพิพากษา

นอกจากนี้ศาลได้วางแนวทางกระบวนการพิจารณาคดีนี้ โดยให้ทนายความของผู้ร้อง ผู้ถูกกล่าวหา และผู้คัดค้าน

ตั้งคำถามพยานแต่ละปากเสนอต่อศาลพิจารณาไม่น้อยกว่า 15 วัน ก่อนเริ่มการพิจารณา หากพยานปากใดไม่สามารถมาเบิกความตามที่ศาลนัดได้ให้เลื่อนพยานปากอื่นมาเบิกความก่อน โดยนัดไต่สวนพยานผู้ถูกกล่าวหาครั้งแรกในวันที่ 16 ก.ค. นี้ เวลา 09.30 น.ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คดีนี้ศาลอนุญาตให้ฝ่ายอัยการผู้ร้องนำพยานเข้าไต่สวน 58 ปาก ใช้เวลา 25 นัด ส่วนผู้ถูกกล่าวหานำพยานเข้าไต่สวน 56 ปาก ใช้เวลา 25 นัด โดยศาลมีคำสั่งให้ไต่สวนฝ่ายผู้คัดค้านและผู้ถูกกล่าวหาก่อน ตาม พ.ร.บ.วิธีพิจารณาความอาญาขอผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองในศาลฎีกา มาตรา 35 วรรค 1 และข้อกำหนดศาลฎีกาฯ ข้อ 26 ที่กำหนดให้ผู้ถูกกล่าวหาต้องพิสูจน์ที่มาของทรัพย์สินต่อศาล.- สำนักข่าวไทย